เผือกร้อนจากป่าสาละวิน

Tong.doc111/                                    เผือกร้อนจากป่าสาละวิน

            ข่าวสารเรื่องป่าสาละวินดังติดต่อกันมายาวนาน หลังจากเดือนที่นายปองพล อดิเรกสาร  รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปตรวจป่าสาละวิน สื่อมวลชนทำงานหนักและสร้างวีรกรรมให้ปรากฏไว้ในแผ่นดินนั่นคือสามารถสร้างกระบวนการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินและของคนไทยทุกคน ด้วยการนำเสนอข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา นำเสนออย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง พร้อมด้วยข้อมูลที่เป็นจริงตามที่ได้ทราบกันอยู่

            แต่แล้วก็เกิดความร้อนแรงขึ้นมาอีกอย่างคาดไม่ถึง เมื่อนายประวัติ ถนัดค้า รองอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้รับผิดชอบสำนักป้องกันและปราบปราม ซึ่งมีหน่วยงานในสังกัดคือส่วนป้องกันรักษาป่าที่ 1-4 และส่วนป้องกันไฟป่า ทำหน้าที่เป็นสายงานรักษาป่า ได้นำเงินก้อนโตบรรจุในกล่องมาม่า 5 ล้านบาท เดินทางไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อจะบริจาคเงินก้อนนี้ให้กับโครงการไทยช่วยไทย

            เหตุการณ์ต่างๆผ่านสายตาท่านผู้ที่ติดตามไปหมดแล้ว มุมมองที่ใคร่เรียนเสนอ ณ ที่นี่อาจแปลกแยกออกไปบ้างก็เป็นเพียงแนวคิดหนึ่งที่คับข้องใจไม่หายได้ง่ายๆ เป็นคำถามที่ท่านผู้อ่านน่าจะลองตอบดูว่า ถ้าเป็นตัวท่านเองจะทำอย่างไร  

            ในหน้าที่รับผิดชอบการปราบปราม มีการบันทึกอายัดไม้แล้วรายงานให้นายประวัติฯทราบ นายประวัติเดินทางไปยังหมอนไม้ดังกล่าวตามข้อรายงานจากส่วนป้องกันรักษาป่าไม้ที่ 1(ภาคกลาง)ผู้อายัดไม้เพื่อการตรวจสอบจำนวน 13,215 ท่อน แต่ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี มีการตีตรากักหรือไม่ มีบัญชีไม้ส่งมอบพร้อมการบันทึกหรือไม่  เมื่อเรื่องเกิดโด่งดังแล้วไปแจ้งเหตุ  ผิดระเบียบหรือไม่ ชักช้าเพื่อเหตุผลใดๆ เป็นข้อสงสัยของข้าราชการที่เคยปราบปรามอยู่ในวงสนทนา

            ในระหว่างที่กำลังตรวจสอบอยู่ มีการติดต่อกันไปมาระหว่างนายประวัติกับนายวินัย(พ่อค้าไม้) หลายครั้งก่อนเกิดกรณีเอาเงินไปทำเนียบ แน่นอนไม่ว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือตำรวจหรือศุลกากรหรือสรรพสามิต ฯเมื่อมีการจับกุมย่อมต้องมีการติดต่อกันทั้งนั้น เป็นปกติของการปราบปราม แต่มีหลักฐานใดชัดเจนว่า มีการเรียกรับหรือเสนอในเรื่องของสินบนหรือไม่ ในการติดต่อกันนั้นจำนวน 8 ครั้ง เกิดช่วงเวลาใดบ้างยังน่าเคลือบแคลง และมีปัญหาว่าตรวจสอบจากบัญชีเรียกเก็บเงินโทรศัพท์หรือดักฟัง

            มีการขอเปิดด่านผ่านแดนเพื่อขนไม้เข้าจากพม่าหลายจุด นายประวัติไปตรวจสอบแล้วรายงานอธิบดีกรมป่าไม้ว่า เกรงว่าจะก่อให้เกิดการลักลอบตัดไม้ จึงไม่ควรเปิดด่านแต่อย่างใด มีการวิ่งเต้นอีก

