http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,061,996
Page Views16,373,145
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ย่ำดอยภูคาหน้าหนาว

ย่ำดอยภูคาหน้าหนาว


                                                 ย่ำดอยภูคาหน้าหนาว 
       
                                                                                                          มณี บันลือ

                   หากหนาวนี้อยากไปท่องเที่ยวสัก 3-4 วันแล้วไปแค่อุทัยธานี กาญจนบุรี นครสวรรค์ ก็เซ็งแน่ๆ มันต้องขึ้นเหนือครับ ตั้งเป้าไปให้ไกลสุดชายแดนกันเลย แล้วไปให้ถึงด้วยความมุ่งมั่นละก้อ ผมอยากชวนเชิญให้เดินทางไปจังหวัดน่าน อ้าว...แล้วจะไปไหนกันดีเล่า ผมก็ยังจะเชิญชวนให้ไปที่ดอยภูคา อันเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจังหวัดน่าน ครอบคลุมพื้นที่เกือบๆล้านไร่ เป็นป่าต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำน่าน และยังเป็นเทือกเขาสูงที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางความคิดที่แตกต่างอยู่นานนับสิบๆปี แต่วันนี้ มันกลายเป็นดินแดนที่มีแต่สันติสุขและให้ความสุขสมกับผู้มาเยี่ยมเยือนอย่างถึงใจ ผมโม้ซะตั้งนาน อยากไปหรือยังครับ  

                                    
 
                    การเดินทางไปง่ายมาก ขับรถไปตามถนนสายกรุงเทพ-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-น่าน ถ้าออกตั้งแต่หัวค่ำราวๆ 18.30 น. ขับรถไปสบายๆสัก 100-120 กม. ช่วงกรุงเทพพิษณุโลก สบายๆบนเส้นทางราบเลียบ แต่เมื่อเข้าเขตจังหวัดอุตรดิตถ์มุ่งสู่แพร่ละก้อ ต้องเลาะเลียบไต่ไปตามไหล่เขา ถนนลาดยางมาตรฐานครับ ปลอดภัยถ้าไม่ง่วง ไม่หลับใน ไม่ประมาท และได้เพื่อนร่วมทางที่สนุกสนานเบิกบานใจ เข้าทำนองเวลาจะไปเหมือนไก่จะบิน หรืออีกสำนวนหนึ่งก็คือ หลุดโซ่ (ได้ออกจากบ้านไปกับเพื่อนๆ ส่วนเมียเฝ้าบ้าน แฮะๆ)

                                    
                     
                     ระหว่างทางนี่มีปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ ห้องน้ำสะอาดๆ และมีมินิมาร์ทให้พักกินกาแฟ ปลดถ่าย พักเหนื่อย มันเป็นความสอดคล้องกันอย่างมีนัยยะทางเศรษฐกิจจุลภาค ทุกที่ที่แวะเข้าปั๊มทำอะไรก็ตาม ท่านได้กระจายรายได้ไปยังชนบทไม่ทางตรงก็ทางอ้อม แหล่งท่องเที่ยวอันเป็นเป้าหมายปลายทางจึงได้เพิ่มการสะพัดของเงินตราตลอดทาง และถ้ายิ่งจังหวัดนั้นๆเข้าใจ มีความคิดกว้างขวาง ผูกโยงระหว่างแหล่งท่องเที่ยวต่อเนื่องซึ่งกันและกันได้ นั่นหมายความว่า เงินจะหลั่งไหลเข้าจังหวัดของท่านอย่างไม่มีวันหยุด 

                                       

