http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,006,586
Page Views16,315,608
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จอมโกงจอมภู ตอนที่ 11 อีน้องท่าปี้ก่อนเถอะ

จอมโกงจอมภู ตอนที่ 11 อีน้องท่าปี้ก่อนเถอะ


                          

ตอนที่ 
11 อีน้องท่าปี้ก่อนเถอะ

 

      ที่หน้างานเช้าวันต่อมา

      วิเชียร  วันนี้ให้กลุ่มนายเผ่น  นายแก้ว นายไว นายแสวง นายฤทธิ์ นายเชื่อม ไปขุดดินทำทางเข้าหมู่บ้านตามที่ได้วางแนวถนนไว้แล้ว  รู้ใช่ไหม?” 

ประเสริฐสั่งงาน

      รู้ครับ  เอ้า! พวกเราไปได้ เบิกจอบ 

วิเชียรนำหมู่มือขุดถนนแบกจอบมุ่งหน้าไปที่ตีนดอยภูพยับหมอกหรือฝั่งซ้ายห้วยสามสบ  ซึ่งผู้ช่วยประเสริฐปักหลักแนวถนนไว้   พอถึงที่ก็ยืนเรียงหน้ากระดานระยะห่างคนละ 1 เมตร   รวม 6 เมตร  การตัดถนนสายหลักเข้าหมู่บ้านในฝันไม่ง่าย  ดินภูเขาแข็งปนด้วยหินกรวดและต้องขุดภูเขาที่สูงชันลงให้ต่ำจนเดินเข้าออกได้สะดวก 

      แหม  งานนี้หินที่สุดตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ 5 ปี ขุดอะไรไม่ขุด ดันมาขุดถนนด้วยการตัดภูเขา มีแต่หินๆๆ มือเจ็บไปหมดแล้วเผ่นบ่นพึมพำ

      ร้อนจริงโว๊ย ! มีน้ำแข็งสักกระติกก็แจ๋ว

เชื่อมบ่นบ้าง ทุกคนเหนื่อยและต้องทนแดดที่ส่องประกายกล้าแกร่ง บางคนถอดเสื้อออกมาเช็ดเหงื่อที่เปียกโชก  บางคนใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อจากหน้าผาก  และมีบางคนมีอารมณ์ขัน ใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกช่วงปลายแล้วหนีบรูปสาวเซ็กซี่จากปกหนังสือนิยายเล่มหนึ่ง โดยปักไว้ข้างหน้าออกไป 3 เมตร รูปดาราสาวคนหนึ่งใส่ชุดว่ายน้ำเห็นสัดส่วนอร่ามตา  ระหว่างที่ขุดไปพลางก็แหงนหน้ามองไปที่รูปแสนเซ็กซี่ที แล้วยิ้มกริ่ม

      อีน้อง ท่าปี้ก่อนเถอะ แฮมบึดปี้ก็จะถึงแล้ว

พลางก็ฟาดจอบลงดินดังปัก จอบกระดอนออกมาเพราะว่าไปกระแทกเอาหินเข้า ขณะที่ต้องสลัดมือจากด้ามจอบทันใด  ทุกคนมองด้วยความขำขัน

      ไอ้ฤทธิ์เอ้ย  อีน้องมึงช่วยไม่ได้หรอก หินแข็งขนาดนั้น  ร้อนก็ร้อนเผ่นแซว

      ถึงยังไงกูก็มีความหวัง เห็นแล้วเกิดอารมณ์ดีว่ะ ไม่ค่อยเหนื่อยด้วยทุกคนหัวเราะขำ

      แหม ! อยากให้หัวหน้ามาลองขุดดูบ้างจัง เผ่นพูดขึ้นลอยๆ  ทุกคนหัวเราะแล้วพูดพร้อมกัน

      มือคงแตกแหลกละเอียด เสียงหัวเราะดังขึ้นอีก

      มณีเดินมาจากไหนไม่มีใครเห็น แต่พอเสียงหัวเราะจบ มณีเดินมาจับจอบหลวมๆ จากมือเผ่น แล้วเงื้อขึ้นฟัน ฉับๆๆ

