http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,019,013
Page Views16,328,485
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ ตอน 4. เทคนิคการปราบปราม โดย อินทรีดำ

เสือกลิ่นสาบ ตอน 4.  เทคนิคการปราบปราม  โดย อินทรีดำ

เสือกลิ่นสาบ
ตอน 4.  เทคนิคการปราบปราม

โดยอินทรีดำ

        ป่าปกหญ้ารกเรื้อ
สัตว์ป่านานาชนิดได้อิงอาศัยหลบภัย หากินและขยายเผ่าพันธุ์ 
         ภัยร้ายต่อชีวิตสัตว์ป่าคือมนุษย์อันประเสริฐ เป็นอาหารรสเลิศชวนกินและอยากล่า สัตว์บนดินก็มี เก้ง  กวาง  อ้น  หมูป่า  กระจง  แลน  ฯลฯ  ไก่ฟ้าพญาลอ  ไก่ฟ้าหลังเทา บนต้นไม้ก็มี นกเปล้า  นกเขา  ไก่ป่า    ในน้ำก็เช่น นกเป็ดน้ำ  นกกวัก กบ  ตะพาบน้ำ  ปลาไหล  ฯลฯ ส่วนในน้ำจำพวกปลาก็เช่น ปลากราย  ปลากดเหลือง  ปลาตะเพียน  ปลาคัง ฯลฯ  พรรณนากันไม่ไหว  มากจริงๆ ให้ดิ้นตาย 

            มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในป่าจึงหากินเนื้อสัตว์จากป่าดังกล่าว  เป็นความชอบธรรมที่เขาหามาเป็นอาหารพอประทังชีวิตตนเองและครอบครัว  มีปืนแก๊บเป็นอาวุธสำคัญ  บางทีก็แร้วดักสัตว์ หรือการต่อไก่  ตกปลา ดักลอบ  มนุษย์มีหลากหลายวิธีในการจับหาอาหารได้ ดูไม่ยากเลย

            แต่เมื่อมันมีมากและหาได้ด้วยความชำนาญจึงมีการหามาให้เกินกินแล้วก็ส่งขาย เป็นเศรษฐกิจเกินพอเพียง เพื่อหาเงินซื้อหาของจำเป็นใช้  พรานบ้านป่าจึงเป็นกลุ่มคนที่เดินเกมเผื่อมากขึ้น  ส่งขายตามท้องตลาดใกล้ป่า ภายหลังก้าวหน้ามากขึ้น  จัดส่งร้านอาหารป่าถึงในตัวเมืองกันเลยทีเดียว 
          ผู้รับซื้อแล้วส่งขายมักมีหน้าที่ที่แอบแฝง

             ที่ร้านอาหารป่าแห่งหนึ่งชื่อร้านกะเหรี่ยงป่า ตั้งอยู่ติดถนนในอำเภอ อาหารหลักที่อวดอ้างก็จำพวกสัตว์ป่านานาชนิด  
          เจ้าของร้านเป็นสาวใหญ่ลงมือปรุงด้วยตนเอง  มีลูกสาวขาวบางอรชรอ้อนแอ้น ตาคมวาว เป็นพนักงานต้อนรับ  แคชเชียร์  เด็กเสิร์ฟ  
          หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ใจกล้าหาญ จึงมานั่งรอสั่งอาหารป่ากันตรึม


                                          
                                                                    กวางป่า..อยากมีชีวิตอยู่ในป่า

        
เย็นหนึ่ง มณีแต่งตัวสบายๆเดินออกจากบ้านเช่าไปเรื่อยๆจนถึงร้านกะเหรี่ยงป่า ดูเมนูแล้วสั่งอาหารกินเพื่อ  ในรายการอาหารมีทั้งเก้ง  กวาง  หมูป่า  แย้  อ้น กระจง นก ฯลฯ 

        วันนี้มีอะไรดีมณีถามแล้วจ้องหน้าสาวน้อยเจ้าของร้านอย่างตั้งใจ  สาวเจ้ามองสบตาแล้วยิ้มให้อย่างเต็มใจ หางตาเชื่อมละไมชวนให้ใจมณีสั่นระรัว

