http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,062,520
Page Views16,373,743
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

หนาวนี้ ไปแอ่วเอาบุญ

หนาวนี้ ไปแอ่วเอาบุญ


หนาวนี้ ไปแอ่วเอาบุญ

โดย ป่าน ศรนารายณ์

            
               เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสี่ยเกรีบรับสายสั้นๆ
               "ว่าไง ?"  
               "หนาวนี้มีรายการไปไหนหรือเปล่า?" เสียงถามมาตามสาย
          "ยังไม่มี แต่เอ..เดือนไหนวะ" เสี่ยเกย้อนถาม        
          "ธันวาคม กำลังหนาวเลย" เสียงตอบกลับ
          "สรุปให้ฟังหน่อยได้ไหม? สั้นก็ได้ แล้วค่อยส่งรายละเอียดมา" เสี่ยเกร้องขอ ใช่ นักธุรกิจจัดสรรที่ดินและสร้างตึกแถวขาย เวลาต้องลงตัว การบริหารเวลาสำคัญไม่แพ้การบริหารเงินหมุนเวียน ทุกอย่างจึงต้องสั้น เร็ว ได้ใจความ
          "หนาวนี้ มีรายการไปทอดผ้าป่าหาเงินสมทบทุนมูลนิธิเพื่อผู้สูงอายุ และวัดบนเขาที่ร่วมกับชาวบ้านสร้างเอาไว้ วันนี้หลวงพ่อบอกว่า ผู้สูงอายุเดินขึ้นเขาไม่ไหว อยากได้ศาลาทำบุญเชิงเขาสักหลังหนึ่ง" เสียงตอบยาวแต่ก็กระชับได้ใจความ

       
                                  คณะเสี่ยเก      
                 

          "อือ..น่าสนใจ ใครเป็นประธานให้วะ" เสี่ยเกย้อนอีกที
          "รองผู้ว่าสตูลเจ้าเก่า เสี่ยก็รับหน้าที่รองประธานได้ไหม?"
          "ได้เลย เดี๋ยวจะส่งรายชื่อรองประธานให้เยอะๆ จะได้เงินเยอะๆ เฮ้ย กำหนดวันให้หน่อย" เสี่ยเกยังห่วงเรื่องเวลา 
          "4-7 ธันวาคม 52 ถ้าบริหารเวลาไม่ตรงกันเลื่อนได้ สั่งมาเลย"
          "ดูตารางเวลาแล้ว ได้โว๊ย ลงมือทำงานเลยนะ เวลาเหลืออีกเพียง 42 วันเอง" เสี่ยเกตอบรับ "เอะๆ มีใครไปกันบ้างล่ะ"
          "กลุ่มญาติเราเป็นส่วนใหญ่ พวกระยอง กรุงเทพก็มีแค่ครอบครัวเรา ครอบครัวดาบเด "เสียงหัวเราะดังมาตามสาย  
          "ได้รถตู้สองคันแล้วนี่ มีใครอีกไหม?" เสี่ยยังสนใจเพื่อนร่วมทำบุญ
          "เจ๊เพลิน และแก็งค์" เสียงหัวเราะยิ่งดังมากขึ้น 
          "ได้ขาครบเลย เออยังงี้ไม่เหงาแน่" อารมณ์ดีตามเสียงที่ส่งมา  ว่ากันว่าเพื่อนเก่าเหล้าดี ไปไหนก็ไปกัน มีความสนุกสนานบานเบิกแน่นอน แต่คราวนี้มีแต่ญาติสนิทมิตรรัก ยิ่งสนุกและสบายใจ
          อีกสามวันจะออกเดินทาง เสี่ยเกโทรมาแจ้งว่า  
          "กลุ่มเตาปูน กลุ่มเฮียตั่ว รวมกันแล้วรถตู้ 2 คันกว่าๆ ผสมกับแก็งค์เจ๊ก็ 5 คันพอดี ฮ่ะๆๆ" อารมณ์ดีอีกตามเคย  
          "รวบรวมคนได้เยอะจัง" เสียงป่านตอบไปด้วยความชื่นชม 
          "พอเมียเราบอกเพื่อนๆกับเพื่อนๆกลุ่มเฮียตั่ว ใครๆก็อยากไปด้วย รู้ๆกันว่า ถ้ากลุ่มเราจะไปไหนละก้อ ตามกันเป็นหาง แล้วค่าใช้จ่ายแบบทัวร์มึงยิ่งถูกๆๆ"  
          "เอาน่ะ ได้ค่าใช้จ่ายเหลือเข้าวัดและมูลนิธิส่วนหนึ่งก็ดีแล้ว" เสียงป่านตอบค่อยๆ
          "มึงจะขาดทุนเอาน่ะซี เงินทำบุญน่ะเขาทำกันอยู่แล้ว คิดให้แพงกว่านี้หน่อยก็ได้" เสี่ยเกห่วงใย ป่านนิ่งคิดแล้วตอบ
          "เอาน่า ครั้งแรก ได้เพื่อนร่วมแก็งค์ก่อนก็ดีแล้ว อยากให้ไปร่วมเดินทางกับญาติพี่น้องและเพื่อนๆสนิทๆ คุ้มแล้ว" ป่านว่า
          "เออ ไม่พอสร้างศาลาก็ค่อยทะยอยทำไปอีกรอบสองรอบก็ยังไหวฮิ" เสี่ยเกยอมรับ
                                            

