ตรุษจีน
เวียนมาบรรจบอีกครั้งกับวันขึ้นปีใหม่จีน ที่เรียกกันติดปากว่า วันตรุษจีน ปีนี้ตรงกับวันที่ 14 กพ.53 แต่โดยธรรมเนียมปฏิบัติ ถือกันว่าวันจ่ายคือวันที่ 12 กพ. และวันไหว้คือวันที่ 13 กพ. ส่วนวันที่เขียนในปฏิทิน 14 กพ. เป็นวันเที่ยว
พนักงานของห้างร้านที่มีเจ้าของเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ดีใจจะได้อั้งเปา(ซองแดง) พร้อมเงินก้นซอง มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังกำไรของปีนั้น ซึ่งในช่วงสามสี่ปีมานี้สถานการณ์บ้านเมืองหลังปฏิวัตรรัฐประหารได้สังหารเศรษฐกิจของพ่อค้าประชาชนจนแทบหมดเนื้อหมดตัว หุ้นตก เงินเก็บออมน้อยลง ยังจะมีอั้งเปาหรือไม่หนอ
ปีนี้แปลกที่วันตรุษจีนตรงกับวันวาเลนไทล์พอดี แต่ก็ยังสงสัยว่า จะยังมีความรักเหลือให้รักกันอยู่ไหม ในเมื่อบ้านเมืองของเราวันนี้มีสีหลายสี มีขบวนการแตกต่าง และมีความคิดซับซ้อนซ่อนเงื่อนจนไม่มีความมั่นใจในสภาวะการณ์เอาเสียเลย จะไว้ใจทางก็ไม่ได้ จะไว้ใจคน(ชั่ว) ก็ไม่ดี
ทั้งที่ ปีนี้ วันขึ้นปีใหม่จีนและวันแห่งความรักตรงกัน แล้วทำไม คนไทยไม่รักกัน คนใหญ่กว่าไม่เมตตาคนที่เล็กกว่า คนมีปืนอยู่ในมือยิงประชาชนได้ คุณมีหัวใจหรือเปล่า จะข่มเหงกันไปถึงไหนหรือ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเว็บทองไทยแลนด์ ไม่ได้สดุ้งสะเทือนอะไรกับปัญหาของบ้านเมือง ยังตั้งเป้าไว้อย่างแน่วแน่ จะหาข้อมูลมาเขียน และถ่ายรูปมาลงประกอบอย่างทรหด แม้ไม่มีผลกำไรใดๆเลยก็ตาม
งานอดิเรกของคนหลังเกษียนราชการแล้ว ได้แก้เหงาก็พอใจ
แต่ต้องขอขอบคุณ นักเขียนหน้าใหม่ๆที่ใจรักและตั้งใจยิ่ง ส่งเรื่องมาร่วมทั้งๆที่ไม่มีค่าเรื่อง ไม่มีรางวัล ซึ้งเลย
ขอขอบพระคุณ เอื้อยนางมือระดับรางวัล พรหมพร พานิชกิจ ที่ไม่ธรรมดา ขุนศึกหายหน้าไปเพราะว่างานยุ่ง อีกไม่นานคงมีเรื่องส่งมาร่วมด้วยช่วยกันอีก และหน้าใหม่ไฟแรงกับสารคดีเบาๆ แอน-ฉัตรธิดา ซึ่งน่าติดตามงานของเขาและเธอทุกคน
แต่ถ้าเห็นสีแดงๆในเรื่องราว โปรดเข้าใจ ชอบใครชอบมัน เข้าทำนอง ลางเนื้อชอบลางยา
ธงชัย เปาอินทร์
7 กพ.53