http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,961,213
Page Views16,267,583
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ปักกิ่งหรรษา ตอน4 เหยียบแผ่นดินเตี่ย โดย อึ้งเข่งสุง

ปักกิ่งหรรษา ตอน4 เหยียบแผ่นดินเตี่ย  โดย อึ้งเข่งสุง

   

ตอน 4 เหยียบแผ่นดินเตี่ย

ทันทีที่เครื่องบินร่อนลงสู่สนามบินปักกิ่ง นักท่องเที่ยวทั้งลำหลายร้อยคนกรูกันออกจากเครื่องบิน หน้าที่หัวหน้าทัวร์ไทยเริ่มขึ้น ชูธงประจำทัวร์ทันที นักท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์จะเร่ไปห้องน้ำ นักท่องเที่ยวหน้าใหม่อย่างครอบครัวเราเกาะกลุ่มกันแน่น จะไปทางไหนก็กลัวหลง จนกระทั่งไกด์ตะโกนบอกว่า ห้องน้ำอยู่ทางไหน ไปแล้วมารวมตัวกันตรงนี้นะครับ นั่นแหละพวกเราถึงแยกกันไป

แต่พอถึงหน้าห้องน้ำ ผมเห็นภาพติดขวางไว้ใหญ่โตไม่น้อย ดูด้วยความพิศวงว่ามันคือสัญลักษณ์อะไรกันแน่ ภาพที่ว่านี้สีน้ำเงินสดใส เด่นชัด ติดขวางไว้ให้ทุกคนเห็นแบบเจตนา มองด้วยความงงๆ แต่ก็ทนกับการอั้นปัสสาวะไม่ไหวก็เลยหยุดคิดแล้วรีบเดินเข้าไปจัดการเสียหนึ่งที ออกจากห้องน้ำก็มายืนรอกลุ่มกับไกด์อีกครั้ง ผมยังอดมองภาพที่ว่านั้นไม่ได้

นี่ไอ้ลูกชาย ภาพที่ติดอยู่นั่นมันภาพอะไรวะ พ่อคิดไม่ค่อยออกเลยผมถามลูกชาย

อะไรก็ไม่แน่ใจเหมือนกันพ่อหนุ่มน้อยก็มองภาพไม่ออกเหมือนกัน

ผ่านขั้นตอนการเข้าเมืองทุกประการ สื่อสารกันด้วยความเงียบ ยื่นเอกสารแล้วก็ยืนรอรับเอกสาร  เกร็งๆ ตามประสาคนไม่ค่อยเคย แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือ พ้นกรรมวิธีหนึ่งก็ไปเจอกับอีกกรรมวิธีหนึ่งจนผ่านเสร็จสิ้น เห็นไกด์ชูธงอีกแล้ว ก็ต้องรีบเดินไปรวมกัน หลงกันไปคงปวดหัวไม่น้อย แต่สำหรับผมยังหันมามองภาพสีน้ำเงินสดใสแผ่นใหญ่นั่นอยู่ ทันใดก็เกิดคิดออกขึ้นมา

ปัดโธ่เอ๋ย พ่อนึกออกแล้วโว๊ย นั่นมันภาพผู้ชายเอามือกุมเป้ากางเกง ยืนย่อๆแบบอาการปวดแทบทนไม่ไหว อีกซีกหนึ่งก็เป็นภาพที่มีผมยาวกว่า เป็นผู้หญิงแน่ๆ ยืนย่อๆ คล้ายๆ กัน แล้วก็เอามือซุกหีบ เอ้ย ไม่ใช่ เอามือซุกหว่างขาตรงเป้าเช่นเดียวกัน ท่าทางอย่างนี้มันท่าปวดฉี่โว๊ย ไอ้ลูกชายแล้วผมก็หัวเราะเสียเป็นการใหญ่ จีนนี่ก็มีอารมณ์ขันไม่เบา เป็นภาพที่ไม่ใช่เล็กๆ ด้วยแต่ติดเสียอย่างใหญ่เลย พอมาถึงแผ่นดินเตี่ยผมผมเห็นอะไรก็น่าขำขัน น่ารักไปหมด มองอะไรก็รู้สึกสวยงามและสนุก

