บางน้ำผึ้งใน ตลาดน้ำบ้านสวน "ป่าน ศรนารายณ์" เดี๋ยวนี้ใครๆก็ถามหาว่า วันหยุดหน้าจะไปเที่ยวตลาดน้ำที่ไหนดี คำตอบอยู่ที่เผอิญได้ดูจากรายการทีวีบางช่องที่ไปทำโฆษณามาอวดทางหนึ่ง จากสาคดีในหนังสือพิมพ์เป็นช่องทางที่สอง และทันสมัยที่สุดก็ต้องการควานหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต โลกไซเบอร์ที่เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นทุกวัน เป็นสื่ออิเลคทรอนิกที่กำลังมาแรงและกว้างไกล ไปจนจรดขอบฟ้า หรือจะมีใครเถียงว่าไม่จริง เงื่อนไขของการท่องเที่ยว"วันเดียวเที่ยวที่ไหนดี" นั้น ต้องใกล้ ใช้เวลาเดินทางน้อย ประหยัดค่าใช้จ่าย มีสิ่งละอันพันละน้อยชวนกินชวนซื้อกลับบ้าน ถ้ายิ่งบรรยากาศดีๆด้วยแล้ว ยิ่งน่าไปสัมผัส วันนี้จึงอยากชวนไปเที่ยวตลาดน้ำบางน้ำผึ้งใน โน่น สุดท้ายปลายทางที่ท่าน้ำพระประแดง มีรถโดยสารประจำทางมากมายหลายเส้นพาไปได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่ต้องเริ่มต้นการเดินทางเช้าหน่อย ผมอายุ 61 ปี จะไปนั่งรถเมล์ฟรีไม่ติดแอร์ก็รู้สึกเหนื่อยซะก่อนจะไปถึงพระประแดง ผมก็เลยตัดใจเรียกแท็กซี่คันหนึ่งจากข้างศาลากลางจังหวัดนนทบุรี รถสีชมพู ทะเบียน ทล.5053 คนขับรถยังหนุ่มราว ๆ 30 ปีเศษ พูดจาดี ท่าทางก็ดี เขาเสนอให้ผมเลือกเส้นทางไปพระประแดงด้วยนะครับ เขาเสนอว่า ทางเลือกที่หนึ่ง ถ้าไปทางด่วนต้องเสียค่าผ่านทาง 65 บาท ทางเลือกที่สองไม่ต้องเสียค่าทางด่วน โดยไปทางตลิ่งชัน-พระราม 2 แล้วไปวกเข้าประชาอุทิศ ทะลุพระประแดง ผมฟังแล้วก็คิดว่า ไอ้เด็กคนนี้ดีแฮะ เสนอทางเลือกให้ด้วย แต่ก็คิดในใจว่า ผมเคยไปสุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ ดูใกล้ดี แม้ต้องจ่ายค่าผ่านทางด่วน ผมเหลือบดูนาฬิกาเห็นว่ายังเช้าอยู่มาก ก็เลยลองให้เขาพาไปทางอ้อม "พอๆกันแหละครับ ไม่ต้องเสียค่าทางด่วน" ผมปล่อยให้เขาพาไปชั่วโมงเศษๆ ดูหน้าเกมิเตอร์ขึ้นไป 300 บาทเศษ ๆ แต่กว่าจะถึงท่าเรือพระประแดง รวมเป็นเงิน 385 บาท ผมนึกในใจว่า ขากลับจะนั่งจากพระประแดงไปแครายอีกรอบหนึ่ง โดยจะยอมเสียค่าทางด่วน 65 บาท ผมไปต่อรถสองแถวจากท่าเรือพระประแดงไปยังตลาดน้ำบางน้ำผึ้งใน ถึงวัดก็ลงเดินเข้าตลาดเลียบคลอง ดูสดชื่น ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ร้านค้าสองฝั่งถนนแคบๆแน่นไปด้วยผู้คนที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยว กิน ซื้อหาของกินของฝาก และของใช้ ผักสดพื้นบ้าน ก็มีใบทองหลางอ่อนๆ ยอดผักหวานบ้าน ลูกฟักข้าว ผักบุ้ง ผักกระเฉด หัวปลีกล้วย ผักแว่น ดอกขจร ดอกอัญชันสีม่วงสุดสวย ยอดอ่อนข้าวสาร ยอดอ่อนผักปลาช่อนหรือบางท้องที่ก็เรียกว่าปลาดุก โอย..มากมายก่ายกองจนจารนัยไม่หวาดไหว ผลไม้พื้นบ้าน ก็เช่น ลูกมะดันซึ่งหากินยากขึ้นทุกวัน ผลตะลิงปลิงใส่แกงส้มปลาย่าง หรือใส่ผลฟักข้าวสีสวยๆ มะกอกน้ำผลอวบถ้าทุบแล้วดองกิน อื่ย..