                
                                                   ญาติพี่น้อง
  
          เช้าตรู่วันที่ 4 ธันวาคม 2552 คณะพร้อมกันแล้วก็ออกจากจุดนัดพบ ทุกคันเร่งเดินทางด้วยความเร็วกว่า 120 กม/ชั่วโมง ระยะทางกรุงเทพ-น่าน 680 กม. คาดว่าค่ำพอดีได้ปีนขึ้นดอยไปนอนอาบไอหนาวที่หน่วยจัดการต้นน้ำกาด อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ทุกคนดูตื่นเต้นและร่าเริง เสียงหัวเราะแต่ละคันดังตลอดเวลา  ทุกครั้งที่จอดทำกิจธุระในปั๊มน้ำมัน เสียงหัวเราะและเสียงหยอกเย้ายิ่งดังจนคับปั๊ม ป่านมองดูด้วยความสุขใจ นึกในใจถ้าจะไปทำบุญหน้าหงิกก็จบกัน ส่วนกลุ่มญาติพี่น้องจากระยองและดาบเดเฮฮาด้วยเรื่องตลกโปกฮาของพวกผู้หญิงระยอง แม่งเอ๋ย นึกไม่ถึงจริงๆ
          ขบวนรถตู้ห้าคันห้อตะบึงไปอย่างเรียบร้อย แม้เข้าเขตภูเขาสูงชัยและคดเคี้ยวช่วงอุตรดิตถ์-เด่นชัย-แพร่-อำเภอเวียงสา และสิ้นสุดความคดโค้งที่หน่วยจัดการต้นน้ำกาด ระดับความสูงจากน้ำทะเลปานกลาง 850 เมตร ความเย็นผ่านกระจกรถเข้ามาตั้งแต่เริ่มเข้าเขตอุตรดิตถ์ ไล่มาจนถึงจุดนี้ก็หนาว แต่ไม่โหด แค่ว่าหลายคนหนี่การอาบน้ำที่เย็นยะเยือกก็แล้วกัน
          บ้านพักหน่วยงานนี้มีเพียงหลังเล็กๆหลังเดียว ที่นอนกองรวมกันอยู่ในนั้น มีห้องนอนหลบหนาวเชิงดอยอีก 2 ห้องซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่ง ขึ้นลงยากนิดหน่อย นอกนั้นเป็นเต็นท์กางกระจายกันตามขอบสนามหญ้าหน้าที่ทำการ กลุ่มเพื่อนร่วมทำบุญเดินกันด้วยความสนใจ อากาศที่เย็นและพื้นที่โล่งๆบนยอดเขา ช่วยให้บรรยากาศน่าเดินเล่น น่านอน น่าตั้งวงเสวนาแบบกลุ่มเพื่อนซี้ ชาวบ้านเข้ามาช่วยกันเตรียมเรื่องที่พักและอาหาร เครื่องดื่มพร้อมสรรพตามฐานะ 
           "เฮ้ยๆ กูจองเต็นท์นี้นะโว๊ย หลบมุมดี" เสียงหนุ่มใหญ่คนหนึ่งรีบจูงแฟนไปจองก่อนเพื่อน มีเสียงเฮตามมาด้วยความขบขัน            
           "มันคึกเลย เจอบรรยากาศน่าฮันนี่มูนเข้าละซี" เสี่ยอ้วนท้วนคนหนึ่งประจานด้วยอารมณ์ขันๆ เสียงหัวเราะและเสริมสับท่วม
           "ทุกทีแหละมันน่ะ ไปครั้งไหนก็รีบจองที่ที่หลบๆ" เสี่ยเกเสริม
           "ก็มันมีหลายคู่ มันก็ต้องกระดี้กระด๊าซี ไม่เหมือนมึงนี่ ฮิๆ" เสี่ยอีกคนเพิ่มความฮา
           "พี่พ้องน้องพี่ทุกท่านครับ เวลา 19.00 น.รับประทานอาหารที่สนามหน้าที่ทำการนี้นะครับ กาแฟ เครื่องดื่มเชิญได้เลยนะครับ อีกสักครู่จะหนาวมากขึ้น ใครจะอาบน้ำลงมือได้เลยนะครับ" ป่านตะโกนแจงรายละเอียดให้ทราบตามหน้าที่ ไกด์ชรา  
            ช่วงเวลาของความหฤหรรษ์เริ่มขึ้น เมื่ออาหารผ่านไปด้วยความอ้อยอิ่ง เสียงเพลงใสๆดังแว่วมาจากมุมหนึ่ง เพลงหวานเก่าๆ แน่นอนต้องเป็นอีกวัยหนึ่งขับขานคาราโอเกะ รูปแบบใหม่ของความบันเทิง ผู้สูงอายุมากๆเข้านอน ผู้ก่อตั้งวงเสวนายังเดินเกมต่อเนื่อง ได้กินเพียงจานด่วนที่ตักไปให้ ลุกไม่ขึ้นก็หลายคน เสียงหัวเราะด้วยชัยชนะดังมาแว่วๆ แต่บางคราวดังมากๆ แสดงว่าชัยชนะครั้งนั้นยิ่งใหญ่ได้มากแน่ๆ

