http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,006,493
Page Views16,315,512
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จอมโกงจอมภู ตอน 25 ผีเข้า

จอมโกงจอมภู ตอน 25  ผีเข้า

                                          จอมโกงจอมภูตอน 25  ผีเข้า

                                                                                                  "อินทรีดำ"/เรื่อง  ปัณณิกา /ภาพ 

            ตั้งแต่มณีมาเป็นหัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอกสองปีแรก  แทบจะละเลยเรื่องเจ้าป่าเจ้าเขาไปเสียสนิทใจ  เนื่องเพราะว่าเป็นคนภาคกลางและคนหัวสมัยใหม่มีการศึกษาสูง ก็เลยไม่ได้คิดมากเรื่องเหล่านี้ จนกระทั่งผ่านไปปีที่สาม เช้าวันหนึ่งก็เกิดเรื่องราวที่น่าตกใจมาก แต่วันนั้นมณีไม่อยู่ที่หน่วย มารู้เรื่องก็เมื่อค่ำของอีกสองวันต่อมา หลังกลับจากราชการต่างที่ท้อง เอ๊ย ท้องที่

            มณียกแก้วกาแฟมื้อเย็นขึ้นดื่ม พลางมองหน้าประเสริฐๆ เหมือนกำลังจะพยายามพูดอะไรสักอย่าง

            พี่ !  เมื่อสองวันก่อน คนงานสาวๆ ชื่อเมนรี่ ผีเข้าที่หน้าเสาธงชาติโน่นมณีมองตามที่ประเสริฐชี้ ด้วยความสนใจฟัง

            ผมตกใจหมดเลยครับ คนงานกำลังจะเข้าแถวกัน  อยู่ ๆ เมนรี่ก็ร้องขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า

            พวกมึงกินกันปากมัน  กูอดอยากปากแห้งมาเป็นปีๆแล้ว  กูจะกินหมูหัวหน้าๆ แล้วลุกขึ้นเหวี่ยงหมวกพลางก็ถอดเสื้อแขนยาวออกเหลือแต่ยกทรง  และทันใดก็แก้กางเกงขายาวออกอีก พอหลุดพ้นได้ก็วิ่งวนรอบเสาธงแล้วแหกปากร้องวลีเดิมๆ ทุกคนตกใจวิ่งหนีกันพล่านไปทั้งสนาม




                                                       
           
แล้วประเสริฐล่ะอยู่ที่ไหน?” มณีถามมองหน้ายิ้มๆ ประเสริฐสบตาแล้วตอบด้วยเสียงแผ่วๆ

            ผมก็ เอ้อ..เผ่นเข้าสำนักงานครับประเสริฐตอบแล้วก้มหน้าเหนียมๆ มณียิ้มหัวที่รู้ว่าผู้ช่วยของตนเป็นคนขี้กลัวและตกใจง่าย  พลางนึกในใจ โถ  พ่อขวัญอ่อน

            แหม  หมูเราก็อุตส่าเลี้ยงไว้เพื่อกินอาหารเหลือๆ เอาไงดีล่ะ?” มณีปรารภขึ้น

            ผมว่าลองถามชาวบ้านดูก่อนว่า เคยเลี้ยงผีทุกปีจริงไหม แต่อยู่ๆ เมนรี่ซึ่งเป็นสาวรุ่นๆอาละวาดขนาดนั้นผมว่าไม่ปกติแน่”  ประเสริฐซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ให้ความเห็น

            “เฮ้ยเสริฐ เมนรี่มันยิ่งอวบอึ๋ม ไม่จ้องมองกันตาโตเท่าไข่ห่านเลยหรือ?” มณียังคลางแคลง

            โอยพี่ ! หนีกันจ้าละหวั่น ไม่มีกะจิตกะใจจะดูของๆ มันหรอกครับ?”  ประเสริฐแย้งขึ้นด้วยความเป็นจริง ทำท่าสยองๆ  มณีฟังด้วยรอยยิ้ม พลางตอบ

            เอาก็เอา ไม่ต้องถามชาวบ้านหรอก ไปนัดมาลงมือทำหมูเลยดีกว่า   คืนนี้ตีสามลงมือได้ เช้าตรู่ต้มหัวหมูเสร็จ ทำพิธีไหว้ได้เลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปไหว้ด้วย ดีเหมือนกัน เจ้าป่าเจ้าเขาละเลยไม่ดี  มณีผสมโรง

