http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,008,029
Page Views16,317,097
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ปักกิ่งหรรษา ตอน3 เรือใบเรือบิน

ปักกิ่งหรรษา ตอน3 เรือใบเรือบิน

ปักกิ่งหรรษา โดย อึ้งเข่งสุง
    
                                                             
                                                         

เรือใบเรือบิน 
     

"เตี่ย  เตี่ยมาจากเมืองจีนตั้งแต่อายุเท่าไรล่ะ?"  ผมเด็กชายตัวดำปึดถาม น้องชายผมนอนอยู่ข้างๆ หนุนหมอนใบเก่งสีคล้ำๆของเขาอยู่

"มาตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่กว่าจะมาได้ทะเลาะกับอาแปะ(ลุง)มึงหลายหน มีอย่างที่ไหน เตี่ยเรียนหนังสืออยู่ดีๆ มันจะให้ลาออกแล้วเดินทางมาเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เตี่ยกลัว แล้วก็ไม่เห็นอยากมาเลย " เตี่ยเล่าให้ฟัง

"เตี่ยไม่อยากมาแล้วมาทำไมล่ะ ไม่งั้นอั๊วก็เกิดที่ประเทศจีนแล้วซี ตัวอั๊วอาจจะขาวกว่านี้ก็ได้นะ" ผมแย้งแบบนึกๆ เอา

"เออใช่ แม่มึงก็คงจะตัวขาวๆ แบบชีๆ แปะแป๊ะแหละวะ นี่แม่มึงตัวดำแบบคนไทยมึงก็เลยดำยังกับผี ไอ้โอวกุ้ย"!  เตี่ยล่อผมซะแล้วถามสะกิดใจหน่อยเดียวล่อเป็นชุดดูท่ายังอารมณ์ค้างจากความโมโหอาแปะผมอยู่ไม่น้อย

"แล้วถ้ากูไม่มา อาแปะมึงมันก็ไม่ส่งเงินไปให้กูเรียนหนังสือ ก็เลยต้องมา" เตี่ยเล่าต่อหน้าตาบอกว่ายั้วอยู่

"แต่มาอยู่เมืองไทยแล้ว กูก็แกล้งมัน มันสั่งอะไรเป็นภาษาไทยกูก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ อาซ้อเมียอาแปะสั่งเป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว กูก็แกล้งฟังไม่เข้าใจ เพราะว่าจีนแต้จิ๋วไทยกับจีนแต้จิ๋วจีนก็ออกสำเนียงแตกต่างกันเตี่ยเริ่มสนุกกับการเล่าเรื่อง

"อ้าวเตี่ย แล้วไม่โดนอาแปะเตะเอามั่งหรือไง กวนอารมณ์แบบนั้นน่ะ" ผมแทรกขึ้นแบบนึกโมโหแทนอาแปะ เพราะว่าอาแปะที่ผมรู้จักเป็นคนดี ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจเย็น แล้วก็แจกขนมเก่ง แต่เตี่ยผมเองขี้โมโหน่าดู

"อาแปะมันไม่กล้ากับกูหรอก กูเป็นน้องชายคนสุดท้อง เป็นหน้าที่ของอาแปะมันต้องดูแลให้ดี ไม่งั้นก็ไม่ใช่พี่ใหญ่ แล้วอาแปะมึงรู้ภาษาหนังสือที่ไหน จะเขียนโพยไปเมืองจีนให้อาม้าอากง หรืออาโกวพวกมึง ก็ต้องอาศัยภาษาหนังสือกูนี่แหละ" ผมชักภูมิใจเตี่ยผมแล้วซี เตี่ยเป็นหนึ่งเดียวที่รู้หนังสือจีน มิน่า เตี่ยถึงเสียงดังใส่อาแปะบ่อยๆ แม้จะแยกครอบครัวแล้วก็ยังทำเขื่องๆ กว่าอยู่ วางมาดเป็นคนมีการศึกษาเชียว