น้ำลายสอ มะพร้าวน้ำหอมก็มากมายชวนให้อยากซื้อกิน ขนมไทยๆ ดูดีและดูน่ากินมาก ได้แก่ขนมขุยหนู ขนมประแนมกินกับใบทองหลางสวนอ่อนๆ ซึ่งเป็นขนมที่หากินยากมากขึ้นทุกวันเช่นกัน ขนมช่อม่วงสีสวยหวานๆ ขนมถั่วแปบ ขนมทองเอก สัมปันนี เสน่ห์จันทร์ จ่ามงกุฎ ขนมบ้าบิ่น ขนมจาก ฯลฯ ล้วนแต่น่ากินและซื้อหาไปฝากญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักนัก เครื่องดื่มสมุนไพร มากมายหลายอย่าง เช่น ลอดช่อง แครอท ใบเตย อัญชัน น้ำรากบัว น้ำใบบัวบก น้ำดอกอัญชัน น้ำฟักข้าวสีส้มสดใส และชาชักชาญวนของสาวสวยหน้าคล้ายๆหมวย ใส่กระบอกไม้ไผ่ดูน่ารักน่าดื่มดีเหมือนกัน อาหารคาว ก็เช่น ไข่หมึกปิ้ง ห่อใบตองซะหอมฉุยน่ากิน ดูสะอาดกว่าปิ้งโล้นๆ ข้าวซอย ก๋วยเตี๋ยวเรือ ฯลฯ ไก่ย่าง ส้มตำ ข้าวแกง หอยทอดขนมครก หมูย่างตะไคร้ กินไปได้ 1-2 อย่างก็หมดแรงสู้แล้ว ที่น่าสนใจมากคือ ไข่เค็มสมุนไพร เช่น ไข่เค็มตะไคร้ ไข่เค็มอัญชัน และไข่เค็มใบเตย กุ้งแก้วหวานกรอบ ฯลฯ เรือล่องให้นั่งเล่นเย็นใจก็มี เป็นอีกวิถีชีวิตหนึ่งซึ่งคนบ้านสวนใช้กันทุกยามที่ สัญจรไปมาระหว่างญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน เก็บหาและขนถ่ายพืชผลนานาชนิด บางทีก็ล่องเรือหากุ้งหอยปูปลาตามแม่น้ำลำคลอง แต่ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งในยังใช้เป็นเรือท่องเที่ยวชมสวนได้อีกด้วย คนกรุงเทพไม่เคยสัมผัส พอเห็นก็อยากลองลงเรือพายเล่นบ้าง เดินไปจนทั่ว พบว่าเกิดการขยายตัวของตลาดอย่างกว้างขวางมากขึ้นเรื่อยๆ จนบุกรุกท้องสวนมากขึ้นๆ มีเด็กๆนั่งวาดรูปลงสีกันอย่างเพลิดเพลินใต้ร่มเงาแมกไม้ได้อ็อกซิเจนสดๆ มีคาราโอเกะให้ร้องและฟังอย่างครึกครื้น แม้ว่าจะเป็นกลางวันแสกๆ ก็ตามที ผมเดินจนเหนื่อยอ่อนเต็มทีก็เลยนั่งลงกินข้าวซอยเสียเลย ตามด้วยต้มยำเส้นเล็กอีกชาม พุงกางขึ้นอีก 2 นิ้ว วันนั้นกว่าจะได้เดินทางกลับ ผมใช้เวลาไปกับการเที่ยวในตลาดน้ำบางน้ำผึ้งในกว่า 3 ชั่วโมง เก็บภาพที่เห็นและอยากเผยแพร่ได้มากมาย เหลือเฟือก็แล้วกัน แต่พอผมเดินวกเข้าไปในเขตขยายใหม่ใกล้สวน ผมได้พบว่ามีนวดแผนไทยอยู่ด้วย แหม กำลังเมื่อยอยู่เชียว ได้เรื่อง สัก 2 ชม.ก็คงจะหายปวดที่เท้าและหลังไหล่ที่แบกกล้องท่องถ่าย พอสบายตัวอีกหน่อยก็เดินออกมาเรียกแท็กซี่ดิ่งกลับจากตลาดน้ำแห่งนี้เลยทีเดียว ผ่านด่านเก็บเงินค่าทางด่วน 2 จุด 65 บาท ผมลงที่หน้าบ้านด้วยค่ารถแท็กซี่เพียง 285 บาท รวมค่าทางด่วนแล้ว ผมพิสูจน์ทราบได้ในวันเดียวว่า อย่าไว้ใจแท็กซี่คันนั้นเด็ดขาด เล่หฺกระเท่ห์ที่หลอกลวงคนโดยสารเช่นนี้ ถ้าเกิดมีขึ้นอีก สมควรยึดใบอนุญาตขับรถสาธารณะเสียด้วย น่าเสียดายที่ผมไม่ได้จดชื่อคนขับคนนั้น เพราะว่า รูปที่โชว์เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งก็คงจะเป็นคู่หูกัน โปรดระวังแท็กซี่ ทะเบียน ทล.5053 สีชมพูเอาไว้หน่อยก็คงจะดี จะได้ไม่ต้องถูกโกงเหมือนผมวันนี้นะครับ |