            เรื่องเมนรี่ผีเข้ายังคุยกันไม่จบ แต่ละคนก็บ่นเสียดายไม่ได้ดู เพราะว่ามัวแต่วิ่งหนีด้วยความตกใจกลัว จึงไม่มีใครได้เห็นเลยสักคนว่า เมนรี่มีไฝดำตรงไหนบ้าง หน้าอกสวยขนาดไหน และสะโพกผึ่งผายเพียงใด ไม่มีใครรู้กระทั่งว่าเมื่อไรที่เมนรี่นุ่งกางเกงสวมเสื้อเหมือนเดิม  แต่การไหว้ผีซึ่งมารู้จากลุงไหวผู้ทำพิธีการไหว้ผีประจำหมู่บ้านว่า เรียก เจ้าพ่อพันตน

            เรื่องผีเข้ายังไม่จบ  เมื่อยามคนใหม่ที่เข้ามาแทนที่ลุงนวล ชื่อหยุด เป็นชายหนุ่มอายุราวๆ 30 ปีเศษ หน้าตาท่าทางดี ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ด้วยซ้ำ เมียหนึ่งลูก 2 คน หยุดจึงมาทำงานด้วยความตั้งใจจะหาแต่เงินส่งไปเลี้ยงลูกเมีย  หยุดพักอยู่ห้องแถว และกลุ่มหนุ่มไฟแรงของหัวหน้า ไอ้สากับไอ้อ้วน ซึ่งเป็นหลานที่อพยพหลบภัยมาไกล  เพื่อขออยู่ด้วยการทำงานทุกอย่างเช่นที่คนอื่นทำ แต่หน้าที่ประจำคือ จเร ขับรถบ้าง  เฝ้าที่ทำการบ้าง ต้อนรับแขกบ้าง

            คืนหนึ่งหนาวได้ที่ กลุ่มหนุ่มๆ ทั้งหลายอันประกอบด้วยผู้ช่วยประเสริฐ  ไอ้สา  ไอ้อ้วน  รวมทั้งหยุด จับกลุ่มนั่งรอบกองไฟ ดื่มสุราฮะกึ๋นตามธรรมเนียม ระหว่างที่อยู่กันพร้อมหน้า หยุดทำหน้าที่เหมือนเป็นบริกร และคอยลุกไปเคาะระฆังเป็นครั้งคราว แล้วก็กลับมานั่งร่วมวงกับกลุ่มหนุ่มๆ  กองฟืนถูกเขี่ยให้ไฟลุกโพลงเพื่อจะได้ดับความหนาวเย็น คุยกันไปหลายเรื่องอยู่ๆ ประเสริฐก็เกิดอยากจะเล่าเรื่องผีเข้าเมนรี่ขึ้นมา

               “ผมจะเล่าให้ฟังนะ  เมื่อปีก่อนนี่เมนรี่ผีเข้าเช้าตรู่เลย วิ่งแก้ผ้าโทงๆ ปากก็ร้องแต่ว่า พวกมึงกินกันปากมัน  กูอดอยากปากแห้งมาเป็นปีแล้ว  กูจะกินหมูหัวหน้าๆ”  ประเสริฐเล่าไปใบหน้าก็เริ่มถอดสีลงไปทุกที ไอ้อ้วนเทเหล้ากรอกปากไม่หยุด ไอ้สาโงนเงนทำท่าไม่ดี 
                ทันใดนั้นเอง หยุดก็ลุกพรวดขึ้นแล้วตะโกนขึ้นสุดเสียงว่า