      กลุ่มมือขุดยืนมองดูเป็นของแปลก  ต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความประหลาดใจ  วิเชียรยืนมองด้วยความสมน้ำหน้ามือขุด  นินทานายนายก็โผล่มาพอดี

      ไง!  พอได้ไหมเผ่น? มณีจับด้ามจอบเป็นเท้าแขน ผ่อนแรงไปในตัว มองหน้าแต่ละคนที่มีแต่เหงื่อโทรมกาย

      พอได้ครับ  แต่ถ้าต่ออีกหน่อยก็จะเยี่ยมเลยครับ ไวเสริม

      เฮ้ย! จะหลอกให้ขุดแทนนี่หว่า

ทุกคนหัวเราะ  มณีวางแก๊กแล้วเหลือบไปเห็นรูปสาวงามที่ปักไว้ข้างหน้า

      รูปสาวที่ไหนน่ะ? มณีถามทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่าเป็นดาราแต่งชุดว่ายน้ำงามเหลือเกิน
                      


          "กำลังใจไอ้ฤทธิ์มันครับ
เผ่นตอบแต่ฤทธิ์หัวเราะเขินๆ  แล้วโต้ตอบเผ่น      

      ผมปักไว้ดูให้กำลังใจจะได้ฟันดินตัดถนนไม่เหนื่อย  แฮะๆๆ ฤทธิ์ตอบอีกที มณีหัวเราะงอกลิ้ง เผ่นต่อ

      มันฟันดินไปมันก็พูดพร่ำแต่ว่า อีน้องท่าปี้ก่อนเถอะ  เดี๋ยวปี้ก็ไปถึงแล้ว  มณีปล่อยก๊ากจนน้ำตาเล็ด  พลางก็นึก

      เข้าท่านี่  อารมณ์ขันมันจริงๆ ฤทธิ์  เยี่ยมๆๆ มณีพูดจบฤทธิ์และคณะหัวเราะกันครืน 

     

เข้าใจคิดดีว่ะ"   มณีเดินจากไปทางเรือนเพาะชำ  เสียงวิจารณ์ยังดังต่อ

      เฮ้ย ! นึกว่าหัวหน้าจะฟันดินไม่เป็น  แกเป็นว่ะ

      กูละนึกไม่ออกเลย ให้ตายซิ

      ความสงสัยเคลือบคลุมใจนักขุดแห่งภูพยับหมอก     เสียงวิเชียรดังขึ้นเพื่อตัดบทการคุย

      เอา ! ลงมือทำงานได้แล้ว  ได้ทีคุยไม่เลิกเลยนะมึง

ทุกคนหัวเราะแล้วก้มหน้าก้มตาขุด  เสียงจอบกระแทกใส่หินดัง
แคร๊กๆๆ  วิเชียรเดินมาดูแล้วส่ายหัว 

      แนวใครเจอหินก็หลบไปก่อน  พรุ่งนี้จะเบิกอีเตอร์ให้

      วิเชียรเห็นว่าการขุดดินยิ่งลึกก็ยิ่งเจอแต่หินผา  จอบทำงานไม่ได้ผลเท่าที่ควร  จึงไปรายงานผู้ช่วยประเสริฐ

      ผู้ช่วยครับ พรุ่งนี้ขอเบิกอีเตอร์เถอะครับวิเชียรรายงานผู้ช่วย 

      เจอหินแล้วละซิ  พรุ่งนี้ออกงานก็มาเบิกได้เลย

ประเสริฐรู้คำตอบอยู่แล้ว จึงตระเตรียมอุปกรณ์ไว้พร้อม การขุดถนนเป็นไปด้วยความยากลำบาก  แม้ขุดลงถึง 2 เมตรจากดินภูเขาเดิมก็ยังสูงชันจนเดินข้ามด้วยความเหนื่อยอ่อน  ทุกเย็นเสร็จงานขุดฤทธิ์ก็จะจัดเก็บรูปเข้าข้างทาง มีใบไม้คลุมไว้กันเปียกชื้นจนเป็นกิจวัตร 