                              
                                   ที่ทำการบ้านมูลนิธิ พักค้างได้ทุกคน เชิญครับ

            ตกดึก เสียงเพลงเปลี่ยนรูปแบบเป็นวัยรุ่น จังหวะแปลกใหม่ไม่เหมือนเดิม พอเดินเข้าไปแอบบมอง โอ้โฮ ลูกหลานวัยกำลังงามเปลี่ยนกันกดคีบอร์ดคอมพิวเตอร์เพื่อเลือกเพลงอย่างเมามัน ใครเลือกเพลงไหนก็เต้นรอไปจนกว่าจะถึงเพลงของตนเอง จึงได้ไมค์มาขับขาน ความสุขสำราญบานใจเยี่ยงนี้ สมานสามัคคีกันดีในหมู่ญาติพี่น้องซึ่งเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่คาดหวัง
           "จะได้สนิทสนมกัน"
           เช้ามืด ความเงียบสงบกลับคืนมา เสียงกรนทะลุออกนอกเต็นท์ เสียงไก่ป่าเริ่มขันขาน เสียงนกกำลังร้องบอกเพื่อนให้โผออกจากคอนไปหากิน เสียงสัตว์ป่าขนาดกลางเช่นเก้งเห่าดัง "เป็กๆๆ" ผืนป่าดงดิบที่เหลืออยู่บนขุนเขายังเป็นบ้านอันแสนสุขและปลอดภัยสำหรับเขา มันเป็นความมั่นคงที่จะมีที่อยู่เพื่ออาศัยและขยายเผ่าพันธุ์ อีกทั้งป่าต้นน้ำผืนนี้ ยังเป็นแทงค์น้ำสำคัญของชุมชนเบื้องล่างเช่นหมู่บ้านใหม่ บ้านหนองผำ บ้านหนองบัว ที่อาศัยอุปโภค และบริโภค ทำการเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์
            ตำนานการต่อสู้เพื่อรักษาป่าผืนนี้ไว้มีอยู่ว่า ชาวบ้านได้รวมตัวกันต่อต้านสัมปทานทำไม้ของบรัษัททำไม้จังหวัดน่านจำกัด เมื่อราวๆปีพ.ศ.2526 มีการปิดถนนไม่ให้รถทำงานและคนของบริษัทเข้าพื้นที่ เกิดกรณีพิพาทกับผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยหลายร้อยหลายพันล้าน แต่เพื่อลูกหลานชาวบ้านที่นำโดยผู้ใหญ่วิ่งแห่งบ้านหนองบัว ยอมไม่ได้
            "ลูกหลานวันหน้าจะแช่งด่าว่าบรรพบุรุษได้ ว่าทำไมปล่อยให้ผืนป่าผืนสุดท้ายที่เหลืออยู่หมดไปกับนายทุนได้อย่างไร" 
            ใช่แล้วครับ ป่าผืนงามของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ฝั่งตะวันตกบนเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทุกคณะที่ไต่ระดับขึ้นไปที่ผาชู้ อีกหนึ่งความสวยงามของทัศนียภาพที่เขียวขจีด้วยผืนป่าพญางาม 
             "ถ้าพวกเราไม่ตัดสินใจปิดถนนและต่อสู้ พวกเราก็คงไม่ได้ผืนป่าที่คงอยู่มาชั่วกาลนานผืนนี้ไว้ พวกเขาไม่ได้อยู่อิงแอบแนบป่าอย่างเรา เขาไม่รู้หรอกว่า ป่าให้อะไรกับพวกเราบ้าง อาหาร ยารักษาโรคจากสมุนไพร ความร่มรื่น ความร่มเย็น และแน่นอนคงไม่เหลือความสวยงามของอุทยานแห่งชาติศรีน่านให้ได้ชื่นชมกันตราบทุกวันนี้และในอนาคตข้างหน้า" พ่อวิ่งเล่าด้วยใบหน้าที่มีความสุข 

