http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,010,542
Page Views16,319,725
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ข้าวจี่ โดยสาวภูไท

ข้าวจี่  โดยสาวภูไท


ข้าวจี่
                                                                                      “สาวภูไท

 

            คนที่อยู่ในวัฒนธรรมข้าวเหนียวคงไม่มีใครไม่รู้จักข้าวจี่  เพราะมันคือ  อาหารง่าย ๆ ผลิตจากข้าวเหนียว (นึ่งสุกแล้ว) ผสมเกลือ  ปั้นเป็นก้อนใส่น้ำอ้อยไว้ตรงกลาง(ปัจจุบันผสมไข่แทนน้ำอ้อย)   นำไปจี่ในกองไปที่เกลี่ยถ่านแดง ๆ ไว้แล้ว  กลิ่นข้าวไหม้หอมกรุ่น  โดยเฉพาะหากเป็นช่วงข้าวใหม่จะหอมกลิ่นข้าว  กลิ่นไฟ  บิกินร้อนๆ เป็นอาหารว่าง (กินกับกาแฟดีนักแล) ก่อนอาหารมื้อใหญ่  หรือใช้เป็นอาหารยามยาก  พกติดตัวไปกินระหว่างเดินทางออกไปเสาะหาปู ปลา หรืออื่นใดมาปรุงอาหารมื้อใหญ่ประจำวัน

            ข้าวจี่  เป็นอาหารสำหรับคนทุกวัย  ป้อนเด็ก  หรือสำหรับคนฟื้นไข้ที่มักผิดสำแดง  โดยเฉพาะแม่ลูกอ่อนอยู่ไฟกินอะไรไม่ได้ขะลำ*ไปหมด  ข้าวจี่คืออาหารอย่างเดียวที่กินได้ทุกคน

            ในนิทานพื้นบ้านลาว-อีสาน  เรื่อง  นางผมหอม  ตัวละครเอก คือ นางผมหอมเป็นเด็กกำพร้า(กำเนิดจากการที่แม่ของนางไปดื่มน้ำในรอยพญาช้างสาร) เป็นที่น่ารังเกียจของสังคมชาวบ้าน  ไม่มีเด็กใด ๆ อยากเล่นด้วย จึงไม่มีเพื่อนเลย  ไปขอเล่นกับใคร ๆ เขาก็วิ่งหนีหมด  แม่ของผมหอมสงสารจึงสู้อุตส่าห์ทำข้าวจี่ทีละหลาย ๆ ก้อนให้ลูกนำไปแบ่งปันเด็ก ๆ แลกกับการได้เล่น ได้เป็นเพื่อนกับเขา

                                            
      
                    
ประเพณีบุญข้าวจี่  เป็นบุญเดือนสามในภาคอีสาน  มีมูลเหตุแห่งการทำ  เล่าไว้ในหนังสือ  ประเพณีโบราณอีสาน  ของพ่อใหญ่ ดร.ปรีชา  พิณทอง  นักปราชญ์ชาวอุบลไว้ว่า

            คราหนึ่ง  เมื่อครั้งพุทธกาล  นางปุณณทาสีได้ทำขนมแป้งจี่(ข้าวจี่)ขึ้น  นำไปถวายแด่พระพุทธเจ้า  และพระอานนท์  นางคิดว่าเมื่อพระองค์รับแล้วคงจะไม่ฉัน  เพราะอาหารของเราไม่ประณีต  คงโยนให้กาและสุนัขกินเสีย  เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบวาระจิตของนางปุณณทาสีแล้วจึงรับสั่งให้พระอานนท์ปูลาดอาสนะลง  ทรงประทับนั่งฉันขนมแป้งจี่ ณ ที่นั้น  พอนางปุณณทาสีได้เห็นก็เกิดปิติยินดีสุดกำลัง  พระองค์ทรงแสดงธรรมให้ฟัง  นางก็ได้บรรลุโสดา ปัตติผล  เป็นอริยบุคคล  เพราะข้าวจี่เป็นมูลเหตุดังนั้น  ชาวนาเมื่อเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว  จึงพากันทำบุญข้าวจี่  เพราะการถวายข้าวจี่มีอานิสงส์มาก

            ปัจจุบันบุญข้าวจี่ในช่วงเดือนสามยังถือปฏิบัติในบางท้องถิ่นของอีสาน

๐๐๐๐๐๐๐

*ขะลำ-  ข้อห้าม,ต้องห้าม

อ้างอิง  ---  หนังสือประเพณีอีสานโบราณ  โดย  ปรีชา  พิณทอง

 

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view