      พี่ไปก่อนนะจ๊ะ  พรุ่งนี้พบกันใหม่  บ๊ายบาย

ฤทธิ์ร่ำลานางในฝันแล้วก็แบกจอบกลับบ้าน เพื่อนอดยิ้มไม่ได้

คืนนี้ มันก็กลับไปล่ออีช้างอีกนั่นแหละ เสียงนินทาตามหลังดังพร้อมกับเสียงหัวเราะ

      เช้าวันต่อมาทุกคนได้เครื่องมือใหม่ อีเตอร์และควบจอบอีกหนึ่งด้าม  พอจะลงมือขุด ทุกคนยิ้มด้วยอารมณ์ดีและขำๆ  เพราะว่าฤทธิ์เดินเข้าไปหารูปที่ซ่อนเอาไว้  พลางมองดูด้วยความสดชื่น แล้วก็ปักรูปไว้ข้างหน้าเช่นที่ทำทุกวันๆ

      อีน้องท่าปี้ก่อนเถอะ บึดปี้ก็จะไปให้ถึงนะจ๊ะพลางส่งสายตาเยิ้มใส่ฤทธิ์พึมพำเช่นทุกวัน  เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจและน่าเห็นใจ

      มึงคิดดูซี มันกลับไปถึงบ้าน มันต้องทนดูรูปร่างเมียมัน น้องๆ ช้าง

เผ่นพูดเหมือนเห็นใจเสียเต็มประดา หลายคนยิ้มหัวแล้วก็เสริมว่า

      บ้านกูอยู่ติดบ้านมัน  พอตกกลางคืน กูมองหาว่าอะไรวะเสียงครืดๆๆ  แล้ววันหนึ่งกูตากผ้าแล้วลืมเก็บนึกได้ก็ดึกแล้วจึงเดินไปเก็บผ้าที่ตากไว้ข้างรั้ว แม่ง! วันนั้นกูรู้เลยว่าเสียงครืดๆ ที่สงสัยมานานนักหนานั้น มันคือเสียงอะไร

ไวนิ่ง ทุกคนรอฟังด้วยความสนใจ แล้วเล่าต่อ

 เป็นเสียงนอนกรนของอีอ้วนเมียไอ้ฤทธิ์มันนี่เอง

ไวเล่าด้วยความสนุก  ฤทธิ์เดินเข้าที่ทุกคนนิ่ง แต่มองเมียงด้วยรอยยิ้ม      ตกเย็น งานเลิก ทุกคนเก็บอุปกรณ์แล้วเดินกลับบ้าน ฤทธิ์ยังคงปฏิบัติต่อสาวโฉมงามอย่างทะนุถนอมเช่นทุกวัน

แต่เมื่อกลับถึงบ้าน กินข้าวเสร็จยังไม่ทันเรียงเม็ด เสียงเคาะระฆังเปิดประชุมหน่วยเริ่มขึ้น  ทุกคนเดินทยอยกันไปที่ทำการเช่นที่เคยเป็น เสียงหัวหน้าดังขึ้น

      ผมอยากจะบอกว่า  นับแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป  จะแบ่งหมู่เพื่อขุดสนามหญ้า ณ จุดที่จะสร้างโรงเรียน  เลิกงานแล้วพวกที่ต้องมาขุดก็ต้องขุดตกแต่งให้สนามโรงเรียนสวยงาม

       พวกผมละครับ  กลางวันขุดถนนทางเข้าหมู่บ้านทุกวัน ต้องขุดอีกไหม?เผ่นถาม

      ขุด !  คนละเรื่องกัน เพราะว่าขุดกลางวันเป็นงานหลวงได้เงิน แต่ขุดกลางคืนเป็นงานพัฒนาไม่ได้เงินมณีตอบตามความจริง มีเสียงร้อง 

โอยๆ  ตายแน่ๆ อ้าย หวังเสียงเผ่นครวญเป็นเพลง

ไม่ตายหรอกน่า  งานพัฒนาทำกันไม่กี่ชั่วโมง ยิ่งถ้าผู้ช่วยตีเส้นแบ่งให้เป็นล็อคๆ ก็กะได้ว่าไม่เหนื่อย 

