เสี้ยวเครือ
ชื่อพื้นเมือง เสี้ยวต้น คางโค พาซิว เสี้ยวป่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bauhinia glauca (Wall.ex Benth.) Benth. Ssp. Tenuiflora (Watt ex C.B. Clarke) K. & S.S. Larsen
ชื่อวงศ์ LEGUMINOSAE CAESALPINIOIDEAE
นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์
ในประเทศ ป่าดงดิบแล้ง ริมห้วยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลาง
ในต่างประเทศ ลาว เวียดนาม กัมพูชา
ลักษณะทั่วไป
ต้นไม้ เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ไต่พันไปได้ 5-10 เมตร เปลือกนอกสีน้ำตาลแดง เปลือกในสีขาว มีรูระบายอากาศทั่วไป มีมือเกาะ
ใบ ใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม ตรงข้อเถาที่หักไปหักมา รูปใบกลม ปลายใบเว้าเป็น 2 พู พูลึก 1/3 ของตัวใบ ปลายพูใบกลมมน โคนใบเว้ารูปหัวใจ เนื้อใบบาง มีขนสั้น ๆ เส้นแขนงใบ 4 คู่ ขอบใบเรียบ ก้านใบยาว 1.5-2 ซม. มีขนสีน้ำตาลปกคลุม มีมือเกาะตรงข้อที่ใบแตกออก 2 เส้น
ดอก เป็นดอกช่อกระจะ กลุ่มดอกหนาแน่น ออกตรงข้อต่อของกิ่งที่ทอดยอด และช่อดอกตั้งตรงข้อชูช่อขึ้นท้องฟ้า โคนดอกเป็นรูปถ้วย ก้านดอกยาว 2-3 ซม. ฐานรองดอกมีกลีบเลี้ยงแฉกเล็ก ๆ กลีบดอก 5 กลีบ ปลายกลีบมน สีขาวสดใส กลางดอกมีเกสรผู้ 2 เส้น กลางดอกมีเกสรสีแดงดอกละ 2 อัน และแต้มสีแดงปากแตร มีกลิ่นหอมชื่นใจ
ผล เป็นฝักถั่วขนาดกว้าง 1-1.5 ซม. และยาว 5-9 ซม. ฝักอ่อนสีเขียว ฝักแก่สีน้ำตาลดำ
ระยะเวลาการออกดอกและเป็นผล
ออกดอก เม.ย.-ส.ค.
ฝักแก่ ก.ย.-พ.ย.
การขยายพันธุ์ เพาะกล้าจากเมล็ด หรือปักชำกิ่งจากต้น
การใช้ประโยชน์
ด้านเป็นไม้ประดับ เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ทอดยอดไปบนค้างหรือต้นไม้ ดอกกลิ่นหอมแรง ปริมาณดอกดกมาก มีแต้มสีชมพูสวยเก๋ ให้ร่มเงาได้กว้างขวาง กิ่งที่ห้อยย้อยพลิ้วตามลมได้สวยงามดี พัฒนาเป็นไม้ดอกเถาที่น่ามองยิ่ง ในป่าอนุรักษ์ก็นำไปปลูกและเพิ่มศักยภาพการเป็นไม้ประดับประเภทเถาเลื้อยได้ บางทีอาจได้ดอกสีแดง สีส้ม สีเหลือง นักผสมพันธุกรรมเร่งมือหน่อย
ด้านสมุนไพร สรรพคุณ
เถา ฟอกโลหิตระดู สลายลิ่มเลือด บำรุงโลหิต แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ผื่นคันตามผิวหนัง
ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แก้โลหิตประจำเดือนพิการ แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย