ไหว้พระโตที่อ่างทอง
สิ้นสุดวันก่อนค่ำที่ตลาด 109 ปี ลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.อยุธยา
เวลาน้อย น้ำมันแพง เศรษฐกิจพอมีพออยู่ เพียงคิดจะพักผ่อนหย่อนใจสักวันหนึ่งของสัปดาห์ ต้องแลหาแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ไกล ไปกลับวันเดียวได้ ไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากนัก แต่ได้ความสุขของครอบครัวตามสมควร วันนี้แนะนำให้ไปใกล้ๆที่อ่างทองและสิ้นสุดที่ผักไห่ อยุธยา แค่นี้เอง รวมระยะทางไป-กลับประมาณ 250 กม.
ในพื้นที่ภาคกลาง จังหวัดที่มีพระโตมากที่สุดไม่มีจังหวัดไหนมีมากเท่าจังหวัดอ่างทอง เส้นทางท่องเที่ยวสะดวก รถยนต์ลื่นไหลไปได้อย่างรวดเร็ว แหล่งท่องเที่ยวโปร่งๆ ไม่แออัดยัดทะนาน มีวัดที่มีพระองค์โตๆมากมายหลายวัด ทั้งพระนั่งและพระนอน ขาดก็แต่พระยืนที่ยังไม่มีวัดไหนสร้างกันเลย วัดไหนกำลังคิดจะสร้างละก้อ เด่นเลย
พระยืนเรียกว่าพระปางเปิดโลก ส่วนจะหล่อหรือปั้นปูนก็แล้วแต่กำลังความสามารถและกำลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเป็นสำคัญ บางทีพระปางเปิดโลกจะได้ช่วยเสริมให้โลกทัศน์ผู้บริหารบ้านเมืองสว่างไสวไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอันเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะนความผาสุกมาให้กับแผ่นดินอย่างแท้จริง
ถ้าเริ่มต้นจากกรุงเทพ 06.30 น.ด้วยถนนสายเอเซีย มุ่งสู่จังหวัดอ่างทอง ถนน 6 เลนสะดวกมาก ก่อนถึงทางแยกเข้าจังหวัดอ่างทองมีป้ายซ้ายมือบอกทางว่าเลี้ยวซ้ายเข้าไปที่วัดจันทรังษี ที่นี่ท่านจะได้กราบไหว้หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ องค์โตในมณฑปสวยงาม จะนั่งสมาธิหน้าองค์พระสัก 15 นาทีให้จิตใจสงบ มีสติ และบรรลุความสุข ก็จะดีไม่น้อย
ออกจากวัดหลวงพ่อสดเข้าสู่ถนนสายเอเซียเส้นเดิม มุ่งข้ามแทงแยกเข้าจังหวัดอ่างทองไปเลยครับ พอเลยอำเภอไชโย กรุณามองหาป้ายบอกทางเข้าวัดไชโยวรวิหารได้เลย พอเข้าไปสัก 1กม.มีวัดสนามชัยอยู่ซ้ายมือ ที่วัดนี้มีหลวงพ่อสังกัจจายน์องค์โต ประดิษฐานอยู่หน้าวัด กราบไหว้พร้อมคำอธิษฐานจะได้บุญบารมีให้มั่งมีศรีสุข อุดมด้วยโภคทรัพย์สฤงคาร บริวารมากมาย
หลวงพ่อโต หลวงพ่อโตพรมรังษี
กลับออกจากวัดเลี้ยวซ้ายมือขึ้นถนนเส้นเดิม ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา เลี้ยวขวามุ่งสู่ลานจอดรถวัดไชโยวรวิหาร เพียงแค่เห็นโครงสร้างของอุโบสถหลวงพ่อโตวัดเกษไชโยก็ตกตะลึงกับความอลังการงานสร้าง เข้าไปซื้อธูปเทียนทองคำเปลว ตั้งสติท่องคาถาบนแผ่นจารึก ไหว้แล้วกราบเอาสิริมงคลใหญ่ๆใส่หัว ส่วนจะไหว้พระใหญ่จะได้บุญใหญ่หรือเปล่าต้องลองดูกันเอง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ออกจากอุโบสถหลวงพ่อโตเดินไปริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ร่มเย็นด้วยสายลมและไอเย็นจากแม่น้ำ ณ ที่นั้นมีรูปหล่อ หลวงพ่อโตพรมรังษี ประดิษฐานอยู่ มาวัดไชโยวัดเดียวกราบไหว้พระโตได้ตั้งสององค์ เรียกว่า ดับเบิ้ลโตเลยครับ
แต่พอออกมาหน้าอาคารริมน้ำ มีปลา นก สารพัดสัตว์ที่อยู่ในความเชื่อ ปล่อยแล้วได้อานิสงค์ผลบุญมากมี นอกจากนั้นยังได้ให้ทานเป็นอาหารปลาหน้าวัดอีกด้วย นั่งที่นี่ลมเย็นชื่นใจจนไม่อยากลุกไปไหนต่อเอาจริงๆ น่าแปลกครับ ที่ไหนก็ไม่ร่มเย็นเหมือนไปนั่งในวัด
