อาหารพื้นบ้านที่คลองท่าคา "ลุงดำ คำโต" คนไทยภาคกลางคิดประดิษฐ์อาหารออกมาหลากหลายรูปแบบ แปลกแตกต่างกันไปมากบ้างน้อยบ้าง ส่วนประกอบในอาหารแต่อย่างคล้ายคลึงกัน ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะปรุ่งแต่งเพิ่มสีสันเพื่อให้รสชาติ อาจแปรผันได้ รสชาติไหนได้รับความนิยมก็จะคงอยู่ แต่ถ้าทดลองปรุงแต่งแล้ว ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม ไม่นานก็จางหายไป มีโอกาสดีไปกินข้าวมื้อหนึ่งที่โฮมสเตย์คลองท่าคา อาหารที่ได้กินธรรมดาๆ แต่รสชาติและคุณค่าอาหาร น่าจะไม่ธรรมดา ลองลิ้มชิมรสดูนะครับว่า มื้อนี้ผมอวดอาหารอะไรให้กับท่านบ้าง ฮะแอ้ม...กรุณาอ่านให้จบแล้วค่อยกลืนน้ำลาย จานแรกเป็นปลาทูหน้างอคอหักตัวจริง มันมากับเรือประมงของชาวสมุทรสงคราม ได้เห็นการทอดที่เหลือง หอม น้ำลายสอเลย จานที่สองเป็นผักลวกจานใหญ่ใส่ปลีกล้วยหั่นขนาดกำลังดี ชะอมชุบไข่ทอดหั่นสี่เหลี่ยมพอคำ และดอกโสนลวก แหมถูกใจจริงๆ ตอนที่ผ่านมาเห็นขึ้นเป็นดง ดอกเหลืองอร่าม นึกอยากกินอยู่เชียว ได้กินจนได้ แต่ถ้าไม่มีน้ำพริกเป็นเครื่องจิ้มนี่เป็นไม่ได้แน่นอน มาแล้วกลิ่นกะปิหอมฉุย โอ้...อยากกิน ครบชุดน้ำพริกกะปิแล้ว อยากกินแล้ว แต่ข้าวยังไม่ลง ปลาเก๋านุ่งราดกระเทียมซอย ผักชีพราว แต้มด้วยพริกปั่นฝอย น้ำนุ่งปลาเยิ้มจานน่ากิน อีกจานเป็นห่อหมกมะพร้าวอ่อน เข้าสูตรเจ้าของสวนมะพร้าวทีเดียว เนื้อปลาที่ใส่เคล้าเครื่องแกง สีแดงอ่อนๆ มีพริกชี้ฟ้า และใบมะกรูดซอยโรยหน้าหอมกึก ตามด้วยต้มส้มปลากระบอกรสกลมกล่อม หวานอมเปรี้ยวปะแล่มๆ ช่างน่ากินจริงๆ จานสุดท้ายเป็นผักคะน้าปลาเค็ม เยี่ยม.. พอหม้อข้าวลงก็ตักใส่จานกันด้วยความรวดเร็ว หิวด้วย กับข้าวน่ากินด้วย อื่ย!! เปิบไม่พิศดารหรอก แต่ว่า กินกันไปในความเงียบสงบผิดปกติ วันนั้น ต้องขอบอกด้วยความไม่อายว่า กินไปสองจาน อิ่มแปล้ทีเดียว กำลังยืดพุง ขนมถ้วยโบราณวางแหมะ ควบตามมาก็ส้มโอขาวแตงกวา ล้างปากล้างคอด้วยของหวานและผลไม้พื้นบ้าน ก็หวานคอแร้งซิครับ นี่ขนาดว่าลุงดำโดดเดี่ยวมาเที่ยวคนเดียวนะนี่ ถ้ามากับหวานใจละก้อ จะได้อรรถรสสักเพียงไหน |