มณีพยายามอธิบาย

กลางวันก็ขุดๆๆ จนมือด้านหมดแล้ว กลางคืนขุดอีก แต่เพื่อส่วนรวมและตัวเราเอง ผมขุดครับ

สิ้นเสียงเผ่นกลับได้ยินเสียงปรบมือกราวใหญ่ เผ่นยิ้มด้วยความภูมิใจ

สนามหน้าโรงเรียนถ้าขุดเรียบดี ลูกหลานเราก็จะมีที่วิ่งเล่น  ออกกำลังกาย ถ้ามีงานหมู่บ้านก็จัดหน้าโรงเรียนนี่แหละ ขอให้ช่วยกันเหมือนเคยมณีสรุป

หลังจากนี้ จะสร้างอาคารเรียนใช่ไหมครับ ขุดอีกไหมครับ?เชื่อมถามบ้าง

คราวนี้ไม่ขุดครับ แต่ขนดิ้นไปถมให้เป็นเนินสูงๆ กว่าสนาม เพื่อว่าอาคารชั้นเดียวที่จะสร้างจะได้ดูดี

มณีตอบ มีเสียงฮือดังขึ้น  ไม่ขุดแต่ถม!”

เรื่องต่อไป  ผู้ช่วยประเสริฐจะมาเล่าต่อครับ  แต่คืนนี้ไม่มีหนังกระด้างนะครับมีเสียงร้อง

โอย ! ก็เหงาแย่เลยโดยเฉพาะเด็กที่นั่งหน้าสลอนทำหน้าเซ็งๆ

ผู้ช่วยประเสริฐขึ้นมาเล่าเรื่องงานพัฒนาที่จะทำลำดับต่อๆไปอย่างคล่องแคล่ว  เป็นงานพัฒนาทั้งสิ้น  ชาวบ้านนั่งฟังไปก็อดถามไม่ได้  การพูดคุยและแสดงความคิดเห็นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะว่าทุกครั้งผู้ช่วยพูดด้วยเสียงค่อยๆ ทุกคนกลับนั่งกันนิ่งไม่อย่างนั้นก็ฟังไม่ได้ยิน  แต่ได้ประสิทธิภาพของการประชุมยิ่ง  ไม่ตลกหน้าตาย ไม่ใส่ลูกเล่น แต่จริงจังประหนึ่งจะออกทัพจับศึก มณีมองด้วยความดีใจหายห่วง  ทุกอย่างมีกรอบของหน้าที่ และมีคนทำหน้าที่ สบายไปแปดอย่าง

คืนนั้น เผ่น ไว เชื่อม เดินตามหลังกลุ่มกลับบ้านพัก

แกล้งไอ้ฤทธิ์เล่นไหม?” เผ่นพูดขึ้น

แกล้งยังไงวะ? เชื่อมไม่เข้าใจ

ก็..ไปเอาอีน้องไอ้ฤทธิ์ไปซ่อนไง เผ่นตอบเบาๆ มีเสียงหัวเราะกันคิกคัก

ไป สามเกลอเดินแวบออกนอกเส้นทางกลับบ้าน แต่แวะขึ้นดอยที่อีน้องของฤทธิ์ซ่อนร่างอยู่

ก็แค่ย้ายที่ มันหาไม่เจอก็พล่านเองแหละ เผ่นว่า เสียงหัวเราะพร้อมพยักหน้าใส่กัน  

เช้าวันรุ่งขึ้น  ประเสริฐจัดงานเหมือนเดิม เว้นแต่การเก็บหาเมล็ดไม้ให้มูลกับน้อย  เพื่อหาเมล็ดประดู่มาเพาะกล้าในปีต่อไป  สองหนุ่มเดินดิ่งไปเก็บจากต้นประดู่ต้นที่ใกล้ที่สุด ท้ายหมู่บ้าน  แต่ต้นประดู่ต้นนี้ลักษณะไม่ดี  แตกกิ่งก้านมาก และคดงอ