            อยู่มาวันหนึ่ง มีเรื่องเล่ากันว่านายประวัติเปรยขึ้นมาว่า มีสื่อฉบับหนึ่งเขียนกล่าวให้ร้ายว่าไปรับเงินสินบนมาจากพ่อเลี้ยง ส. แล้วก็อีกก้อนจาก พล.ต.อ.คนหนึ่งในเวลาถัดมา นายประวัติยืนยันว่าหากมีการรับทั้งสองก้อนขอให้มีอันเป็นไป และเกิดความคับข้องใจมากถึงกับจะบุกสำนักพิมพ์นั้น แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะมีผู้ทักท้วง จะกลายเป็นกินปูนร้อนท้องไป

            มีเรื่องเล่าขานกันว่าสมัยนายประวัติเป็นป่าไม้จังหวัดนครราชสีมา จับกุมการบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ของวุฒิสมาชิกคนดังคนหนึ่ง มีนักการเมืองสายใต้ใหญ่มากๆคนหนึ่งมาเสนอขอเคลียร์ด้วยเงินก้อนหนึ่ง ข่าวว่านายประวัติไม่ยอมรับ ในที่สุดที่ดินแปลงนั้นตกเป็นที่ดินในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เรื่องนี้นายประวัติมีความซื่อตรงจนได้รับการยอมรับของข้าราชการจำนวนมาก ถือว่าเป็นมือดีมากคนหนึ่งที่ยอมรับได้ในระดับดีมาก

            ย้อนมาเรื่องเดิม วันหนึ่งนายประวัติได้เรียกสื่อมวลชนคนหนึ่งไปพบและตำหนิกันค่อนข้างรุนแรง ว่าการเสนอข่าวเรื่องรับสินบนเช่นนั้นมีผลเสียหายและไม่เป็นความจริง รู้สึกว่าจะหงุดหงิดต่อเนื่องกันมาเป็นวันที่สอง มีการกล่าวอ้างถึงแหล่งข่าว ซึ่งเป็นการเปิดเผยตัวแหล่งข่าวคนหนึ่งซะเฉยๆนั่นแหละ

            ถัดจากนั้นก็เกิดกรณีนำเงิน 5 ล้านบาทไปทำเนียบรัฐบาล เรื่องเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันจนน่าตกใจ การให้สัมภาษณ์ของทุกคนที่เกี่ยวข้องอีกสองคน มีความคลาดเคลื่อนกันมากพอดู แต่ก็ทราบจากสื่อเสียส่วนใหญ่ ข้าราชการกรมป่าไม้ทั่วประเทศตกใจมาก เพราะเชื่อว่าอนาคตของนายประวัติคืออธิบดีกรมป่าไม้แน่ๆ จึงสับสนกันหนักว่าเกิดอะไรกันขึ้น มีคำถามว่า

            นายประวัติรับเงินมาหรือไม่ หรือเคยรับอื่นใดหรือไม่ มีบางเสียงถึงกับกล่าวว่า กะจะเลื่อยขาเก้าอี้คราวเดียวด้วยการไปสร้างภาพ โดยจะบริจาคไทยช่วยไทย แต่นายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย ไม่ยอมรับไว้ พร้อมกับสั่งดำเนินคดีให้เกิดความชัดเจนทันที ถ้าเป็นเช่นนี้จริงนายประวัติขาดความเฉลียวไป หรือว่างงๆมึนๆอะไรอยู่หรือเปล่า ถึงได้เดินเข้าไปติดบ่วงกรรมที่เคยผจญมาจากกรณีที่จับกุมที่เขาใหญ่