        กระจงค่ะ  สดๆ เลยนะคะ” มณีเบิกตาพองโต

        ขอดูได้ไหม  ไม่เคยเห็นตัวจริงมันเลยมณีแสร้งพาซื่อแล้วลุกตามสาวน้อยไปหลังครัว

        แม่  คุณอยากดูกระจง ค่ะ  แม่สาวใหญ่มองหน้าแล้วชูกระจงที่เพิ่งชำแหละแล้วเสร็จ  หนังที่มีขนสีเหลืองกองอยู่กับพื้น 

        มณีมองดูด้วยความเศร้าใจ  มนุษย์ใจร้ายที่สุด สัตว์ป่าน่ารักเช่นนี้ไม่น่าทำมันเลย   มณีเดินกลับไปนั่งรอกินข้าวที่สั่งไว้แต่ไม่ใช่กระจงตัวนั้นแน่นอน

        อีกวันหนึ่ง  มณีไปเยี่ยมสารวัตรใหญ่ที่โรงพัก  แล้วก็นั่งกินข้าวกลางวันด้วยกัน

        เออ  ข้างบ้านมณีมีร้านอาหารป่ามาตั้งใหม่  ดีไหมสารวัตรใหญ่ถาม

        ก็ดีนะ สดๆ ทั้งนั้น เก้ง  กระจง  นก สารวัตรใหญ่ชอบไหม?”

        ชอบมากๆ  เป็นของอร่อยประจำตัวก็ว่าได้สารวัตรใหญ่หัวเราะด้วยความชอบใจ 
        “สักวันผมจะไปอุดหนุน

        แต่กวางสาวนี่ซิสารวัตรใหญ่  ขาวผ่องเชียว รูปร่างก็อรชรอ้อนแอ้น   ถ้าว่างไปดูด้วยกันนะครับ
        มณีเชิญชวนด้วยความหวังลึกๆ  สารวัตรใหญ่ซึ่งชอบอาหารป่าประเภทร้อนแรงและแปลกพยักหน้ายิ้มๆ ยิ้มมากขึ้นเมื่อมณีบอกว่ากวางสาวร่างอรชร



                                                    
                                                                   หมูป่า ท่าทางดุดัน

         มณีออกตรวจตราในป่าอย่างหมกมุ่น   แล้วก็ลืมไปแล้วว่าได้ออกปากชวนเชิญสารวัตรใหญ่ให้ไปกินอาหารร้านกะเหรี่ยงป่าแห่งนั้น  จนกระทั่งวันหนึ่ง มณีผ่านไปแล้วเห็นรถยนต์ของสารวัตรใหญ่จอดอยู่จึงได้แวะเข้าไปทักทาย

        สวัสดีครับ สารวัตรใหญ่

        สวัสดีคุณมณี  แหมชวนผมแล้วเข้าป่าไปตรวจงานจนลืม  ผมเลยลองแวะเข้ามาเองนะนี่
       พูดจบสารวัตรใหญ่มองหน้าบริกรสาวเจ้าของร้านพลางก็อ้าแขนเชิญชวนให้มณีนั่ง

        ผมต้องขออภัยท่านสารวัตรใหญ่ด้วย  แต่ก็หวังว่าท่านจะมาลองชิมอาหารแล้วพึงพอใจในรสชาตินะครับมณีหันไปมองหน้าเจ้าของร้าน  ยิ้มแล้วถามต่อ

        เออ  ท่านมาละก็ดูแลท่านดีๆ ด้วยนะครับ  ผมอุตสาห์ไปเชิญชวนท่านมา
       มณีพูดจบ เจ้าของร้านก็ต่อด้วยเสียงหวานๆ

        ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ  ดูแลอย่างดีที่สุดเลยค่ะ  นี่แกงป่าเก้งได้มาสดๆนะคะ  แล้วเนื้อแดดเดียวนั่นก็เนื้อกวางม้า  พรานเขาได้มาตัวใหญ่มาก  ต้องแบ่งมาแค่ 10 กก.นะคะ  อ่อมเนื้ออ้นอร่อยและเผ็ดร้อนหอมมะแข่นที่ใส่มาก  ลองหน่อยไหมคะ?” 
        สาวเจ้ามองหน้ามณีแล้วมองตาสารวัตรใหญ่ด้วยแววหวานฉา  มณีรู้สึกช้าไปสิบก้าว นึกในใจ "กวางสาวเห็นทีจะมีเจ้าของ"  แล้วเลยพาลลากลับก่อน

