http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,999,878
Page Views16,308,528
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ปักกิ่งหรรษา ตอน 7 ปุ่มสวรรค์ที่หอฟ้าเทียนถาน

ปักกิ่งหรรษา ตอน 7 ปุ่มสวรรค์ที่หอฟ้าเทียนถาน

ปักกิ่งหรรษา ตอน ปุ่มสวรรค์ที่หอฟ้าเทียนถาน
โดย อึ้งเข่งสุง
                               
             แน่นอนว่ารายการท่องเที่ยว ณ จุดนี้ทัวร์ต้องจัดการนำเที่ยวทุกทัวร์ คนที่แห่กันมาจึงมากมายเหลือเกิน ส่วนไกด์สายไหนจะบรรยายอย่างไรไม่ทราบ เท่าที่ทราบตามที่ไกด์เล่าให้ฟัง สนุกดี บางกรณีก็น่าขำ ตามผมไปเที่ยวนะครับ แล้วจะทราบว่า มีอะไรดีหรือจึงต้องไปที่นี่

ที่หอฟ้าเทียนถานนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง ค..1421 เป็นช่วงเวลาสร้างใกล้เคียงกับการสร้างพระราชวังโบราณที่ไปท่องเที่ยวกันมาแล้ว ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่มีเนื้อที่ 1,700 ไร่ เป็นสวนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ทางด้านทิศเหนือเป็นรูปครึ่งวงกลม สมมติฐานกันว่าเป็นส่วนของบันไดที่เชื่อมต่อกับสวรรค์ ดังนั้น ในทุกวันที่ 22 ธันวาคม ของทุกปี อันเป็นการเริ่มต้นฤดูหนาว องค์จักรพรรดิทุกพระองค์จะถวายรายงานต่อฟ้าถึงผลงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และขอพรจากฟ้าเพื่อให้ปีต่อไป ร่มเย็นเป็นสุข ทำมาค้าขึ้น ปลูกพืชผลได้ผลดีคุณโจวเล่าด้วยความชำนาญ

คล้ายๆ พิธีวันพืชมงคลบ้านเราใช่ไหมครับ ในหลวงก็เสด็จมาทรงประกอบพิธีเสี่ยงทายทุกปี แล้วก็มีการพยากรณ์พืชผล น้ำท่า อาหารคนหนึ่งถามขึ้น

ผมก็ว่าจะคล้ายๆ กันนะครับ  แต่กรรมวิธีอาจแตกต่างกัน” ผมช่วยต่อเรื่อง คุณโจวเงียบ

แต่ก่อนการทำพิธี จะต้องมีการกินเจระยะหนึ่ง เพื่อความบริสุทธิ์ มีการเซ่นสังเวยด้วยวัว แพะ หมู” คุณโจวเล่าต่อ อ้อ ถึงพอดีครับ เชิญลงได้เลย

ในวันก่อนการทำพิธีองค์จักรพรรดิจะเสด็จไปยังพระตำหนักไจ่กง ทางตะวันออกเพื่อถือศีล วันรุ่งขึ้นจึงทรงฉลองพระองค์สีฟ้าเสด็จไปตามลาดพระบาทด้วยพระบาทเปล่าผ่านประตูบวงสรวงพืชมงคล (ซีเนียนเหมิน) ข้ามสนามสี่เหลี่ยมผืนผ้าเข้าตำหนักบวงสรวงพืชมงคล(ซีเนียนเตี้ยน) หรือหอฟ้า ตำหนักทรงกลมหลังนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร สูง 38 เมตร ตั้งอยู่บนระเบียง 3 ชั้น หลังคาก็เป็น 3 ชั้น หลังคาชั้นบนสุดรองรับด้วยเสาขนาดใหญ่ 4 ต้น หมายถึงฤดูกาล 4 ฤดู หลังคาอีก 2 ชั้น รองรับด้วยเสา 12 ต้น วงรอบในหมายถึงเดือน 12 เดือน วงรอบนอกหมายถึง 12 ชั่วยาม ในหนึ่งวัน ซึ่งนับตามระบบจักรราศรี 1 ชั่วยามเท่ากับ 2 ชั่วโมง   ฟังแทบไม่ทันจดตามก็ยากลำบากจริงๆ

บางครอบครัวหลีกไปถ่ายรูป บางคนไปห้องน้ำ แต่มีอีกหลายคนตามฟังเรื่องราวจากคุณโจวด้วยความสนใจ นี่เป็นเรื่องราวที่เป็นวัฒนธรรมประเพณีโบราณที่เคยมีความสำคัญมาก แต่ปัจจุบันนี้จีนใหม่ได้เลิกร้างไปหมดแล้วทุกอย่าง

คุณโจวครับ ประเพณีอย่างนี้ ในยุคสมัยนี้ยังมีการทำพิธีหรือเปล่าครับผมถามเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง

เลิกหมดแล้วครับ ประเพณีหลายๆ อย่างยกเลิก ความเชื่อ การเคารพหลายๆ อย่างหมดยุคสมัยไปหมด แม้แต่ศาลเจ้าต่างๆ ก็ร้างและรื้อหมดไปแล้ว เป็นเรื่องงมงายและเสียเวลาทำมาหากินคุณโจวพยายามอธิบาย ผมเองสนใจเรื่องศาลเจ้ามากพอฟังคุณโจวแล้วจิตรใจห่อเหี่ยวไปถนัดทีเดียว

เรื่องศาลเจ้าที่เมืองจีนเลยกลายเป็นเรื่องเก่าเล่ายี่ห้อ ถ้าอยากหาความรู้เรื่องศาลเจ้าคงต้องกลับไปที่กรุงเทพเสียแล้วครับคุณโจวแถมเหมือนรู้ใจ “ที่นั่นมีรูปเคารพมากเหมือนอดีต

ตรงหน้าหอฟ้าเทียนถาน มีแผ่นหินสามก้อนปูต่อกัน ถ้ายืนบนแผ่นที่หนึ่งหันหน้าเข้าหอฟ้าแล้วปรบมือจะมีเสียงสะท้อนกลับมาสองครั้ง และถ้าไปยืนบนหินแผ่นที่สอง ปรบมือจะมีเสียงสะท้อนสามครั้ง เอ้าลองกันดูได้เลยครับคุณโจวบรรยายเสร็จก็ชวนกันไปยืนบนหินก้อนที่หนึ่งแล้วปรบมือ ทำไปทำมาทุกคนปรบมือกันหมดไม่ว่ายืนบนก้อนที่หนึ่ง ที่สองหรือที่สาม ก็เลยไม่รู้ว่าเสียงสะท้อนที่ว่านั้นมันเป็นเสียงปรบมือของใครกันแน่ มึนครับ พวกที่ไปลองก็สนุกปรบกันใหญ่

เป็นไงครับ ตกลงได้ยินเสียงสะท้อนกี่ครั้งผมถามขึ้นคนหนึ่ง

ไม่รู้ มีเสียงใครปรบมือบ้างก็ไม่รู้ เสียงของเราก็เลยจำไม่ได้ว่ามันสะท้อนเสียงไหน” พูดจบก็หัวเราะที่รู้ว่าอาจถูกไกด์หลอกเล่นๆ ลูกเล่นอย่างนี้ก็แก้ร้อนแดดได้เหมือนกันนะเพราะว่ายืนกลางแจ้ง

ถัดจากนี้จักรพรรดิก็จะถวายคำนับป้ายพระวิญญาณบูรพากษัตริย์ ถวายเครื่องสังเวย เสด็จผ่านตำหนักฮว่างโฉ่งอู่ หรือโดมสวรรค์ คล้ายตำ หนักบวงสรวงพืชมงคล แต่เป็นชั้นเดียว ตำหนักนี้มีการบุฝาผนังที่ทำให้เกิดเสียงสะท้อนไม่มีที่ใดเหมือน บางทีจึงเรียกกันว่า ผนังก้องหรือผนังกระซิบคุณโจวทำงานหนักอย่างน่าสงสาร

เดินตามผมมาครับ ทางนี้มีทีเด็ด   คุณโจวร้องเชิญชวน พวกเรากรูกันตามไปทันที  ขึ้นบันไดไปบนลานกลมๆ กว้างพอควร ตรงกลางมีแท่นกลมๆอยู่แท่นหนึ่งสีขาว

เอาอีกแล้ว ลูกเล่นคุณโจวผมนึกในใจ


                                       
               “ที่เห็นเป็นเหมือนเวทีกลางแจ้งนั้นมีสามชั้น ถือกันว่าเป็นแท่นบูชา ชั้นสูงสุดอยู่ชั้นในสุด มีก้อนหินกลมวางอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยหินอีก 9 ก้อน วงรอบต่อไปก็มีหินวางอีก 9 ก้อน เป็นเช่นนี้เรื่อยไปจนถึงรอบที่ 9 ซึ่งเป็นรอบนอกสุด จะมีหินรวมกันทั้งหมด 81 ก้อน ส่วนแท่นบูชาชั้นกลางจะวางหินเป็นวงที่ 10 มีหิน 90 ก้อนไปจนถึงวงที่ 18 จะมีหิน 162 ก้อน แท่นบูชาชั้นล่างสุดเป็นวงที่ 19 มีหินวาง 171 ก้อน พอถึงวงที่ 27 ก็จะมีหิน 243 ก้อน” ไกด์เล่าต่อ

ทำไมตัวเลขมันสลับซับซ้อน เหมือนมีความหมายอะไรอยู่คนหนึ่งถามขึ้น

ใช่ครับ ในพิธีการบวงสรวง ตัวเลขมีความหมายเหมือนกัน ฟ้าเป็นหยางเหมือนกับเลขคี่ ซึ่งถือกันว่าเป็นเลขที่ยิ่งใหญ่มากมีเลขเดียวคือเลข 9 คุณโจวตอบ