กลุ่มเราเดินตามขบวนออกมาหน้าสนามบิน รอรถบัสอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม การไปทัวร์จีนนี่แปลกนะ ทุกคนกลายเป็นเด็กยกกระเป๋าไปหมด ทัวร์ไม่ได้ช่วยเหลือใดๆ ตั้งแต่เลื่อนกระเป๋าในสนามบินก็ต้องไปรอแย่งยกเอาเอง ก็ไม่รู้ว่าทัวร์อื่นๆเป็นอย่างนี้หรือไม่ มันวุ่นวายจนไม่ได้ไปถามใคร แต่ที่แน่นอน ไม่เห็นเด็กยกกระเป๋าของประเทศนี้เลย ไม่เหมือนไปอเมริกาหรอกนะ ที่นั่นบริการทุกระดับเพราะว่าได้รับทิปดี แล้วดูเหมือนเป็นการเหมาจ่ายไปในค่าทัวร์หมดแล้วด้วย

พอถึงหน้าสนามบินระหว่างยืนรอกันอยู่ มีหนุ่มหน้าตี๋จ๋ามาคนหนึ่ง ถือธงสามเหลี่ยมสีเหลือง พูดไทยแบบสำเนียงจีนล้งเล้ง ได้ความว่าให้ขึ้นรถคันไหน ทุกคนกรูกันขึ้นเลือกที่นั่งตามใจชอบ เพราะว่ายังไม่รู้ว่าใครเป็นใครๆ ควรนั่งหน้านั่งหลัง ก็เลยเลือกนั่งเอาแต่ถนัด

รถเคลื่อนตัวออกไปเรียบๆ ไกด์ไทยถือไมค์พูด ผมมองไปดูรอบทิศทางเหมือนตื่นใจ

สวัสดีครับ ลูกทัวร์ทุกท่าน โอกาสนี้ก็ถึงประเทศจีนแล้ว ภาระหน้าที่ของผมสิ้นสุดลงตรงนี้ นับจากวินาทีนี้หน้าที่หลักจะตกเป็นไกด์จากประเทศจีน คุณโจว ……ชื่อไทยว่าคุณเกรียงไกร ผมขอแนะนำครับแล้วส่งไมค์ให้กับหนุ่มน้อยหน้าตี๋ทันที

สวัสดีครับ ลู่ทัวร์ทุกทั่น ผมชื่อโจว …..หรือเกรียงไกร ผมมีแซ่เดียวกับโจวเหวินฟะแหละครับ แต่ผมไม่โหล่(หล่อ) เท่าพี่โจวเขา ก็เลยไม่ได้เป็นพระเอกหนังระดับโล่ (โลก) ต้องมาเป็นไกด์นำเที่ยวพวกทั่นนี่ละ แต่ถึงอย่างไร ผมก็จะเป็นพระเอกตลอดตอนที่ทุกทั่นอยู่เมืองจีนของผม ผมเรียนภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งสองปี พูดได้ดีที่สุดเท่านี้แหละ ถ้าพูดผิดๆ ถูกๆ ก็ช่วยแก้ไขด้วยทุกคนปรบมือให้กำลังใจ มีเสียงตะโกนมาจากด้านหลังรถ

คุณโจว ลูกทัวร์ ไม่ใช่ลู่ทัวร์ คุณโจวหัวเราะเพราะว่ายังพูดไม่ขาดคำก็มีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยช่วยเหลือทันที คุณโจวลองออกเสียงอยู่นานก็ออกไม่ได้ ทุกคนขำความไม่ถนัดลิ้นของชาวต่างชาติ ก็อย่าว่าแต่คุณโจวเลย คนพัทลุงเมืองใต้บ้านเรายังออกเสียง ง.งูไม่ได้ ออกเป็น ฮ.ฮู เหมือนกัน แต่แล้วทันใด คุณโจวกลับพูดได้ถูกต้อง

ลูกทัวร์ ลูกทัวร์…..” เสียงปรบมือดังกระฉ่อนพร้อมเสียงหัวเราะ การสลายพฤติกรรมกลุ่มเป็นไปตามธรรมชาติ เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าแผ่นดินไหน ก็ขนาดเตี่ยผมมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่อายุ 16 ปีจนตายเมื่ออายุ 76 ปี ก็ยังพูดได้ไม่ชัดเท่าคุณโจวเลย ขอให้กำลังใจกับไกด์แผ่นดินจีน