"แต่มาคิดดูตอนนี้ อาแปะพวกมึงเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ดูแลน้องๆทุกคน แม้กระทั่งอากงอาม้าตายแล้วก็ยังคอยดูแลตลอด กูเองตอนหนุ่มๆ ก็อารมณ์แรงไปหน่อย ไม่ดีเท่าไรหรอกการเป็นคนขี้โมโห แล้วก็คิดว่าตนเองสำคัญอยู่คนเดียว" เตี่ยเสียงอ่อยๆ ลงไป นัยตาซึม เหมือนซึ้งใจ

"คิดได้ยังงี้แล้ว เตี่ยทำไมไม่ไปเยี่ยมอาแปะที่ตลาดบ่อยๆ ล่ะ จะได้ดีกันไง อั๊วไปด้วยนะ" ผมแอบยุ เพราะว่าถ้าไปทีไรผมได้ขนมกลับมากินบ้านทุ่งเยอะทุกที  เตี่ยพยักหน้าหงึกๆ

อั๊วไปด้วยนะเตี่ย น้องชายผมผะงกหัวขึ้นมาถาม

เฮ้ย ถ้าไปก็ไปได้คนเดียว ที่นั่งท้ายรถมีที่เดียว เตี่ยแซว

ผมนั่งที่ข้างหน้าได้นะเตี่ย น้องชายผมยังไม่ยอมแพ้ เตี่ยหัวเราะ

เจ็บก้นนะมึง เตี่ยต่อเติม มองหน้าน้องชายแล้วเอามือลูบหัวด้วยท่าทีเอ็นดู

สบายมากครับเตี่ย!” น้องชายเสียงใสขึ้นมาทันที

"เตี่ย  อั๊วสงสัยจังเลยว่า เตี่ยมาจากเมืองจีนได้ยังไง ไกลๆ อยู่ไหนก็ไม่รู้เลย" ผมถามอีกครั้งตามภาษาเด็กช่างถาม

"มึงจะถามไปทำไมนักหนาหือไอ้ดำ? " เตี่ยชักสงสัย

"โธ่ เตี่ยก็อั๊วอยากรู้ซี " ผมตอบตีสีหน้าเชิงขอร้อง

"เมืองจีนใหญ่โตเหลือหลาย ประเทศไทยนี่เล็กนิดเดียว ไม่ถึงอำเภอของเมืองจีนด้วย แล้วที่เมืองจีนก็มีชนชาติหลายเชื้อหลายภาษา พูดคุยกันแทบไม่รู้เรื่อง แต่ตอนก่อนเตี่ยมาเตี่ยได้เรียนภาษาจีนกลางมาบ้าง เพื่อติดต่อกันได้ทั้งประเทศ" เตี่ยอ้อมไปไกลเกินอยากรู้ แต่ก็ดีจะได้รู้เรื่องจีนมากขึ้น

"ตอนกูจำเป็นต้องตัดสินใจมาเมืองไทย กูต้องเดินเท้ามาจากบ้านในทุ่ง มาลงเรือใบที่เมืองแต้จิ๋ว มณฑลกวางตุ้ง มีแค่ห่อผ้าติดตัวมา อาหารอื่นๆ ก็เป็นเครื่องแห้งๆ พอก้อมแก้มกินประทังตายได้ มีเงินที่อาแปะส่งไปให้ใช้จ่ายตลอดทางที่นั่งๆนอนๆในเรือใบมา วันแรกที่เรือออกทะเลเมาเรือจนอ้วกแทบหมดตัว ไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลย ก็ดีเหมือนกัน กูหลับไปเพราะว่าเพลีย วันต่อๆมาก็ชินและแม้พื้นที่นอนจะแข็งกระด้าง กลิ่นเหม็นไม่รู้กลิ่นอะไรบ้าง แล้วก็กลิ่นอ้วก" เตี่ยระลึกถึงความหลัง แววตาเป็นประกายจ้า ผมกับน้องชายนอนฟังเพลิน เสียงสูงต่ำของเตี่ยเล่าได้เหมือนนิทานในวิทยุยังไงยังงั้นเชียว

"กูมาขึ้นท่าเรือที่มั่งก๊ก(บางกอก) มีญาติมารอรับกันเต็มไปหมด เสียงตะโกนเรียกกันเจี๊ยวจ๊าว ไม่มีระเบียบอะไรกับความดีใจ และความตื่นเต้น มันเป็นธรรมชาติของชนชาติจีนอยู่แล้ว พูดเสียงดัง ตะโกนหากันยิ่งดังกว่า" ผมกับน้องชายฟังเพลินจนหลับไปเมื่อไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเตี่ยค่อยๆ อุ้มผมและน้องชายทีละคนเข้าไปนอนในห้อง