วกกลับไปตามถนนคันคลองชลประทาน ป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวาเข้าไปวัดขุนอินทประมูล พระนอนที่สวยที่สุดในประเทศไทย ยาวที่สุดในประเทศไทย แม้ตากแดดตากฝนมานานนับร้อยๆ ก็ยังดูสวยงามจับใจ ยิ่งเข้าไปดูโครงกระดูกขุนอินทประมูลผู้สร้างด้วยแล้ว ยิ่งได้เรื่องราวที่น่าสนใจ เหตุใด ท่านถึงยอมตายถวายชีวิตเพื่อผดุงพระศาสนานักหนา
พระพุทธไสยาสน์วัดขุนอินทประมูล
ผ่านจากวัดพระนอนมุ่งสู่อำเภอเมือง เข้าตลาดอ่างทองอ่านป้ายบอกทางไปวัดต้นสนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นี่มีพระประธานในอุโบสถองค์โต สวยอลังการ กราบไหว้ให้ใจสงบ แล้วเดินลงหน้าวัด ที่นั่นมีแพสวยงาม จำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารปลา ท่านสามารถทำทานปลานับแสนๆตัวได้อย่างสนุกสนานและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ลมเย็นชื่นใจ ดื่มน้ำพักเหนื่อยสักยกแล้วค่อยเดินทางไปแสวงบุญต่อ
ออกจากวัดต้นสนเลี้ยวผ่านกลางใจเมืองอ่างทอง เป็นทางสามแพร่ง ท่านจะรู้สึกตกใจจนหงายเก๋งเมื่อท่านได้เห็นอ่างทองตั้งอยู่กลางไฟจราจร และเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเพียงต้นเดียวของเมืองอ่างทอง สองสิ่งนี้ท่านอาจจะตกตะลึงที่มีอนุสรณ์แห่งความศิวิไลซ์ไว้อวดความยิ่งใหญ่ของเมือง เดากันว่าจังหวัดสุพรรณบุรีคงจะเหลือใช้ก็เลยยกให้อ่างทอง 1 ต้น เขามีปัญญากันแค่นี้เอง
ถนนมุ่งสู่อำเภอวิเศษชัยชาญจะผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้คอสะพานปากทางแยกเข้าวัดโล่ห์ ซึ่งอยู่ซ้ายมือมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าอร่อยอยู่ ราคาทั่วไป เบิ้ลสองชามแล้วไปต่อได้เลยครับ พอหลุดแยกไปอำเภอวิเศษชัยชาญได้สัก 4-5 กม.ซ้ายมือมีป้ายบอกว่าวัดม่วง ก็มองเห็นความยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อองค์โตที่สุดในโลกคาตา เลี้ยวเข้าไปได้เลยครับ
หลวงพ่อโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่วัดม่วงมีเรื่องราวของนรกสวรรค์มากมาย พิพิธภัณฑ์การเกษตรกรรมเช่น เครื่องมือทำกินเกี่ยวกับการเกษตรกรรมเยอะไปหมด รอบอุโบสถจะเห็นกลีบดอกบัวหลวงสีชมพู แต่ละกลีบประดิษฐานด้วยพระเกจิดังจากทั่วประเทศ บนศาลาแก้วมีศพหลวงพ่อเกษมอดีตเจ้าอาวาสผู้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดม่วงขึ้นมาใหม่จนรุ่งเรืองละสังขารอยู่ในโลงแก้วให้กราบไหว้ได้ตามศรัทธา
ความอลังการเหนือใครอยู่ที่หลวงพ่อโตองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่อยากจะบอกเลยว่าหน้าตักกว้างเท่าไร สูงเท่าไร ไปดูเอาเอง จะได้เห็นกับตาและได้กราบไหว้ด้วยจิตใจที่ดีงามของพุทธศาสนิกชนเถอะ แต่พอขับรถออกมาจากวัดผ่านถนนมุ่งไปวัดสี่ร้อย มองเห็นแต่ไกลว่าใหญ่ ใหญ่จริงๆ
วิ่งรถผ่านตลาดศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ ถ้าอยากกินขนมลำเจียกและของฝากหลากหลายชนิด ฝีมือคนวิเศษชัยชาญจริงละก้อ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ร้านอยู่ใกล้ในตลาดนั่นแหละ มีหลายร้าน อร่อยๆทั้งนั้น ไม่ผิดหวังก็แล้วกัน หรือจะซื้อกับข้าวติดมือกลับบ้านก็มีให้เลือกมากมาย แต่เป็นอาหารพื้นบ้านเช่นปลาดุกย่าง น้ำปลาหวานอะไรเทือกนี้
คราวนี้ไปตามถนนคันคลองชลประทานจากตลาดศาลเจ้าโรงทองไปทางอำเภอผักไห่ จะผ่านวัดสี่ร้อย เลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดรถหน้าวัดได้เลยครับ ที่นี่จะมีเหลือให้เห็นอยู่สองอย่างคือ เจดีย์ทรงข้าวบิณฑ์ชื่อเจดีย์สี่ร้อย และหลวงพ่อโต มีแม่น้ำน้อยไหลผ่านหน้าวัด
รูปปั้นหลวงพ่อฝีมือช่างพื้นบ้านเมื่อปีพ.ศ.2456 วัดสร้างมาแต่ปีพ.ศ.2314 อันเนื่องมากจากขุนรองปลัดชู กองอาทมาตที่เข้มแข็งและมีฝีมือได้นำพาชาวบ้าน 400 คนไปจากหมู่บ้านนี้ เพื่อสู้รบกับอลองพญาแม่ทัพพม่าที่เมืองกุยบุรี เรื่องเล่าของวีระชนคนกล้าจากแขวงเมืองวิเศษชัยชาญจบลงที่ตายทั้งหมด 400 คน และนั่นคือที่มาของวัดสี่ร้อย
หลวงพ่อโตวัดสี่ร้อย
ต่อจากนี้ไปแดดเริ่มอ่อนลง รถยนต์มุ่งหน้าเข้าไปเขตอำเภอผักไห่ จังหวัดอยุธยา ผ่านบ้านหน้าโคกชุมชนญวนเก่าแก่ บ้านอมฤต บ้านปากคลองลาดชะโด แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปตามถนนลาดชะโด รวมระยะทางประมาณ 20 กม.เลี้ยวซ้ายเข้าที่จอดรถ ซึ่งมีทั้งจอดที่วัดและจอดหลังตลาด แต่ที่วัดกว้างขวางกว่ามาก
ขนมไทยๆ และร้านกาแฟโบราณริมน้ำ
ตลาดลาดชะโดโครงสร้างดั้งเดิมเป็นอาคารไม้ บานประตูมีทั้งเฟี้ยมและไม้ตับบานพับ ท่าน้ำมีหลายท่า มีเรือล่องคลองได้หลายลำ บนตลาดมีอาหารหวานคาวหลายอย่าง ส่วนใหญ่ของฝากยังเป็นของพื้นบ้านมากกว่าของที่ส่งมาขายจากตลาดทั่วไป มีการดัดแปลงทำ
โฮมสเตย์ เรือนแพพักนอน ฯลฯ มีทั้งห้องพัดลมและห้องแอร์
ค่ำลงก็คงต้องกลับบ้านเรา แต่ถ้ายังมีแรงและเวลาเหลือเฟือละก้อ วิ่งไปตามถนนสายไผ่ขวาง สุพรรณบุรี-ป่าโมก-ถนนสายเอเซีย พอถึงอำเภอป่าโมกเลี้ยวผ่านตลาดมุ่งสู่วัดป่าโมกวรวิหาร ที่นั่นมีพระพุทธไสยาสน์ ก็มีเรื่องเล่าเล็กๆครับ องค์พระโตขนาดกลางๆ แต่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
ตลาด-พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน-เรือนแพพัก
หมดแล้วครับวงจรวันเดียวเที่ยวที่ไหนดี ไหว้พระโตเมืองอ่างทองแต่มาฝากท้องที่ตลาด 109 ปี ลาดชะโด หรืออาจจะออกจากลาดชะโดแล้วแวะรับประทานอาหารที่ร้านอาหารประตูน้ำลาดชะโด เลือกปลาน้ำจืดได้หลายชนิดสดๆครับ รสชาติบ้านทุ่งผักไห่ทีเดียว อิ่มหนำสำราญแล้วเดินทางกลับบ้าน แค่นี้ก็เหนื่อยและหลับปุ๋ยแน่นอน โทร.08-5192-9912 สมศักดิ์ จองล่วงหน้าได้ครับ
นอกจากนี้ ยังมีตลาดโบราณและตลาดใหม่อีกหลายแห่งเช่น ตลาดน้ำวัดตะเคียน บางคูเวียง นนทบุรี ใกล้แค่นี้เอง มีเรือนำเที่ยวราคามิตรภาพ ชมวิถีชีวิตชาวสวนและชาวบ้านริมน้ำหลายสาย
ตลาดน้ำวัดตะเคียน
ลงเรือหางยาวท่องแม่น้ำลำคลอง ได้พบเห็นวิถีชีวิตหลายอย่างของชาวสวนที่มีบ้านอยู่รอมน้ำ ลมเย็นๆที่พัดสัดใบหน้าเรียกความสดชื่นได้ดีทีเดียว แทบไม่น่าเชื่อว่าบางอย่างยังเหลืออยู่และบางอย่างก็เปลี่ยนไปมาก แต่อย่างไรก็ตาม ไปตลาดน้ำวัดตะเคียนทั้งทีก็ยังได้ไปกราบไหว้หลวงพ่อแย้มขี่เสือ ศาลเจ้าแม่ตะเคียน ว่ากันว่า โชคดีกันไปหลายครั้งแล้ว
เรือขายต้นไม้ ร้านขายของชำ