จากนั้นคุณโจวก็เล่าเรื่องราวต่างๆในประเทศจีนให้ฟังไปตลอดทาง สองฝั่งถนนมีคนจีนปั่นจักรยานสองล้อกันเกร่อไปหมด ถีบปนเปกันไปบนถนนที่มีรถยนต์วิ่งนั่นแหละ รถยนต์บีบแตรดังแค่ไหน บรรดานักปั่นสองล้อก็เฉยๆ ไม่หลบไม่หันไปมองไม่ตกใจ ผมอดสงสัยไม่ได้ก็เลยถามคุณโจว

ทำไมไม่มีทางถีบจักรยาน   ไม่เกิดอุบัติเหตุบ่อยหรือ ครับ

ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุบ่อยหรอกครับ เพราะว่ารถยนต์ต้องกลัวรถถีบสองล้อ ถ้ารถยนต์ชนรถถีบ รถยนต์ต้องผิด ประชาชนธรรมดาถูกเสมอ

การจราจรไม่ติดขัดกันแทบทั้งวันเลยหรือครับผมถามอีก เพราะสงสัยว่ารถยนต์ก็วิ่งช้าๆ รถไฟฟ้าก็วิ่งช้าๆ รถถีบก็ถีบช้าๆอีก

รถไม่ติดหรอกครับ แต่ทุกคนขับช้าไปหมดเลยคุณโจวตอบแล้วอมยิ้ม

ถ้าเป็นอย่างนี้ในเมืองไทย ต่อโลงกันไม่หวาดไหว แล้วก็ถีบไม่ไหวอีก อากาศร้อนและฝุ่นละอองพิษมากทั้งเมือง ดีไม่ดีก็อาจได้ตายเพราะอากาศที่หายใจเข้าออกเสียก่อนถูกรถชนตายคนหนึ่งเสริมขึ้น คุณโจวยิ้มแล้วเล่าต่อว่า

รถแท็กซี่ที่นี่มีใบเสร็จรับเงินให้ เป็นรถของรัฐบาล คนขับรถต้องรับผิดชอบสูง เงินต้องส่งรัฐบาลส่วนหนึ่ง คนขับรถแท็กซี่ที่นี่ก็เลยกลัวคนโดยสาร จะเห็นว่ามีแผงกั้นระหว่างคนขับรถกับคนโดยสาร ซึ่งตรงกันข้ามกับเมืองไทยที่คนโดยสาร กลัวคนขับแท็กซี่

ข้อสังเกต ทัวร์นี้ไม่มีการแนะนำคณะลูกทัวร์ให้เกิดปฏิสัมพันธ์แต่อย่างใด อ่านชื่อจากเอกสารก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่พอคุณโจวบอกว่าถึงร้านอาหารแล้ว ทุกคนก็ลงตามกันเป็นแถว เรียบร้อยดี ผมประเมินดูแล้วคร่าวๆว่าทัวร์นี้มีความสมบูรณ์ดี เพราะว่ามากันทั้งหมดมีทั้งเด็กเล็กๆขนาด4-5 ขวบ จนถึงอาอี๊คนหนึ่งอายุกว่า 70 ปี ส่วนวัยหนุ่มสาวก็มี วัยกลางคนก็มี ส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว

ถึงภัตตาคารเป็นโต๊ะกลมแบบจีน เลือกที่นั่งแบบครอบครัวใครครอบครัวมัน ที่ว่างก็เสริมนั่งเข้ามาได้ นั่งแล้วไม่รู้จักกันก็เลยแนะนำตัวเองกันเอง จนจำหน้าและชื่อกันได้ครบสิบคนพอดี คนไหนอายุมากก็ให้เกียรติเรียกตามลำดับอาวุโส ทั้งโต๊ะมีความเป็นจีนที่นอบน้อมทุกคน โต๊ะเรามีผู้อาวุโสที่สุดอายุ 70 ปี พวกเราเรียกว่าอาอี๊ แล้วก็มีเด็กที่สุดชื่อน้องแนน อายุ  7 ขวบ มากับพ่อแม่ที่อุตสาหะพาอาอี๊ซึ่งเป็นคุณแม่มาเที่ยวสักครั้ง ในขณะที่ยังมาได้ไหว อาอี๊โชคดีที่ลูกชายคนเล็กรักและเอื้ออาทร อยากให้ได้มาเห็นมาเที่ยว  ไปเที่ยวทุกที่ที่ไปไหว ต่อไปก็หมดโอกาส อาอี๊พูดขึ้น

