ปักกิ่งหรรษา ตอน 19 กำแพงหมื่นลี้
โดย อึ้งเข่งสุง
ร้อยทั้งร้อยตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า มาท่องเที่ยวประเทศจีนอยากไปที่ไหนมากที่สุด ทุกคนตอบว่ากำแพงเมืองจีน หรือเรียกกันว่ากำแพงหมื่นลี้ หรือฝรั่งเรียกว่า Great Wall Of China ในบรรดานักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็เช่นกัน อยากไปกำแพงเมืองจีนมาก แต่ไม่รู้หรอกว่าเป็นส่วนไหนของกำแพง เพราะว่ากำแพงยาวจริงๆ ถึง
บนรถทัวร์ท่องเที่ยว คุณโจวคว้าไมค์แล้วบรรยาย
“ประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาล มีหลายชนชาติ หลายภาษา หลายวัฒนธรรมและประเพณี เมืองต่างๆ ปกครองตนเองกันมาก่อน แต่ละเมืองก็เลยสร้างกำแพงเมืองเพื่อป้องกันตนเอง โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ 700 ปีก่อนค.ศ. จนถึงสมัยที่ฉินซีฮ่องเต้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) ขึ้นเสวยราชย์ นั่นแหละจึงได้รวบรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ เมื่อ 221 ปี ก่อน ค.ศ. และได้โปรดให้สร้างกำแพงเมืองจีนเชื่อมเข้าด้วยกัน โดยสร้างจากทิศตะวันตกสุดที่ด่านจวีโหย่ง ไปสิ้นสุดทิศตะวันออกที่ฝั่งแม่น้ำยาลู่ ซึ่งเป็นแนวเขตแดนประเทศเกาหลี ใช้เวลาสร้างนานถึง 150 ปี จึงเสร็จสิ้น ให้ชื่อว่า ว่านหลี่ฉางเฉิง (เมืองยาวหมื่นลี้) เพื่อป้องกันเมือง” คุณโจวร่ายยาว
“ทำไมเรียกว่าหมื่นลี้ล่ะครับ” ผมถาม
“ก็ลี้หนึ่งเท่ากับครึ่งกิโลเมตรน่ะซีครับ แต่จริงๆ แล้วในสมัยราชวงศ์ฮั่นเคยสร้างกำแพงยาวถึง
“ฝรั่งเรียกว่า กำแพงใหญ่ หรือ The Grate Wall กำแพงนี้สร้างด้วยอิฐและหินธรรมชาติ บางก้อนยาวถึง
“ใช้แรงงานก่อสร้างกี่แสนกี่ล้านคนนะครับ ไม่รู้เขาใช้เทคนิคไหนขนย้ายนะ” คนหนึ่งถาม
“ไม่มีบันทึกชัดเจน แต่ประเมินกันว่า เป็นล้านๆ คน ตายไปเท่าไรไม่รู้ รอดเท่าไรก็ไม่รู้ ขนยังไงก็ยังไม่รู้ คาดว่าจะเป็นระบบลอก หรือไม่ก็คนลากเข็น จะมีการหวดด้วยแซ่อย่างในหนังหรือไม่ก็ไม่รู้“
คุณโจวตอบได้แค่นี้ ก็พอดีรถจอดให้ลงไปท่องเที่ยวได้ พอลงไปเห็นแค่บริเวณกำแพงเมืองจีนส่วนที่เป็นอาคารสถานที่ ป้อมค่าย มองไปไกลๆ เห็นกำแพงเมืองจีนทอดตัวไปตามสันเขาสูงเสียดฟ้า บรรดาลูกจีนโพ้นทะเลก็กระโดดกันด้วยความดีใจผวาไปทางโน้นถ่ายรูป
จุดที่นิยมท่องเที่ยวกันมากคือ ปาต๋าหลิง คือที่นี่ ได้เปิดให้ท่องเที่ยวเมื่อปี ค.ศ.1982 เป็นจุดที่อยู่ใกล้นครปักกิ่งมากที่สุดโดยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือกรุงปักกิ่ง
“กำแพงสร้างมากที่สุดสมัยราชวงศ์ไหนแล้วก็เจงกิสข่านเคยมาสร้างไหมครับ” คนหนึ่งถามขึ้น
“สมัยราชวงศ์ฮั่นบนปาต๋าหลิงมีการจำลองแคมป์มองโกลสูง