                 “พวกมึงเอากูมาเล่าขานหรือ?  พวกมึงยังไม่รู้จักฤทธิ์กูเสียแล้ว?”
                  หยุดหน้าเขียวตาโปน ออกท่าทางจะเข้าทำร้ายประเสริฐๆ รีบกระโดดแผ่วเดียวก็ขึ้นไปถึงบันไดบ้านและเข้าห้องล็อคกลอนเรียบร้อย ไอ้สาฟุบคาวงไปก่อน ไอ้อ้วนกำลังเมาได้ที่ขนาดกำลังสะลึมสะลือก็โดดทิ้งไอ้สาไปไกล กว่าจะรู้อะไรเป็นอะไร หยุดก็เกิดหยุดขึ้นมาดื้อๆ แล้วล้มตัวลงนอนเหมือนหมดสติ  ผู้ช่วยประเสริฐไม่ลงมาอีกเลย แต่ไอ้อ้วนย้อนกลับลงมาดูไอ้สาและยามหยุดนอนหลับอยู่ข้างกองไฟ
                   "เฮ้ย หยุดๆๆ " แต่หยุดไม่ฮื้อไม่อือตอบ ไอ้อ้วนเขย่าร่างไอ้สา ก็เหมือนเดียวกัน ไอ้อ้วนตัดสินใจหนีขึ้นห้องแถวไปนอน
                    เช้าถัดมา ประเสริฐเรียกหยุดมาถาม  หยุดก็งง แล้วก็ตอบว่าจำอะไรไม่ได้เลย  

                    เช้าอีกวันหนึ่ง ประเสริฐเดินมาพลางก็เหลียวซ้ายแลขวา   พอเข้าที่ทำการได้ก็ตรงแน่วมานั่งหน้ามณีซึ่งกลับมาจากราชการที่ท้องแล้ว

                     “พี่ เมื่อคืนผมนั่งกินเหล้าผิงไฟอยู่กับยามหยุด  อ้วน  สา  พอผมเล่าเรื่องเมนรี่แก้ผ้าโทงๆ ตอนเช้าตรู่ หยุดของขึ้นผีเข้าอีก มันจะทำร้ายผมเลย ดีนะครับผมเผ่นหนีได้ทันที

                      ประเสริฐเล่าให้มณีฟัง  มณีสนใจและนึกขำคนขวัญอ่อน แต่ก็ต้องเชื่อเพราะว่าประเสริฐพูดแต่เรื่องจริงเสมอ

                     แล้วเขาไม่วิ่งตามหรือ

                      “ไม่ครับ เพียงแต่ตะโกนเสียงดังน่าตกใจมาก ถ้าเผ่นไม่ทันก็ไม่รู้จะถูกทำร้ายหรือเปล่า ประเสริฐพูดเสร็จก็อดขำตัวเองไม่ได้

                       “อ้าวแล้วไอ้อ้วนกับไอ้สาล่ะ ?” มณีถาม

                       “สาเมาหลับ อ้วนกระโดดหนีเร็วจี๋ ประเสริฐเล่าไปก็อดหัวเราะขำๆ

                        ตกค่ำ  ยามหยุดเข้าเวรเช่นปกติ  มณีเรียกมาคุยด้วย

                       “เมื่อคืนก่อนนู้นหลับยามหรือเปล่า?”

                       “ไม่ครับ  แต่เอหลับตอนดึกครับยามหยุดสารภาพ

                        “แล้วไปออกงิ้วอะไรกับผู้ช่วย?” ยามหยุดมองหน้านิ่ง  เหมือนงงๆ

                         “ผมไม่ได้ออกงิ้วอะไรนะครับยามหยุดมองหน้าเหมือนสงสัย มณีคิด ถ้าจะไม่รู้ตัวจริงๆ

                        “ห้อยพระอะไรไหมหยุด?” มณีถาม

                       “ไม่เคยห้อยครับมองหน้ามณีอีก แล้วทำท่าจะลุกขึ้น

                        “ไปอยู่ยามต่อเถอะ  แล้วก็อย่าหลับยามอีกนะมณีเสริมส่ง  
                        
งานพัฒนาหยุดพักมานาน  มณีเดินทางเข้าจังหวัดไปตามเรื่องไฟฟ้าเข้าหน่วยที่ได้งบประมาณมาก้อนหนึ่ง  แต่ได้รับการตอบรับว่าส่งเรื่องเข้าไปสำนักงานใหญ่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหน้าคุกลาดยาว  พอมณีเดินทางเข้ากรมป่าไม้ตามปกติ มณีถือโอกาสไปพบฝ่ายพัฒนาไฟฟ้าภูมิภาค  หัวหน้าฝ่ายรูปร่างขาวท้วม หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ทักขึ้นว่า