กลางคนหน่อยก็ครอบครัวผัวหนุ่มเมียสาว แต่มีความรักหวานชื่น คุณพิศิษฐ์กับคุณม่อม ต่อมาก็ครอบครัวผมสี่คน เต็มโต๊ะพอดี แรกๆนี่ก็ยังแนะนำแค่ชื่อเสียงสั้นๆ นามบัตรก็ยังไม่แลกเปลี่ยนกันด้วย เหมือนว่าดูท่าทีกันไปก่อนยังงั้นแหละ อาหารในแผ่นดินจีนมื้อแรก ตื่นเต้นดี มีเบียร์จีนมาบริการ คอเบียร์ไทยตัดสินใจทดสอบความแตกต่างทันที ผลปรากฏว่า จืดสนิทจริงๆ เหมือนดื่มน้ำกระแช่บ้านเรา แต่แรงน้อยกว่า แล้วราคาก็ถูกกว่าซื้อน้ำในเมืองจีนดื่ม พวกเราแหย่กันว่า ถ้าเป็นอย่างนี้อย่าซื้อน้ำเลย ซื้อเบียร์จีนดื่มแทนเถอะ จะได้ถูกตังส์

พออาหารมาส่งครบถ้วน ผมตกใจแล้วก็งุนงงเหมือนกัน ปลานึ่งในกระบะใหญ่โต แต่ปลาตัวนิดเดียว แล้วปลาที่นำมาให้ทดลองลิ้มรสชาดคิดในใจว่าคงเป็นปลาจีน มันกลายเป็นปลาตะเพียนบ้านเรานี่แหละ ตัวเท่าฝ่ามือ มันมาได้อย่างไร แน่นอนมันเป็นปลาน้ำจืด แต่มันได้ขึ้นโต๊ะทัวร์ในเหลาขนาดไม่เล็กเลยเชียวหรือ ก้างก็เยอะ ไม่มีการบั้งตัดก้างปลาเหมือนเทคนิคการกินปลาตะเพียนบ้านเรา  แต่ก็อย่างว่า อารมณ์เสียไปก็แค่นั้น

มื้อนี้อาหารมีระดับดีนะทุกคนงง มองหน้าผม ผมก็เลยต้องเฉลย

โดยเฉพาะปลาตะเพียนนี่แหละครับผมต่อให้อีกนิด ทุกคนมองหน้าแล้วงงๆ

พระเจ้าท้ายสระทรงโปรดปรานที่สุด ถึงกับตรากฎหมายปลาตะเพียนขึ้น ห้ามมิให้สามัญชนกินปลาตะเพียนทุกคนยิ้มแย้มแล้วร่วมเสวนาต่อทันที

ใช่ ใช่ อาหารฮ่องเต้เหมือนกัน” อาอี๊เสริมทันที

แต่สำหรับผมแล้วเจอกันไม่ได้ ผมบั้งก้างถี่ๆแล้วทอดจิ้มน้ำปลาใส่พริกขี้หนูสด เติมด้วยกระเทียมสดหั่นขวางอีกเล็กน้อย ข้าวสวยร้อนๆ อร่อยจริงๆ ครับ” ผมสาธยายต่อ เพื่อนร่วมโต๊ะสนใจฟัง

บางทีผมตกปลาตะเพียนได้จากแม่น้ำ ผมไม่ขอดเกล็ดออกเลย แหวะท้องควักไส้ทิ้งหมดแล้วชุบน้ำเกลือตากแดดๆเดียว ทอดกรอบทั้งตัวกินกับข้าวร้อนๆ อร่อยอีก” บางคนทำท่าน้ำลายสอ

ก้างมันไม่เยอะหรือคะ กินไม่ได้หรอกค่ะ” คุณม่อมพูดขึ้นบ้าง

ทอดกรอบแล้วกินได้หมดตั้งแต่หัว ก้างกลาง ยิ่งก้างฝอยกรอบหมด กินเกลี้ยงถึงหางและครีบครับ หรือถ้าได้ปลาสดๆ ต้มยำใส่พริกเผาตำรวมกับกระเทียมและหัวหอมแดงเผา โรยด้วยผักชีและใบมะกรูด หอมชวนกินที่สุดมีรอยยิ้มทั่วโต๊ะ เป็นอันว่าปลาตะเพียนตัวนั้น ผมกินคนเดียวจนหมดเรียบร้อย คนอื่นๆ เห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้ม

 

 

 

 

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view