          ว่ากันตามจริง  นักวิชาการป่าไม้เช่นมณีหากพบการกระทำผิดซึ่งหน้าก็จับกุมได้ทันที  แต่หลายครั้งที่งานปราบปรามร้านอาหารสัตว์ป่าส่งผลกระทบรุนแรง  จับทีไรก็ต้องส่งเนื้อไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ทราบ 
         คำตอบที่ได้รับกลับมา "หน้าแตกประจำ" คำตอบคือเนื้อวัวบ้าง  เนื้อควายบ้าง จับไม่อยู่สักที 


                                       

        
 
คดียกฟ้อง  เจ้าหน้าที่ถูกฟ้องกลับ  และเข็ดขยาดกันไปทั่ว  เว้นแต่จับได้คาหนังคาเขาจะจะ  มีซากสดๆ ติดหนังและขน  ก็พอจะทำคดีได้ดีหน่อย  แต่ส่วนใหญ่เป็นเนื้อแช่แข็งในถังแช่เสียมากกว่า  งานก็เลยเหมือนจะละเลยกึ่งๆ ไม่มั่นใจในภูมิปัญญาที่จะทราบได้ว่า เนื้อสัตว์ป่าจริงหรือปลอม 
        ด้วยเหตุนี้ มณีจึงส่งสายสืบเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  เพื่อไม่ให้พลาดอีก

          มณีหันไปทำงานด้านอื่นๆ ตามหน้าที่  แต่ก็ฟังจากสายสืบว่า ร้านอาหารป่าร้านไหนมีอะไรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปบ้าง  มีสิ่งหนึ่งที่สายสืบรายงานทุกวันคือ สารวัตรใหญ่และคณะแวะเวียนไปเฝ้าร้านอาหารกะเหรี่ยงป่าอย่างถาวร  เรียกว่าทุกเย็นจะเห็นคณะของท่านนั่งร้านนี้  มีเจ้าของร้านรูปงามออเซาะเอาใจอยู่ใกล้ๆ  เฝ้าอยู่หลายเดือน แทบไม่เว้นวาง

         วันหนึ่ง  ช่วงฤดูร้อน  ร้านปิด  เจ้าของร้านหายเงียบไป  สารวัตรใหญ่ก็พลอยหายไป 
        สายรายงานว่าเดินทางไปเที่ยวชายทะเลด้วยรถเบ็นซ์คันโก้  คงอยู่แต่แม่ของสาวเจ้าเฝ้าร้านเงียบๆ  และอีกสามวันถัดมา สายรายงานว่า  สาวเจ้าของร้านกลับมาพร้อมกับร่องรอยแดงๆ ที่คอ  เป็นจ้ำๆ  สารวัตรใหญ่ขับเบ็นซ์มาส่งที่หน้าร้าน  ความรักสุกงอม ลามเลียจนคอมีรอยช้ำ

          "ไม่ทันสารวัตรใหญ่อีกแล้วซิเรา" มณีนึกในใจ  

        
ทุกครั้งที่สายรายงาน จะเพิ่มเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเนื้อสัตว์ป่าว่า  ไม่เห็นเป็นตัวเป็นๆ หรือซากเช่นกระดูก  หัว หนัง  มีแต่เนื้อเป็นก้อนๆ ซีลด้วยพลาสติกอย่างดี  สาวเจ้าของร้านจะโกหกหลอกลวงลูกค้าหรือไม่  ตอบไม่ได้  เนื้อที่เห็นก็แทบแยกไม่ออกเช่นเคย สุดแต่เจ้าของร้านจะเสนอขายลูกค้าว่าเป็นเนื้อประเภทใด   
        คนสวยพูดอะไรก็ดูน่าเชื่อถือ ยิ่งอยากให้เขาหลอกอยู่ด้วย ก็ไม่ยาก

          ไฟมืดสลัว  มัวแต่จ้องมองเจ้าของร้าน  เมาเหล้ากรึ่มๆ  เสียงออดอ้อนออเซาะฟังแล้วขยี้หัวใจจ๊อดยิ่งนัก 

