นกขมิ้นท้ายทอยดำ
Black-naped Oriole
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
เช้าวันหนึ่งกลางเดือนธันวาคม ผมไปรอรถตู้ที่ใต้ร่มนนทรีหน้าสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถนนพหลโยธิน ระหว่างยืนมองโน่นมองนี่ไปตามประสาชายชราก็เหลือบไปเห็นนกขมิ้นท้ายทอยดำ บินมาเกาะเฉียงๆ ผมคว้ากล้องถ่ายโดยไม่ได้ตั้งขาตั้งกล้อง ภาพที่ได้จึงคมชัดบ้าง ไม่คมชัดบ้าง แต่ก็สื่อให้เห็นได้ว่า เขาเป็นนกที่ไม่อยู่นิ่ง ชื่อเจ้านกขมิ้นท้ายทอยดำ ซึ่งถ่ายยาก
เขาเกาะบนกิ่งต้นนนทรี
เสียงร้องจำได้แม่น แหบดัง “แคร่”ๆ หรือ”แอ่”ๆๆ เป็นนกขนาดกลาง 24.5-27.5 ซม. ชอบอยู่เดี่ยวๆหรือบางทีมาเป็นคู่ เป็นนกขมิ้น 1 ใน 6 ชนิดที่พบในประเทศไทย โดยมีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณหรือป่าผลัดใบ สูงได้ถึง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตามสวนสาธารณะ สวนผลไม้ ชายป่า ในต่างประเทศพบในเอเชียตะวันออก อินเดีย จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นกขมิ้นท้ายทอยดำ
นกตัวผู้ ขนลำตัวสีเหลืองสดปากสีชมพูแกมส้ม ตาแดง แถบคาดตากว้างสีดำขยายใหญ่แล้วเชื่อมต่อกันที่ท้ายทอย ทำให้เห็นว่ากระหม่อมสีเหลืองสด ขนปีกและหางสีดำสลับเหลือง แข้งและตีนสีเทาแกมฟ้า
ตัวเมีย ขนหลังและปีกสีเหลืองอมเขียวไพร แข้งและตีนสีเทาแกมฟ้า
นกไม่เต็มวัย คล้ายนกตัวเมีย แถบตาไม่ชัดเจน ปากสีดำ แข้งและตีนสีเทาแกมฟ้าและมีขนสีดำลายจุดใต้อก
เป็นนกอพยพช่วงเดือนพฤศจิกายนหนีหนาวถึงเมษายน เมื่อเข้ามาจับคู่ ตัวเมียจะทำรังวางไข่รูปถ้วยก้นลึกตามง่ามไม้สูงราวๆ 8-10 เมตร รองก้นรังด้วยมอสร์ เฟิร์น ไลเคน ชอบทำรังหลบในพุ่มไม้ใบหนา เพื่อปกปิดไข่และลูกจากนกนักล่า ไข่ครั้งละ 2-4 ฟอง สีเขียวมีแต้มสีน้ำตาล ฟักไข่ 13-15 วัน ลูกนกจะบินจากรังเมื่อ 2 สัปดาห์ไปแล้ว
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535
มีชื่อสามัญว่า Black-naped Oriole มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Oriolus chinensis,Linnaeus,1766 อยู่ในวงศ์ ORIOLIDAE (วงศ์นกขมิ้น) เป็นนกที่มีขนสวยงามมากๆ ขนาดตัวก็คล้ายๆนกเอี้ยง นกขุนทอง แต่จะเป็นเจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน ในบทเพลงหรือเปล่าไม่รู้ ใครรู้ช่วยตอบที คุณพ่อ พยงค์ มุกดา คนแต่งก็ตายไปเสียก่อนที่ผมจะเขียนเรื่องนี้ เสียด้วยซิครับ
ค่ำคืน ฉันยืนอยู่เดียวดาย
เหลียวมองรอบกาย มิวายจะหวาดกลัว
มองนภามืดมัว สลัวเย็นย่ำ
ค่ำคืนเอ๋ย
ยามนภาคล้ำไปใกล้ค่ำ
ยินเสียงร่ำคำบอก เจ้าช่อดอกไม้เอ๋ย
เจ้าดอกขจร นกขมิ้นเหลืองอ่อน
ค่ำแล้วจะนอนไหนเอย เล่านกเอย
อกฉัน ทุกวันเฝ้าอาวรณ์
เหมือนคนพเนจร ฉันนอนไม่หลับเลย
หนาว พระพายพัดเชย
อกเอ๋ยหนาวสั่น สุดบั่นทอน
ยามนี้เราหลงทาง กลางค่ำ
ยินเสียงร่ำ คำบอก เจ้าช่อดอกไม้เอ๋ย
เจ้าดอกขจร
ฉันร่อนเร่พเนจร ไม่รู้จะนอนไหนเอย เอ๋ยโอ้หัวอกเอย
ฟังเพลงเก่าเพลงนี้คราใด ใจก็หวลทวนความไปถึงเมื่อครั้งที่ต้องเดินระเหระหนอยู่กลางป่าใหญ่ชายแดนแถวอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ค่ำนั้น ยังเดินไม่ถึงหมู่บ้านเป้าหมาย ลมหายใจร้อนผ่าว เหงื่อไหลโทรมกาย แข้งขาเมื่อยล้า เหนื่อยหนัก ท้องหิวข้าว ใจสั่นหวิวๆ ความคิดคำนึง จะต้องนอนกลางป่าไหม เหลียวไปทางไหน คืบก็ป่า ศอกก็ป่า เลือกเรียน "วนศาสตร์" ลำบากเหลือแสน