                      เข้าเขตจังหวัดแพร่ก็ราวๆ ตีสาม-ตีสี่ พักเหนื่อยจนหายง่วงแล้วค่อยต่อไปจังหวัดน่าน เรื่องง่ายแล้วครับ เส้นทางกว้างๆแทบไม่มีรถยนต์วิ่งนัก โค้งมากหน่อยแต่ไม่อันตราย ไปได้แบบขับไปคุยไป ยิ่งโค้งถี่ยิ่งไม่ง่วง และมักจะระมัดระวังมากขึ้น พอหลุดโค้งก็เข้าเขตอำเภอเวียงสา(83 กม) แยกซ้ายก็เข้าจังหวัดน่าน(24 กม.) แยกขวาก็ไปยังอำเภอนาน้อย(35+17 กม.ถึงอุทยานแห่งชาติศรีน่าน-ผาชู้ )  แต่เป้าหมายของทริปนี้ไปดอยภูคาครับ จึงต้องเลี้ยวซ้ายไปอีก 24 กม.ถึงจังหวัดน่าน 

                                         
            
                       ในตัวเมือง หน้าโรงแรมเทวราช  มีร้านอาหารจานด่วนหลายอย่างให้กินรองท้องก่อนการเดินทางไปยังดอยภูคา อำเภอปัว ระยะทาง 70 กม. แวะซื้อสะเบียงที่ริมทางอำเภอท่าวังผา โดยเฉพาะข้าวหลามกระบอกยาวที่สุดในประเทศไทย ข้าวหลามเมืองนี้เขามีหลายรูปแบบนะครับ ใส้ถั่วดำ ใส้เผือก ใส้ถั่วลิสง ไม่มีใส้เลยก็มี แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดน่านคือ ข้าวหลามใส้สังขยา  
                        น่าแปลกใจเหมือนกันนะครับว่า ทำไมเมืองน่านทำข้าวหลามขายมากเป็นพิเศษ แต่ละกระบอกยาวๆ ทั้งนั้น จนคนเมืองแพร่ล้อเลียนคนเมืองน่านว่า "ข้าวหลามแจ้ง" เพราะว่าอะไร

                                                   
                         
                        จากอำเภอท่าวังผาวิ่งรถต่อไปยังอำเภอปัวราวๆ 20 กม. แล้วไต่ขึ้นเขาไปอีก 36 กม ก็ถึงดอยภูคา อุทยานแห่งชาติเมื่อพ.ศ.2524 เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจังหวัดน่าน 
                         ระหว่างที่ขับรถไต่เขาขึ้นไปลูกแล้วลูกเล่านั้น ท่านจะได้เห็นไอหมอกไล้อยู่ตามยอดไม้ ทุ่งนา ป่าเขา บางทีก็มีทัศนียภาพที่สวยงาม เห็นวิถีชีวิตของชาวเขาที่ปลูกข้าวไร่บนยอดดอย กำลังฝัดข้าว นวดข้าว บางทีก็จะเห็นชาวไทยภูเจาเผ่าม้งเดินไปไร่ด้วยกำลังขาที่แข็งแรง บางทีก็นั่งรถมอเตอร์ไซด์ไปจนถึงรถยนต์กระบะ ที่ทุกวันนี้มีกันแทบทุกหลังคาเรือน  แต่อย่างไรก็ตาม ช่วยกันคิดสักนิดนะครับว่า ป่าต้นน้ำสำคัญบนยอดดอยสูงๆเช่นนั้น เมื่อไม่มีผืนป่าปกคลุมเลยจะเกิดอะไรขึ้นหรือ

                                     

                          ไปถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จะพักแบบไหนมีทางเลือกหลายทางเช่น นอนบ้านพักมีห้องน้ำในตัว อย่างกับรีสอร์ท หรือจะพักกระท่อมเล็กๆ หรืออยากกางเต็นท์นอน (ต้องจองไปจากกรมอุทยานแห่งชาติก่อนการเดินทาง) ตื่นเช้าๆ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ลานเสมอดาว บางวันอาจมีทะเลหมอกครึ้ม แต่บางวันก็อาจไม่เห็นเลย ธรรมชาติไม่อาจควบคุมได้เช่นนี้เอง แต่อย่าห่วงเลยครับ บนดอยภูคามีสิ่งที่จะเอื้ออำนวยให้จดจำมากมาย เพียงแต่ท่านเดินลงจากบ้านพักก็อาจจะได้เห็นใบไม้ผลิใบแสนสวยก็ได้ 