ผมสะดุ้งตื่นอีกที นึกว่ายังอยู่ที่บ้านเกิด แต่ที่ไหนได้ความฝันหลอกหลอนผมแม้กระทั่งบนเครื่องบินหรือนี่ นี่ผมอยู่บนเครื่องบินที่กำลังบินไปยังประเทศจีน ประเทศของบรรพบุรุษผม แอร์เย็นจนหนาว ไม่มีเหงื่อไคลไหลย้อยอย่างที่เตี่ยนั่งเรือใบมาเมืองไทย ไม่มีกลิ่นสกปรกจากอาเจียน ไม่มีกลิ่นอาหารที่ฉุนเฉียวเพราะเครื่องเทศ ไม่มีพื้นแข็งกระด้างอย่างท้องเรือใบลำใหญ่ และก็ไม่มีอาการเมาคลื่นทะเลอย่างที่เตี่ยเผชิญมาเลย

ผมนั่งเรือบินจากประเทศไทยไปยังแผ่นดินเกิดของเตี่ย ผมกำลังจะได้ไปเห็นแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ และมีระบอบการปกครองที่เรียกว่าคอมมูนิสต์ แบบเหมาเจ๋อตุง  นักรบนักบริหารผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าเป็นสมัยเก่าก่อนก็คงต้องเป็นมหาราชแน่นอน   มองไปทั่วแถวที่นั่งใกล้กัน มีแต่คนเชื้อสายจีนจากประเทศไทย นี่เกิดอะไรขึ้นหรือ เปล่า เป็นเพียงรายการนำเที่ยวที่นำคนจีนจากประเทศที่มีคนจีนอพยพมาจากจีนกลับไปยังแผ่นดินแม่อีกครั้ง ผมอดใจไม่ไหวก็เลยถามเพื่อนร่วมเดินทาง

"เฮีย ไปจีนคราวนี้ไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติครับ?" ผมพยายามยิ้มยื่นไมตรี

"ไปเที่ยว ญาติไม่มีแล้ว ผมเป็นคนไทยมาสี่รุ่นแล้ว หาญาติไม่พบแล้ว อีกอย่างตระกูลผมมาจากเมืองแต้จิ๋ว แต่วันนี้ผมจะไปเที่ยวเมืองหลวง ปักกิ่ง ที่จริงก็ไปมาหลายครั้งแล้ว แต่ไปไม่หมดสักที ก็เลยอยากไปเที่ยวที่ที่ยังไม่เคยไปอีก" เฮียตอบยาวเลย ผมถามอีก

"แล้วทำไม มาเที่ยวแต่เมืองจีนล่ะครับ เมืองฝรั่งมังค่าไม่ไปบ้างหรือ?"

"ไปมาหลายประเทศแล้ว แต่ไม่ประทับใจเท่ากับกลับมายังแผ่นดินจีน อาจจะเพราะว่าผมมีเชื้อสายจีนอยู่ก็ได้นะ ก็เลยอยากมาแต่เมืองจีนมากกว่า พูดกันก็ไม่รู้เรื่อง แต่เดี๋ยวนี้ผมไปหัดภาษาจีนกลางมาบ้างแล้ว พอซื้อของได้ง่ายขึ้น คุณล่ะ มาเที่ยวหรือไง?" ผมถูกถามย้อน

"ผมเป็นข้าราชการกรม.......พาครอบครัวมาเที่ยวเมืองบรรพบุรุษเหมือนกัน แต่อยู่ที่แต้จิ๋ว แล้วก็ไม่รู้จักใครแล้ว เผอิญเมืองปักกิ่งมีอะไรน่าท่องเที่ยวมาก ไม่เคยมาเลย" อาเฮียพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

"ข้าราชการดีๆ ก็จะยากจน ข้าราชการที่ฉลาดมากก็จะร่ำรวย คุณคงเป็นประเภทที่รับราชการเป็นอาชีพมากกว่ารับราชการเพื่อแสวงหา ผมเข้าใจครับ"