“เอานะครับ ขอเชิญลูกทัวร์ทุกท่านเดินหรือไต่ บางทีต้องคลานขึ้นไปบนปาต๋าหลิงได้เลยครับ ส่วนผมจะรออยู่แถวๆ นี้ แต่ถ้าใครไปแล้วอยากทราบอะไรตอนลงมาก็แวะคุยกับผมได้ครับ” คุณโจวนั่งลงทันทีที่ขั้นบันไดชั้นที่หนึ่ง หัวหน้าทัวร์ ผู้ช่วยทัวร์ คุณม่อม อาอี๊ พลอยนั่งกันไปด้วย แต่ผู้ที่มีกำลังมากไม่ยอมหยุดนิ่ง ไต่ไปพลางถ่ายรูปกันไป ดูช่างมีความสุขกันดีทุกคน
“โวว มาทางนี้หน่อยซี มุมนี้อยากถ่ายจังเลย สวยดี” แม่บ้านตะโกนเรียกผมอีกตามเคย ลูกสาวกระโดดไปประกบทันที สะแหยะยิ้มแล้วแนบหน้ากับไหล่แม่ ผมกดชัตเตอร์ฉับๆ ไม่ทันจะก้มมองอะไรก็ได้ยินเสียงเรียกอีกแล้ว มุมแล้วมุมเล่า ไม่มีหยุด สนุกและก็ชอบที่สุดแหละจ้ะ พวกดาราใหญ่
“ลูกชายหายไปไหนนะ” แม่บ้านหันรีหันขวางแล้วถามขึ้น
“ไปแล้ว โน่น เห็นไหม ลิบๆ โน่นทีเดียว” ผมเอามือป้องบังแสงแดดตอนบ่ายมองย้อนตะวันขึ้นไปตามบันได ชี้มือไปยังลูกชาย แหม ขั้นบันไดชันมาก ตะวันก็ส่องเข้าตาพอดี เพราะว่าช่วงเวลาที่มาถึงเป็นช่วงบ่าย การปีนป่ายเช่นนี้จึงค่อนข้างลำบาก อันตรายและที่สำคัญนักถ่ายภาพมือสมัครเล่นอยากถ่ายย้อนขึ้นบนป้อมก็เจอกับแสงตะวันย้อนเข้ากล้องพอดีอีก มืดไปหมดครับ
“จุดที่เรียกว่า หยุนไถ (ระเบียงเมฆ) ล่ะคะ อยู่ตรงไหน” ถามเหมือนทำการบ้านมาบ้าง คุณม่อมนั่นเอง
“ที่จริง ถ้ามีเวลามากพอ ควรจะแวะเที่ยวจุดที่ว่านี้เสียก่อนจะวิ่งรถเลยมาปาต๋าหลิง อยู่ตรง กม.ที่ 65 ก่อนถึงปาต๋าหลิง
“ส่วนด่านสำคัญที่สุดทางภาคตะวันออกของกำแพงเมืองจีนอยู่ที่ ด่านซานไห่กวาน (ด่านทะเลภูเขา) ตั้งอยู่ที่นครฉินห่วงต่าว มณฑลเหอเป่ย โดยทางทิศเหนือติดเยี่ยนซาน ทางทิศใต้ติดทะเลโป๋ไห่ บางทีก็เรียกชื่อด่านนี้ว่า เทียนตี้ยีกวาน(ด่านที่หนึ่งใต้หล้า) ด่านนี้สร้างขึ้นจากจักรพรรดิจูหยวนจาง ทรงเห็นว่ามองโกลยังมีพิษภัยมากอยู่ จึงแต่งตั้งเพื่อนสมันเด็กที่เคยเลี้ยงควายมาด้วยกันชื่อ สวีต๊ะ ขุนศึกคู่ใจเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้วไปสร้างด่านนี้เมื่อ ค.ศ.1381 ด่านนี้ยาว
“อีกด่านหนึ่ง ด่านสุดท้ายที่จะเพิ่มเติมความรู้ให้ครับ ด่านเจียยู่กวาน (ด่านภูชัย) เป็นด่านสำคัญที่สุดทางภาคตะวันตกของกำแพงเมืองจีน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกานซู่ บนเส้นทางสายไหมที่โด่งดัง ด่านนี้ก็สร้างขึ้นสมัยจูหยวนจางเช่นกัน เมื่อ ค.ศ.1372 โดยทรงโปรดให้ เฝิงเซิ่ง ขุนศึกคู่ใจอีกคนหนึ่งไปสร้าง สองฟากของด่านนี้ทางฝั่งตะวันตกเป็นทะเลทรายโกบี ฝั่งตะวันออกเป็นโอเอซิส เนื่องจากที่ราบกว้างขวางจึงมองเห็นข้าศึกได้ดีและไกล ขนาดด่านใหญ่ที่สุดของจีน แบ่งเป็นเมืองสองชั้น ชั้นในกว้าง
ไปกำแพงเมืองจีนที่ปักกิ่งเพียงแห่งเดียว คุยไม่ได้ว่า ท่านรู้จักกำแพงเมืองจีนดีที่สุด ต้องไปครบสามด่านนั่นแหละครับ ถึงจะเรียกว่าไปถึงกำแพงเมืองจีนจริง พอเหลือบไปเห็นแม่บ้านกับลูกสาวหิ้วปีกลูกชายลงมาอย่างอ่อนล้า ก็นึกปลง พุทโธ่ นึกว่าแน่
ลองคิดดูนะครับ ขนาดลูกชายผมยังหนุ่มแน่นวัยแค่ 24 ปี ยังกลับมาสภาพนี้ หากเป็นผมอายุเฉียด 60 ปี น้ำหนักตัว