                          “คุณมณีจากน่านหรือแล้วมองหน้ามณี แล้วพูดต่อว่า หมู่บ้านภูพยับหมอก 49 หลังคาเรือนและหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ผมรออยู่เชียว” มณีนิ่งฟังตาตั้ง

                          “คืออย่างนี้นะ ผมเห็นว่าขอไฟฟ้าลงหน่วยได้ตามงบประมาณแน่นอน แต่ผมเห็นว่ามีหมู่บ้านอยู่ติดกับหน่วย ก็เลยลองดีดลูกคิดดูแล้วว่า ถ้าไฟฟ้าให้งบพัฒนาไฟฟ้าชนบทไปอีกส่วนหนึ่ง หมู่บ้านทั้ง 49 หลังคาเรือนก็มีไฟฟ้าใช้ได้เลย เพราะว่าต้องลงหม้อแปลงไฟแรงสูงเป็นแรงต่ำอยู่แล้ว  เอาไหม” หัวหน้าพูดจบด้วยคำถาม   มณียกมือไหว้ขอบคุณ 

                         “ได้อย่างนั้นก็ดีซิครับ  ทุกวันนี้ผมปั่นไฟฟ้าโดยใช้เครื่องยันม่าร์ให้เขาใช้เดี๋ยวดับๆ โอ้โฮ ชาวบ้านนี่โชคดีจังพลางคิดในใจถึงบางสิ่ง มณีขนลุกเกรียว

                         มณีกลับน่าน รีบเข้าหน่วยด้วยความดีใจ เรียกประชุมชาวบ้านในคืนนั้น

                         “ผมไปตามเรื่องไฟฟ้าลงหน่วย  แต่กลับได้พบคนดีๆ เขาเสนอให้งบพัฒนาไฟฟ้าภูมิภาคกลายเป็นว่า พวกเรามีไฟฟ้าใช้พร้อมกับหน่วยโดยไม่ต้องเฉลี่ยจ่ายค่าเสาเหมือนหมู่บ้านอื่นๆ เลยเสียงฮือดังขึ้นด้วยความดีใจ

                        “แต่ว่าทุกหลังคาเรือนต้องเสียค่าหม้อไฟหรือมิเตอร์บ้านละ 1 ตัว  สายเมน  สายอ่อน หลอดไฟฟ้า คัทเอาท์ตัดไฟ  จะใส่กี่หลอดตรงไหนบ้าง ปลั๊กกี่ตา กี่ที่ เอาเท่าที่จำเป็นๆนะมณีต่อ

                         “หัวหน้าครับ  มีไฟฟ้าใช้โชคดีจริงๆ แหละครับ แต่พวกเราจะไปหาเงินซื้อส่วนที่ต้องจ่ายจากไหนละครับ เงินเก็บก็แทบไม่มีเหลือวิเชียรพูดขึ้นด้วยความกังวล

                         “ผมคิดดูแล้วว่า จะกำหนดให้ทุกบ้านมีจำนวนหลอดนีออน  2 หลอด หลอดกลม 2 หลอด ปลั๊กไฟ 2 จุด มิเตอร์ 5 แอมป์ 1 ตัว คัทเอาท์ 1 ตัวพร้อมฟิวส์ สายเมนดำคู่ยาว 15 เมตร สายอ่อน 1.5 จำนวน 25 เมตร สายอ่อน 2.4 จำนวน 20 เมตร มากน้อยคงไม่เกินนี้ผู้ช่วยประเสริฐลุกขึ้นสรุป

                           “ประเสริฐจดรายละเอียดให้พี่ด้วย  เข้าเมืองจะได้ไปติดต่อร้านไฟฟ้าให้ ซื้อรวมกันแล้วมาช่วยกันเดินไฟเองจะได้ประหยัดเงินมณีสรุปอีกครั้ง

                            แทบไม่น่าเชื่อว่า  เมื่อมณีไปนั่งเคลียร์ใบเสร็จร้านค้าในเมืองน่าน แล้วเล่าให้ฟังเรื่องบ้านภูพยับหมอก  เรื่องโรงเรียน เรื่องต้มเหล้าเถื่อน พอถึงเรื่องการไฟฟ้า เจ๊เจ้าของร้านกลับนั่งฟังด้วยความสนใจนิ่ง