                                   
              
                          หลายจุดท่านจะเห็นพันธุ์ไม้แปลกตาเช่น เต่าร้างยักษ์  ชมพูภูคาที่มีดอกยาวเกือบ 1 เมตร แต่มองจากใต้ต้นขึ้นไปจะเห็นเพียงคืบกว่าๆ ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ป่าที่เหลืออยู่เฉพาะถิ่นน่านนี่เท่านั้น ยอดดอยภูคาท้าทายความพยายามของนักท่องเที่ยวให้ไต่ระดับท้าความหนาว หรืออาจจะไปตะลุยถ่ายรูปน้ำตกภูฟ้าที่ว่ากันว่า สูงสวยและเข้าถึงแสนยากเย็น เดินกันค่อนวัน มันเขาละครับ(ผมเองยังไม่เคยเข้าถึงเลย)


                                                 
      
                     ส่วนตัวผมแล้วชอบมากที่จะได้ไปดูวิถีชีวิตของชาวบ้านบ้าง ชาวเขาบ้าง  ผมก็เลยชอบไปดูการทำเกลือสินเธา อันเป็นบ่อเกลือโบราณที่มีเรื่องเล่าขานกันมากมายหลายประเด็น เช่นบ้างก็ว่า ในอดีตบ่อเกลือเป็นแหล่งที่ชาวเมืองสุโขทัยเคยเดินทัพเข้ามาเก็บหา หรือบางทีก็เล่ากันว่า เจ้าเมืองน่านปกป้องบ่อเกลืออันเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่หายากยิ่งนัก เป็นเครื่องปรุงรสอาหารที่มีคุณค่า แม้ว่าจะไม่มีไอโอดีนผสมอยู่เลยก็ตาม   
                      ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาได้โปรดกรุณาให้กระทรวงสาธารณะสุขใส่สารไอโอดีนลงไปในเกลือสินเธานี้ 

                                      

                      จนวันนี้ เกลือบ่อเกลือได้กลายเป็นทรัพย์ในดินที่ทรงคุณค่ายิ่งอีกอย่างหนึ่งของเมืองน่าน เป็นเรื่องราวการผลิตที่ชวนสนใจ นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรพลาดโอกาสเลย วันนี้ บ้านบ่อเกลือได้ขยับฐานะขึ้นเป็นอำเภอบ่อเกลือแล้ว มีความเจริญมากขึ้น และมีผู้คนแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมเยียนมากขึ้น ท่านละครับ ไม่อยากไปเยี่ยมชมดูสักครั้งหรือครับ เกลือเม็ดข๋าวขาว สาวๆบ่อเกลือก็ข๋าวขาวเน้อ..อ้าย

                                    
                                      
                              ที่นี่ท่านจะได้ชื่นชมกับบรรยากาศขุนเขาที่ยิ่งใหญ่ อากาศที่บริสุทธิ์ โอโซนเหลือเฟือ ค่ำคืนจะได้นั่งล้อมวงผิงไฟยามหนาวท่ามกลางเสียงหริ่งหรีดเรไรที่ขับขาน ได้เห็นพระจันทร์ดวงสุกสว่างในหมอกสลัวๆ ได้อาบไอหมอกเมื่อยามรุ่งเช้าอย่างจุใจ ได้ความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน และได้ความมุ่งหวังว่า อีกสักกี่เดือน กี่ร้อยวันจะได้เวียนไปบรรจบได้พบกับความสุขสรรค์เช่นคืนวันที่ผันผ่านไปอย่างอาวรณ์
                              ไปแล้วก็ยังอยากจะไปอีก เฮ้อ.....มันช่างม่วนแต๊เน้อ   อ้อ..บนอุทยานแห่งชาตินอกจากมีที่พักแล้วยังมีร้านอาหารสวัสดิการบริการด้วย แต่อย่างไรก็ดี ควรติดต่อสั่งจองไว้ล่วงหน้าดีที่สุด          

                         

                                    

                      
              

Tags : National park

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view