มณีตามไปดูงาน พบเรื่องขำเมื่อเห็นฤทธิ์เดินหมุนไปหมุนมา อีกห้าคนฟันดินไปเหลือบมองหน้าหัวเราะกันอย่างมีเลศนัย มณีหยุดยืนข้างหลังกลุ่มมือขุด ไม่เห็นป้ายสาวงามปักเช่นที่เคย แต่เสียงหัวเราะแบบเงียบเสียงทั่วทุกตัวคน มณีกระแอมดังๆ ห้านักหัวเราะเงียบลง ฤทธิ์ยังเดินพล่านไม่สนใจใคร

ฤทธิ์ เฮ้ย งานการไม่ทำเดินเป็นไส้เดือนคลุกขี้เถ้าเลยวะ? มณีพูดเสียงดัง

อีน้องผมหาย ๆ มีเสียงหัวเราะดังมาจากกลุ่ม มณีกวาดสายตาไปตามไหล่ดอยและแล้วก็เห็นอีน้องของฤทธิ์

โน่นไง มณีชี้มือขึ้นไปบนไหล่เขา ฤทธิ์แหงนหน้ามองตาม

ไอ้เผ่น มึงแกล้งกูเหรอ?

เปล่า กูไม่รู้เรื่อง

ไอ้ไว ไอ้เชื่อม ไอ้......... ฤทธิ์ไล่ดะไปหมด มณีหัวเราะแทบล้ม

เจอแล้วก็ปีนขึ้นไปเอาอีน้องลงมาเถอะ ยังไงผู้ร้ายก็ไม่ยอมรับหรอก

มณีพูดขึ้นดังๆ ฤทธิ์ปีนสี่ขาขึ้นไหล่ดอย  คว้าอีน้องได้ก็ไถลลงดอย ปักฉับข้างหน้าวาครึ่งเหมือนเดิม แล้วลงมือขุดๆๆๆ มณีหันไปมองกลุ่มห้าพิเรนแล้วชี้หน้าทำทีดุๆ แล้วเดินเข้าไปทางหมู่บ้านไต่ขึ้นไปที่มูลและน้อยเก็บฝักประดู่อยู่

มูล  ต้นอื่นๆ ที่ตรงๆ เปลาๆ ไม่มีหรือ

แถวนี้ไม่มีครับ  มีก็ต้องบนต้นมะค่าเย็นโน่นแหละครับ เป็นดงเลยมูลตอบ

แล้วทำไมไม่ไปเก็บที่ดงประดู่ที่ว่าล่ะมณีถามด้วยความข้องใจ

ตรงนี้ใกล้ดี  ผู้ช่วยก็บอกเหมือนกันว่าให้เก็บจากต้นเปลาตรง แต่ผมก็ว่ามันก็เม็ดประดู่เหมือนกันก็เลยเก็บที่นี่มณีฟังแล้วก็อึ้งไปถนัดใจ ความมักง่ายของคนนี่มีทุกคน ถ้าไม่ติดตามงานก็เกิดเรื่องเช่นนี้เสมอ  โดยเฉพาะคนที่ไม่เข้าใจ  ถึงผลที่จะตามมา

เอาทิ้งไปเถอะมูล  แล้วไปเก็บที่ดงประดู่ที่ดอยมะค่าเย็นแล้วกันมณีพูดเรียบๆ

เพราะว่า ถ้าแม่ไม้ลักษณะไม่ดี คดงอ  แตกกิ่งก้านมาก ลูกก็จะเป็นอย่างนั้น ได้เมล็ดพันธุ์ที่ลักษณะไม่ดี  ต้นก็จะมีลักษณะไม่ดีไปด้วย  คดๆ งอๆ แตกกิ่งมากๆ และอาจโตช้า