ส่วนแท่นกลมตรงกลางชั้นสูงสุดนั้นเดิมเป็นหินสีน้ำเงิน แต่ต่อมาจักรพรรดิเฉียนหลงได้เปลี่ยนเป็นหินสีขาวแทนในปี ค..1749 แท่นนี้เรียกว่าแท่นบูชาฟ้า (ฮว่านชิ่วถาน) ตรงนี้แหละที่จักรพรรดิตรัสกับสวรรค์ ด้วยการคุกเข่าอ่านกระดาษเขียนคำบวงสรวงที่ทรงเขียนด้วยพระองค์เอง  เสร็จพิธีก็เผากระดาษบวงสรวงให้ลอยตามกลุ่มควันไฟไปในอากาศ ขึ้นสู่สวรรค์

ปัจจุบันนี้พิธีเหล่านั้นเลิกไปหมดแล้ว มันกลายเป็นอดีตที่เคยมีความสำคัญและมีความยิ่งใหญ่ทุกครั้ง คุณค่าความเชื่อดั้งเดิมเคยมีความหมายมาก และถือกันว่าเป็นเรื่องที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่คุณโจวยังบรรยายต่อไปด้วยความตั้งใจ

บนกลางแท่นกลมสีขาวตรงกลางนั่นบางทีก็เรียกว่าปุ่มสวรรค์ ถ้าใครได้ไปเหยียบจะได้ขึ้นสวรรค์

คุณโจวพูดยังไม่ทันขาดคำ คนบาปหนาจากเมืองไทยก็แย่งกันไปเหยียบบนปุ่มสวรรค์กันใหญ่ บางคนเหยียบไม่เหยียบเปล่ากระทืบอีกต่างหาก บางคนกระทืบหลายที ต้องย้ำเพราะว่ากลัวจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์เต็มที ผมยืนมองอยู่ข้างนอกแล้วก็อดนึกขำไม่ได้ อะไรจะปานนั้น  ดูแล้วบางทีก็นึกสงสารหินกลมแผ่นนั้นจัง เพียงเพราะคำพูดที่มีเงื่อนไข ก็เกิดโกลาหลได้ง่ายๆ นี่แหละปุ่มสวรรค์ที่หอฟ้าเทียนถานที่น่าสงสาร

เป็นยังไง คุณแม่ ถ้าจะได้ขึ้นสวรรค์หลายชั้นซี วนเวียนรอคิวซ้ำอยู่ได้” ผมถามแม่บ้านที่ไปรอขึ้นคิวสวรรค์หลายรอบ แม่บ้านอมยิ้ม แล้วตอบ

เผื่อสามีด้วยน่ะซี เผื่อจะล้างบาปไปได้บ้างพูดเสร็จก็ย้ายพุงหลามจากไปทันที ไม่งั้นก็อาจจะโดนสักป้าบสองป้าบ

                 

              “เอ้า เอากับเขาเหมือนกันหรือลูกสาว” ผมถามลูกสาวแบบยิ้มในใบหน้า

เขาเชื่อกันอย่างนี้ ไม่เชื่อได้หรือไง แล้วเชื่อก็ไม่เสียหายอะไรนะพ่อ ก็แค่ไปเหยียบตามเขาเสียหน่อยลูกสาวตอบพร้อมกับเบะปากใส่พ่อเสียด้วย

มันเป็นการเอาอย่างกัน บางทีก็น่าจะเพราะว่าบ้านเรายังมีเรื่องความเชื่อประเภทนี้มากอยู่ แต่ที่นี่เขาไม่มีเหลืออีกแล้ว เลยดูแล้วตลกดีนะลูกผมร่ายยาวเข้าบ้าง

แต่พ่อ ทำแล้วสบายใจก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรนะครับลูกชายช่วยพี่สาวแก้ตัวอีกคน

เอาดีก็ดี ถึงพ่อไม่ทำแม่เขาก็ทำเผื่อให้แล้วละ โอเค ไปต่อกันเถอะผมต้องยอมแพ้ค่าของความเชื่อ พวกเราตัดสินกันได้แล้วก็เดินตามคณะไปพลางๆ เห็นต้นไม้เก่าแก่อายุกว่า 500 ปี เป็นต้นสนชนิดหนึ่ง คงจะปลูกไว้สมัยที่สร้างหอฟ้าเทียนถานเลยละกระมัง สภาพต้นคดงอ ดูแก่ๆ อย่างนี้สวยไปอีกมิติหนึ่ง มองไปทางไหนก็มีต้นไม้เขียวครึ้ม เป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่น สะอาด สวยงาม และเล่าเรื่องราวในอดีตได้ไม่น้อย สิ่งก่อสร้างสร้างอย่างประณีต กลมกลืนกับสภาพทั่วๆ ไปได้อย่างสวยงาม

Tags : china tour

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view