   
              นอนเต็นท์ เท่ไหม                                       ไหว้พระเอาบุญ
 
              สายได้เวลา 9.30 น.คณะแอ่วเอาบุญได้ลงมายังบ้านกิตตินันท์ ประชุมมูลนิธิตามหน้าที่ และนับยอดเงินส่งเข้ามูลนิธิตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค 22,900 บาท (งานศพนางเซียมหง เปาอินทร์ บริจาค 5,000 บาท รวมเป็น 27,900 บาท)  ส่วนเงินสมทบเพื่อสร้างศาลาวัดแยกออกเพื่อนำขึ้นไปทอดผ้าป่าสามัคคี 100,000 บาท วันนี้ ได้เงินสะสมสร้างศาลาวัด รวมเมื่อปี 2551 เป็น 200,000 บาทแล้ว แต่ก็คงยังไม่พอเพียงตามแบบที่กำหนด 
              ปีนี้ได้บุญสะสมเพิ่มมากขึ้น ทุกคนดีใจ ไปเที่ยวแล้วยังได้ทำบุญ ไม่เหลวไหลไปตามเรื่อง มีสาระและมีเจตนารมณ์ที่ดี เป็นอีกแบบอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยว  
             "ไปแอ่วเอาบุญ ก็ดีเหมือนกัน ปีหน้าฟ้าใหม่จะกลับมา  " 
             หลังอาหารเที่ยง เสียงเรียกร้องให้เข้าไปเที่ยวในเมืองน่าน รถบ่ายหัวเข้าเมืองเพื่อไปไหว้พระวัดต่างๆ แน่นอนไปน่านทั้งทีก็ต้องไปวัดภูมินทร์ อุโบสถจตุรมุข พระประธานจตุรพักตร์ ภาพเขียนในอุโบสถสวยงามและสืบสานประวัติศาสตร์นครน่าน ส่วนวัดมิ่งเมืองเป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองน่าน วัดนี้วิจิตรตระการตาด้วยลวดลายปูนปั้นทั้งหลัง ข้ามไปไหว้พระธาตุแช่แห้งเอาสิริมงคลใส่หัว แต่แล้วเวลาบังคับให้ไปได้เพียง 3 วัด ก็ต้องกลับเข้าที่พักแรม บ้านกิตตินันท์ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน                                


                       
                                                เยี่ยมเยือนพี่น้องชาวเขา

              กลุ่มหนึ่งอยากนอนในป่ารกทึบ เป็นอาคารนอนรวมของค่ายเยาวชน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งขอไปนอนที่สำนักงานมูลนิธิริมสระน้ำกลางหมู่บ้าน เย็นย่ำ พระอาทิตย์ที่ส่องแสงแดดมาตลอดวันหลบไปพักผ่อน เปลี่ยนหน้าที่ให้พระจันทร์ข้างแรมเข้าเวรแทน แสงสลัวๆท่ามกลางหุบเขาเงียบๆ และได้ยินเสียงหรื่งหรีดเรไรขับขาน อากาศที่หนาวเย็นขนาดเปิดแอร์ 20 องศากำลังหลับสบาย ความสุขของการพักผ่อนเพิ่มเวลาหลับได้มากขึ้น
               อาหารเช้าท่ามกลางสายหมอกที่โรยตัวบางๆ มองไปทางไหนก็สดชื่น สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปฟอกปอดเฮือกใหญ่ๆ ก่อนที่จะต้องเดินทางกลับมาสู่อากาศที่ดำไปด้วยหมอกควันจากรถยนต์ในกรุงเทพมหานครอีก  

Tags : NGOs

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view