น้อยพูดขึ้น ด้วยท่าทียียวน

โอโฮ!  หัวหน้าไม่หล่อ ทั้งอ้วนทั้งเตี้ย  แล้วลูกหัวหน้าทำไมทั้งสวยทั้งหล่อละ 

แม่มันสวยโว๊ย  มณีตอบ  แต่ไอ้ต้นประดู่นี่เราไม่รู้ว่าพ่อแม่มันหล่อไหม  ก็เลยเลือกโดยประมาณกันว่า แม่ไม้ต้องเปลาตรง แตกกิ่งสูงตั้งฉากกับลำต้นไว้ก่อน  

น้อยหมดปัญญาเถียงจึงเงียบไป มูลกับน้อยเทเมล็ดประดู่ทิ้ง แล้วเดินไปยังดอยมะค่าเย็น  ดงประดู่พันธุ์ดี  งานนี้หนักเพราะว่าเดินขึ้นดอยไปไกลลิบ ค่ำลงทั้งสองคนแบกถุงปูยแวะมาที่ที่ทำการ

“ขอบใจมากมูลกับน้อย  เหนื่อยหน่อยนะ

ม้วนเอ๊ย น้ำเย็นสองแก้ว มณีร้องสั่งน้ำเย็นมาปลอบใจ  พลางก็พูดขึ้น

จำไว้นะว่า ว่าการเก็บเมล็ดไม้ต้องเลือกต้นแม่ตามที่ผู้ช่วยสั่ง  จะได้ไม่ต้องทำงานซ้ำซาก”

น้อยกับมูลยกแก้วน้ำเย็นขึ้นดื่มพรวดเดียวหมด วางแก้วแล้วลากลับ

มณีเดินไปดูประเสริฐกำลังลงผังหมู่บ้าน  จึงพูดขึ้น

เมื่อเช้าไปเจอมูลกับน้อย  มันดื้อและมักง่ายจะเก็บเมล็ดประดู่ข้างวัด  พี่เลยให้เททิ้งแล้วไปขึ้นมาใหม่  โน่น ต้นค่าเย็น  ประเสริฐหัวเราะ

ต้นมะค่าเย็นหรือครับ! ”

เผลอก็ชอบสบายทุกคนแหละ  ต้องคอยติดตามงานหน่อย ประเสริฐพยักหน้ารับแล้วทำงานต่อไป

ฝักประดู่ป่ามีปีกกลมๆ เพื่อให้บินร่อนไปตามแรงลมได้ไกลจากต้นแม่ เป็นธรรมชาติสร้างให้มันติดปีกเพื่อกระจายเผ่าพันธุ์ได้กว้างขวางขึ้น  ไม้ประดู่ป่าจึงมีขึ้นอยู่ทั่วไปในป่าเบญจพรรณทั้งประเภทมีไม้สักและไม่มีไม้สัก  แต่สิ่งหนึ่งที่ฝักประดู่มีคือ เปลือกหุ้มเมล็ดที่เหนียวและงอกได้ยาก แต่ธรรมชาติในป่าโปร่งมักมีไฟป่ามาช่วยเร่งด้วยการเผาไหม้เปลือกหุ้มฝักและเมล็ดออกไป พอฝนเทลงมาก็งอกได้ง่ายขึ้น

ไม้ประดู่ป่าทนทานต่อไฟป่าและความแห้งแล้ง  เพราะว่ามีการสะสมอาหารลงเหง้าใต้ดินเหมือนกับเหง้าไม้สัก เมื่อปลูกเป็นสวนป่าไปแล้ว ในปีถัดมาที่ยังเติบโตไม่พ้นไฟป่า ต้นบนดินอาจตายจากไฟ แต่เหง้าใต้ดินยังมีชีวิตอยู่ เมื่อได้รับน้ำฝนตามฤดูกาลจึงพุ่งยอดขึ้นมาได้อีก เช่นเดียวกับไม้สัก การปลูกป่าต้นน้ำด้วยประดู่ป่าจึงได้ผลค่อนข้างดีเท่าๆ กับไม้สัก เสียก็เพียงแต่เมื่อถึงฤดูแล้งก็จะผลัดใบจนหมดต้น อย่างไรก็ดี เนื้อไม้ประดู่ราคาแพงมาก  มากพอๆ กับไม้ชิงชันและพยุงทีเดียว

Tags : Forester lifes

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view