        มณีฟังสายรายงานต่อมาอีกสองสัปดาห์  พบว่าบางวันร้านปิดหลังจากที่คืนก่อนสารวัตรใหญ่มาเฝ้าระวังให้  และบางทีก็ปิดไปหลายวัน  
        แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ร้านอาหารป่าที่ค้าขายเนื้อสัตว์ป่ารสร้อนแรงมีอันต้องหยุดยาว  เมื่อคืนหนึ่ง มีรถเก๋งทะเบียน จังหวัดแพร่  วิ่งมาซุ่มมองพฤติกรรมอยู่นานนับชั่วโมงในเงามืดริมซอกร้านด้านหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลจากร้านมากนัก  แต่โชคไม่ดีที่การเฝ้ามองหาเหตุไม่พบ
รถสารวัตรใหญ่ก็ไม่มาจอดที่ประจำ

        อีกสัปดาห์ต่อมา  รถเก๋งคันดังกล่าวมาจอดซุ่มมืดอีกครั้ง  แต่ก็ไร้เงาผู้ก่อการร้าย  คงมีแต่เจ้าของร้านผิวผ่องที่ยิ้มระรื่นต้อนรับลูกค้าอยู่วุ่นวาย  การทำงานของสายสืบของรถเก๋งทะเบียนแพร่ฝีมือเด็กๆไปหน่อย 
      
การก้าวย่างอย่างเสือของสารวัตรใหญ่จึงไร้ร่องรอยที่จะตามติดได้ 

        คืนหนึ่ง  ไม่ใช่วันหยุดเสาร์อาทิตย์  สารวัตรใหญ่เข้าไปเฝ้าร้านอาหารป่าเช่นที่เคย  เจ้าของร้านสาวยิ้มแก้มปริด้วยความสุขใจ  ประกายความดีใจเปล่งไปทั้งใบหน้าและแววตา  เมื่อสารวัตรใหญ่ย่างก้าวลงจากรถ และสาวเจ้ารี่เข้าไปเกาะแขนออเซาะ

        คิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าพี่อีกแล้วพลางก็มองสบตาสารวัตรใหญ่ด้วยแววตาตัดพ้อ

        ทำไม ? คิดถึงใจจะขาด !  แต่งานยุ่ง มีคดีต้องสะสาง ถ้าล่องหนมาหาได้ก็จะล่องหนมาเชียว” 

       สารวัตรใหญ่โอบเอวกระชับเข้ามาใกล้  สาวเจ้าเขย่งขึ้นหอมแก้มด้วยความรักและซึ้งกับคำพูดหวานหู  อาหารป่าคืนนี้ไม่มีเก้งกวาง  แต่มีปลาเป็นหลัก  แกงป่าปลาดุก  ทอดกระเทียมปลาแรด  ปลาคังลวกจิ้ม ช่วยให้ความสวยงามยามไร้เนื้อสัตว์ป่าหอมหวานและไม่ตะขิดตะขวงใจอีกต่อไป

       "พี่เป็นตำรวจมีหน้าที่ต้องปราบปรามการกระทำผิดทุกพระราชบัญญัติ  เมียพี่ทำผิดเสียเองก็ดูไม่ดีใช่ไหม ?” 
        สารวัตรใหญ่อ้อน  สาวเจ้าทำหน้าปลื้มกับคำว่า เมีย” สุดๆ

        เพื่อนพี่ที่เป็นป่าไม้ ไม่แวะเข้ามาเลยนะคะ

        เขางานหนัก แล้วอีกอย่างหนึ่งก็เกรงใจพี่ เพราะว่าร้านนี้พี่คุม” 

      สารวัตรใหญ่ตีขลุมพร้อมเสียงหัวเราะ มือโอบกระหวัดรัดรึงสาวเจ้าเข้าหาตัว จมูกโด่งกดใส่แก้มหอมระริกระรี้

        ที่แท้นะคะ  เนื้อเก้งเนื้อกวางน่ะค่ะมันคือเนื้อวัวกับเนื้อควายค่ะ  แต่ใส่เครื่องเทศให้จัดๆ  ไม่รู้รสชาติหรอกค่ะสารวัตรใหญ่ฟังแล้วถึงกับสะอึก  หันขวับมามองหน้าแล้วรั้งเอวเข้ามาชิด ทำตาดุ

        ฮื่อ!  คนหลอกลวง  ไอ้เราหรือคิดว่าเนื้อเก้งเนื้อกวางแท้ๆ คนงามของพี่ขี้จุ๊  ยังงี้ต้องจับปรับสองที” 
      ว่าพลางสารวัตรใหญ่ทำทีจะหอมแก้ม  แต่ช้าไปเสียแล้ว  สาวเจ้ายื่นจมูกขึ้นไปหอมสองฟอดใหญ่  สารวัตรยิ้มแล้วกระซิบ  คืนนี้ต้องปรับต่อแล้วนะ” 
        สาวเจ้ายิ้มอายแล้วซบหน้าแนบไหล่ด้วยดวงใจพองโตกับความสุขที่จะหวนคืนอีกครั้งหลังจากไปทะเลคราวก่อน