                           “นี่ไฟฟ้าให้ไฟฟ้าเข้าหมู่บ้านแต่ผมยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ชาวบ้านมีเงินเดือนน้อยมาก  จะออกให้ก่อนก็ไม่ค่อยมีเงินครับ” มณีพูดจบก็นั่งนิ่ง ท่าทีครุ่นคิด แต่แล้วเจ๊เจ้าของร้านก็ทำลายความเงียบขึ้นว่า

                           “คุณมณี เจ๊ว่าเพราะฟังเรื่องคุณแล้วแปลกดี คุณทำทุกอย่างเพื่อชาวบ้านซึ่งจริงๆ ก็แค่ชาวบ้านที่มาขายแรงงาน  แต่คุณกลับช่วยเขามาก เจ๊ขอช่วยด้วยคนหนึ่ง คุณจะเอาอะไรจดรายการมาเลย หักชาวบ้านเดือนละ 30 บาทผ่อนให้เจ๊แล้วกันมณีนั่งมองตาโต ตกตะลึงจังงัง นี่เกิดอะไรขึ้นหรือ 

                      “ฤานี่คืออิทธิฤทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขา

                      มณีขนลุกชันอีกครั้ง มณีแจ้งชาวบ้านด้วยความขอบพระคุณเจ๊  ทุกคนดีใจคุยกันไม่เลิกเรื่องจะมีไฟฟ้าใช้จริงๆ เสียที

                      การไฟฟ้าน่านเข้ามาวางเสาพาดสาย แล้วเดินสายไฟเมนจ่อเข้ามิเตอร์ พวกเราเลิกงานป่าก็เข้าหมู่บ้านช่วยกันเดินสายไฟด้วยความสนุกสนาน ไม่เว้นแม้กระทั่งยามหยุดที่แท้จริงมีความรู้เรื่องเดินสายไฟอย่างดี  แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่ทุกคนกำลังทำงานกันอยู่ที่บ้านลุงชุ่ม  ยามหยุดก็ทำด้วย เวลาใกล้เที่ยงเข้าไปแล้ว อยู่ๆ ก็เกิดเรื่องน่าตกใจ

                        ยามหยุดคลั่ง กระชากเสื้อแขนยาวที่สวมอยู่ออกจากร่างกายโดยที่เสื้อไม่ขาด กระดุมแขนเสื้อก็ไม่หลุด แล้วกระโดดเตะเสาเรือนดังโครมๆ ทุกคนตกใจ โดยเฉพาะผู้ช่วยประเสริฐกระโดดลงเรือนไปก่อนใคร 

                        พวกมึงกินกันปากมัน  กูอดอยากปากแห้งมาเป็นปีแล้ว  กูจะกินหมูหัวหน้าๆ  คราวนี้กูอยู่ไม่นานแล้ว  กูจะไปแล้ว

                         พลันยามหยุดก็ล้มลงแล้วนอนแน่นิ่งไปเฉยๆ  ส่วนคนที่วิ่งตะบึงไปตามหัวหน้าซึ่งอยู่ตีนดอยวัด มณีรีบเหยียบรถลงไปในหมู่บ้าน แต่ไม่ทันเสียแล้ว มณีไม่เคยเห็นผีเข้าสักครั้ง  และเมื่อหยุดฟื้นขึ้นมามณีเข้าไปขอดูร่องรอยบางอย่าง

                         หยุด  ไหนขอดูกระดุมเสื้อแขนยาวซิ ยังอยู่ไหม?” ปรากฏว่ายังอยู่ครบ แล้วมันถอดออกได้อย่างไร                          
                          “ถลกขากางเกงขายาวขึ้นซิ ขาที่เตะเสาบวมปูดไหม?”
ปรากฏว่าไม่มีร่องรอยบวมหรือเขียวใดๆ ไม่มีแม้แต่รอยแดงช้ำ ที่หน้าแข้งยามหยุด

                           มณีคิดไม่ตก ทุกครั้งที่เกิดเหตุผีเข้า ไม่เคยมีมณีนั่งร่วมวงอยู่ด้วยเลย  แล้วทำไมทุกคนที่ถูกผีเข้ากลับไม่รู้ตัวว่าตนเองทำอะไรลงไป 

 

Tags : Short&long story

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view