อาเฮียแกพูดเหมือนแกสัมผัสชีวิตราชการมามาก เอ๊ะ หรือว่าแกก็เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่มีอาชีพเดียวกับผม หรือไม่งั้นก็คงติดต่อค้าขายกับข้าราชการไทยมาจนเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง แต่ก็อย่างว่า เดี๋ยวนี้ในทุกสังคมไทย มีที่ว่างตรงไหนบ้างที่ไม่มีคนไทยเชื้อสายจีนแทรกอยู่ มันมีกันอยู่ทุกตารางนิ้ว อย่างญาติผู้พี่ของผมคนหนึ่งเล่าให้ฟังด้วยความขบขันว่า

"ตอนที่เราไปเป็นผู้พิพากษาที่จังหวัดน่าน รถยนต์ประจำทางเป็นรถยนต์สีส้มติดพัดลม เผอิญไปนั่งคู่กับคนจีนดูเหมือนรุ่นเก่าแรกเหยียบแผ่นดินเมืองน่าน ด้วยมารยาทก็ถามแกว่าอยู่ที่เมืองน่านหรือ เป็นยังไงบ้าง เผื่อจะได้รู้ ได้รับคำตอบว่า ทำโรงแรมน่านฟ้าอยู่ที่ตัวจังหวัด เป็นโรงแรมไม้ที่ใครๆก็มาพัก และจัดงานเลี้ยงรับรองที่นี่   ดูท่าทางจะภูมิใจมากด้วย

"แล้วอาเฮียล่ะ มาทำอะไร เป็นเซลแมนขายอะไรหรือ?" คำถามชัดเจนตรงกับสภาพของผู้ถูกถาม เพราะว่าลูกผู้พี่ผมคนนี้หน้าตาท่าทางและถ้าไม่พูดก็ดูจะเป็นจีนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

"ผมไปเป็นผู้พิพากษาจังหวัดน่าน แทนคนที่เพิ่งย้ายออกไป" เท่านั้นแหละ อาเฮียแกเปลี่ยนท่าทีไป แล้วก็เลยรู้จักกันดี ต่อมาอีกหลายสิบปี พี่ผู้พิพากษาเกษียณแล้วไปจังหวัดน่านกับผมเพื่อประชุมมูลนิธิผู้สูงอายุที่ผมก่อตั้งขึ้นในอำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ผมและพี่ชายพยายามไปถามหาอาเฮียเจ้าของโรงแรมคนเดิม ปัดโธ่ คนถามหาอายุ 74 คนถูกถามหาจะอายุเท่าไร ปรากฏว่าแกไปเปิดโรงแรมอยู่เมืองผีเสียแล้ว ก็เลยยังไม่ได้พบกัน ก็คงอีกไม่นานเกินรอ?

เสียงกัปตันประกาศว่าเครื่องบินจะร่อนลงสนามบินปักกิ่งแล้ว ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมลง การสนทนาขาดช่วงไป และเมื่อเครื่องแตะพื้นสนามบินผมอดคิดไม่ได้ว่า วันนี้คือวันอันยิ่งใหญ่วันหนึ่งในชีวิตที่ผมจะมาเหยียบแผ่นดินจีน แผ่นดินมังกร แผ่นดินเตี่ยของผม แม้ว่าจะเป็นเพียงแผ่นดินที่อยู่ไกลแสนไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนของเตี่ยผมก็ตาม

แต่ผมก็ได้มาถึงยังประเทศที่ยิ่งใหญ่มโหฬารนี้แล้ว แผ่นดินที่มีกำแพงเมืองจีนเป็นสิ่งมหัศจรรย์หนึ่งในเจ็ดอย่างของโลก ไม่เบาทีเดียวนะ แผ่นดินเตี่ยผม ยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ แล้วผมก็ไม่ต้องนั่งเรือใบมาให้เหม็นแทบอ๊วกเช่นที่เตี่ยผมเคยเดินทางมาด้วย  เตี่ยผมมาเรือใบ(สำเภา) แต่ผมไปเรือบินครับผม

 

 

Tags : china tour

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view