        สัปดาห์ต่อมา มณีไปราชการผ่านร้านอาหารป่าช่วงกลางวัน  มองเข้าไปเห็นเงียบผิดปกติ  พยายามชะลอรถแล้วตัดสินใจจอดเดินลงไปดูที่ป้ายหน้าร้าน

        ปิดปรับปรุงกิจการ 2 สัปดาห์ เปิด 18 มค 28”

        ที่แท้การหายไปของเจ้าของร้านอาหารป่า  สายรายงานว่าสารวัตรใหญ่ไปอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนระดับผู้นำหน่วยที่บางละมุง ชลบุรี  การพักยาวของร้านอาหารป่าสร้างความโล่งใจให้กับมณีมาก  รู้แล้วไม่จับก็เหมือนละเว้นต่อหน้าที่ 


                                         

        
ค่ำสนิท  ณ ที่ทำการสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2  มณีนั่งทานอาหารร่วมกับเพื่อนร่วมงาน 12 ชีวิต  มีเหล้าแกล้มกันตามธรรมเนียม         พอชักจะเมาได้ที่

        หัวหน้าครับ  ร้านกะเหรี่ยงป่านี่ เราไม่จับหรือครับ  157 เชียวนะครับทวี  มิตรชัยถามเบาๆ แบบว่าเกรงใจมากๆ

        จับแล้ว !  ผมส่งสารวัตรใหญ่ไปจับ” 
       ยังไม่ทันจบคำมีเสียงหัวเราะครืนใหญ่  หลายคู่จับกระแสคุยกันต่อแบบเม้าท์ทูเม้าส์ แล้วมณีก็เล่าต่อว่า

        สายรายงานผมว่า  ร้านกะเหรี่ยงป่าหยุดกิจการบ่อยๆ  แทบจะไม่เปิดเลย  และเนื้อสัตว์ป่าจำพวกเก้ง  กวาง  กระจงก็เงียบหายไป” มณีหยุดชั่วอึดใจ  ยั่วให้อยากรู้ ทุกคนนั่งฟังอย่างตั้งใจ

        แต่แล้วสายก็รายงานเพิ่มอีกว่า  สองสัปดาห์หลังสารวัตรใหญ่กลับจากการฝึกอบรมที่บางละมุง  ผู้กำกับใหญ่จากจังหวัดแพร่ชื่อเล่นว่าแอ๋วบุกข้ามจังหวัดไปที่   ร้านกะเหรี่ยงป่า 
        มือปราบตัวจริงมา มือปราบระดับสารวัตรใหญ่เผ่นออกจากร้านแทบไม่ทัน  วลีเผ็ดร้อนดังลั่นร้าน

        ฉันเป็นเมียสารวัตรใหญ่…………วันนี้จะมาปราบสารวัตรใหญ่ให้อยู่หมัดเสียที           อีคนไหนเข้ามาเกี่ยวข้อง ระวัง ! ฉันลูกพ่อเลี้ยง....เมืองแพร่เน้อ  ! จำไว้ !!”       

        สายรายงานต่อท้ายให้ผมฟังว่า

        หัวหน้าครับ  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ร้านกะเหรี่ยงป่าปิดป้ายขายกิจการ  สารวัตรใหญ่ถูกย้าย 24 ชม.กลับเมืองแพร่  

        "หมดคนรับซื้อเนื้อสัตว์ป่า เพื่อขายให้คนกินเนื้อสัตว์ป่า  ก็ไม่มีการล่า จริงไหม" 
         มณียิ้มกริ่มมองหน้าทุกคนแล้วลุกขึ้นไปมองทิวเขาเบื้องหน้าที่ทำการด้วยอารมณ์สดชื่น  พึมพำกับตัวเองเบาๆ

           “ขอบคุณครับพี่แอ๋ว" 
         พี่แอ๋วเมียสารวัตรใหญ่ ตำรวจใหญ่ผู้หลงไหลเนื้อสัตว์ป่าขาอ่อนๆ
 

Tags : Tiger line

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view