            แต่อีกเสียงหนึ่งก็ยังเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ของนายประวัติในอดีต ก็มีมุมมองไปอีกทางหนึ่งคือ มองกันว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น คือไม่รู้ว่าใครนำมาทิ้งไว้ให้เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขเรื่องที่อายัดไม้ไว้ เกร็งกันว่าจะเป็นการโยนเผือกร้อนมาให้เสียเลย เพื่อดำเนินการตามวิธี เพราะว่าไม่มีอะไรที่จะใส่ไคร้ใครได้ดีไปกว่า การกล่าวหาว่าเรียกสินบนหรือรีดไถ ผู้ที่ถูกกระทำก็จะมัวหมองไปทันที แต่ไม่รู้ว่าเป็นแผนของใคร

            มีองค์กรพัฒนาภาคเอกชนสายอนุรักษ์เล่าให้ใครต่อใครฟังว่า มีรองอธิบดีคนหนึ่งไปเสนอว่า จะหาเงินให้ถึง 20 ล้านบาท ขอให้นำเสนอกลวิธีให้เขาได้เป็นอธิบดี แต่ถูกปฏิเสธทุกองค์กร โอกาสในการขึ้นสู่ตำแหน่งจึงค่อนข้างมืดมัวไป แข่งขันกันจริงๆจังๆ ไม่รู้เอาเงินกันมาจากไหน ?

            ในขณะเดียวกันนายประวัติมีความอาวุโสพอที่จะเป็นผู้ท้าชิงได้สูง  มีความรู้ปริญญาโทระดับเกียรตินิยมอันดับ 1 เหลือเวลาอีกนานพอควร และมีความชัดเจนในเรื่องหลักการ วิชาการและการแสวงหากลุ่มพลังสนับสนุน เรื่องอย่างนี้จึงมองได้ทั้งสองกรณีว่าอาจสร้างภาพหรือถูกโยนเผือกร้อนใส่เข้าจังเบอร์ ถ้าเป็นอย่างหลังก็ถือว่าเป็นฟ้าลิขิต ก็คงจะสบายใจขึ้น แต่เป็นกรรมของกรมป่าไม้อีกเช่นเคย มัวหมองซีครับ

            แต่ไม่ว่าเรื่องราวความเป็นจริงจะเป็นเช่นไรก็ตาม การระเบิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ต้องยอมรับกันว่า ได้ช่วยให้ป่าสาละวินและป่าอื่นๆที่เหลืออยู่ได้รับความสนใจจากทุกฝ่าย เช่นเดียวกับที่นายสืบ นาคะเสถียร ยิงตนเองตายไปครั้งนั้น ต่างกันแต่ว่านายประวัติยังมีชีวิตอยู่พร้อมลูกเมียและเพื่อนฝูง ความชอกช้ำเกิดขึ้นอย่างสาหัส และเชื่อว่าจะสร้างความบอบช้ำให้กับครอบครัวนี้ไปอีกนาน ตราบจนสิ้นกระทงของกระบวนการยุติธรรมจะปรากฏ การฝ่าพงหนามครั้งนี้เจ็บปวดยิ่งนัก หนักยิ่งกว่าแบกหินทั้งกระสอบ

            น่าเสียดายที่การพุ่งเป้าไปที่เงินสินบน 5 ล้านบาท มาตกที่นายประวัติโดยตรง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เงิน 5 ล้านบาทที่นายประวัติไม่ยอมรับพร้อมกับพยายามผลักออกจากตัว  คือระเบิดที่เฉียบพลันเช่นเดียวกับระเบิดปรมณูถล่มฮิโรชิม่ายังไงก็ยังงั้น สงครามการทำลายล้างป่าสาละวินยุติลง ประวัติศาสตร์กรมป่าไม้จะต้องจารึกไว้ เพื่อรอการพิสูจน์ความจริง อนุสาวรีย์คนเป็นอาจเกิดขึ้นในใจของท่าน ป่าอยู่รอดแน่นอน แต่นายประวัติต้องรอดูฝีมือหมอต่อไป จะตายหรืออยู่