http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,062,657
Page Views16,373,905
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

การเมืองกับการป่าไม้


Many35/ 16มีค44                  การเมืองกับการป่าไม้       

            จะมีใครปฏิเสธได้ว่า การเมืองกับการป่าไม้ ไม่เกี่ยวกัน ก็ในเมื่อมันต้องเกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นนี้ จะทำอย่างไรให้เกิดปฏิสัมพันธ์อันดีแก่กันและกัน เป็นเรื่องผู้กำหนดนโยบาย กับผู้ปฏิบัติ โดยผ่านกลไกสำคัญคือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  แนวคิดหลากหลายหลายยุคหลายสมัยจึงพยายามที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่เห็นผลทันตา มันเป็นความจริงเพียงใดในระบบและกระบวนการราชการ แท้ที่จริง มันผิดพลาดตรงไหนกันแน่

            มีคำกล่าวโทษทัณฑ์ที่ยากจะปฏิเสธว่าทำไมเนื้อที่ป่าไม้หมดลงไปทุกปี    เป็นคำกล่าวโทษที่มุ่งตรงใส่กรมป่าไม้ว่าไร้ประสิทธิภาพ  มีการทุจริตคอรัปชั่นกันมาก ไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน เพราะว่ารัฐบาลให้สัมปทานทำไม้ระยะยาว การควบคุมเป็นการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน  เป็นความเสี่ยงสูงที่ปล่อยให้องค์กรเดียวรับผิดชอบทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ขาดดุลอำนาจในการร่วมดำเนินการ ปฏิเสธขีดความสามารถขององค์กรเอกชนหรือประชาชนในการมีส่วนร่วม และเหนือสิ่งอื่นใด ขาดความเชื่อถือและศรัทธาในตัวข้าราชการ หัวส่ายหางกระดิก

            ผู้ที่กล่าวโทษเหล่านี้ประกอบด้วย องค์กรพัฒนาภาคเอกชน (NGOs) ประชาชนทั่วไปทั้งในกรุงเทพและในชนบท  ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร อาจารย์มหาวิทยาลัย ครู นักเรียน  พ่อค้า  ภิกษุสงฆ์ และที่เจ็บแสบมากๆคือ นักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ  แต่ละกลุ่มกล่าวโทษกันหลากหลาย โดยทั้งหมดจะกล่าวผ่านสื่อสารมวลชนทุกสาขา สื่อก็คือสื่อเขาทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง เป็นอาชีพของเขา จะผิดถูกเป็นเรื่องที่อ้างกันว่า การสื่อสารต้องสองทาง

            ตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 104 ปี กรมป่าไม้ตั้งรับสถานเดียว เพิ่งจะมีเพียงระยะสั้นๆที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตอธิบดีกรมประมงเท่านั้นมาเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ การแก้เกมผู้กล่าวโทษเหล่านั้นถูกตีกลับ ภาพสวยงามของการป่าไม้กลับคืนมาได้ด้วยศักยภาพของพระเอกผู้ขี่ม้าขาวมารบรา เป็นการตอบโต้ที่ถึงอกถึงใจผู้ชม และก็คาดการณ์ได้อีกว่า หลังจากนายปลอดประสพไปเป็นปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันใด ภาพเดิมๆก็จะถูกเขียนขึ้นมาอีกครั้ง อยุธยาสิ้นคนดี

            แต่อย่างไรก็ตาม แว่วมาว่า การปรับเปลี่ยนองค์กรความรับผิดชอบกำลังถูกนำเสนอ เป็นการตีความว่าเป็นเพราะองค์กรไม่เหมาะสม จึงต้องแก้ไขใหม่ สร้างองค์กรใหม่ รูปแบบใหม่ ผู้บริหารชุดใหม่ สายการบังคับบัญชาทางการเมืองใหม่ เช่น

จะมีการรวมงานอนุรักษ์ทางทะเลทั้งหมดกับทางบก นั่นคือการประมงกับการป่าไม้ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องเช่นสิ่งแวดล้อม ฯ จับมารวมกันตามสายวิชาการ โดยคาดหวังว่ากลุ่มงานลักษณะเดียวกันจะมีเอกภาพในการปฏิบัติ เพราะว่าบางพื้นที่ก็ทับซ้อนกันอยู่จริง เช่นอุทยานแห่งชาติทางทะเล กับการอนุรักษ์ทรัพยากรประมง ฯลฯ มีการผสมผสานอัตรากำลังร่วมกัน เช่นประมงรวมกับป่าไม้รวมกับสิ่งแวดล้อม รวมกับกรมวิชาการเกษตร บางทีก็มีด้านพืชด้านสัตว์

แต่ถ้าคิดอีกที ในรูปแบบเดิมๆที่มีอยู่ มันก็มีความชัดเจนในสายวิชาการ ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับกระทรวงเดียวกัน เพียงแต่แยกปฏิบัติ แล้วถ้าพิจารณาให้ลึกลงไปก็จะพบว่า ในแต่ละองค์กรสังกัดกระทรวงเดียวกันนั้น ต่างคนต่างทำงานตามทางของตนเอง ไม่ค่อยร่วมกันเท่าไร ในทางปฏิบัติที่แท้จริง ก็ไม่มีศูนย์รวมแนวคิดและการปฏิบัติ หากแต่ใครเก่งก็วิ่งเอากันเอง ใครมีผลประโยชน์ก็เอื้ออำนวยกันและกัน บนพื้นฐานข้าราชปกติ ที่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ

            ส่วนนักการเมืองก็มีทั้งที่มีคุณธรรมและไร้คุณธรรมเฉกเช่นเดียวกัน การกำหนดโยบาย การนำนโยบายไปแปลงเป็นแผนปฏิบัติ และการกำหนดระยะเวลาโครงการที่มุ่งหวังแค่การผักชีโรยหน้า การสืบทอดสายสัมพันธ์ทางการเมืองกับระบบราชการจึงเชื่อมโยงกันได้ กี่ยุคกี่สมัยก็เป็นเช่นที่เป็นอยู่ ไม่ประจบสอพลอก็ไม่ได้ตำแหน่ง ไม่กราบกรานด้วยลาภสักการก็อย่าหวัง การก้มหัวให้ผู้มีอำนาจจึงเป็นเกราะสำหรับคนดีที่ไม่เก่ง มักจะทำได้ ทุกคนต้องเอาตัวรอดเป็นยอดดี

            บนความคาดหวังในยุค ดร.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นจริงเพียงไรที่จะทำให้การป่าไม้ได้รับการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน แม่นตรง และเป็นไปได้ด้วยการปฏิบัติ  เช่นจะมีระบบคุณธรรมในการพิจารณาโยกย้ายที่แท้จริง  เพื่อคัดสรรคนทำงานที่ไม่ต้องทำเงิน เพื่อกำหนดเป้าหมายการฟื้นฟูทรัพยากรที่เป็นผลจริง มิใช่สักแต่แค่มีเงินงบประมาณมาทำงานกันปีต่อปี การศึกษาวิจัยที่ชี้ชัดว่า ประเทศไทยควรมีป่ากี่เปอร์เซ็นต์ และต้องพัฒนาป่าเศรษฐกิจเป็นอาชีพถาวรได้อย่างไร

            ถ้าการเมืองปลอดผลประโยชน์ ความคิดคงกระจ่างขึ้น และการป่าไม้น่าจะรุ่งเรือง เป็นฐานทรัพยากรสำคัญทางการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ก็น้ำมาจากป่ามิใช่หรือ

 

             

Tags : National parks

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view