http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,023,565
Page Views16,333,148
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน 12 โดยสาวภูไท จากบ้านเชียงถึงคำชะโนด อุดรธานี(1)

ในคมขวาน 12 โดยสาวภูไท จากบ้านเชียงถึงคำชะโนด อุดรธานี(1)

ในคมขวาน ๑๒

โดย สาวภูไท

จากบ้านเชียง ถึง คำชะโนด อุดรธานี(๑)

              อุดรธานี ช่วงนี้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเพราะข่าวร้อน ๆ ทางการเมือง  ซึ่งเป็นเรื่องน่าหวาดหวั่นเช่นกันกับข่าวกทม.ถูกปิดโดย กปปส.  แต่จริง ๆ แล้วประตูกทม.ก็ยังไม่ปิดตาย  เช่นกับอุดรธานียังมีที่ให้ผ่อนพัก เป็นหลักยึดทางจิตใจอีกหลาย ๆ แห่ง

            เย็นวันที่ ๓๑ มกราคม ๕๗ ก่อนวันเลือกตั้ง ๒ วันจึงพาตัวแหวกออกจากดงควันของกทม.ขึ้นรถด่วนสายหนองคายมุ่งหน้าสู่อุดรธานี


            ตู้(นอน)โดยสารตู้นี้มีฝรั่งกับคนลาวชาวเวียงจันทน์เป็นส่วนใหญ่  คุยกันดังลั่นโฉงเฉง ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับชาวกทม.ที่กลัว ๆ อยาก ๆ ออกไปเลือกตั้ง  แต่ฟังๆ ดูๆ นักคุยเหล่านี้แล้วก็เพลินไปด้วย รู้สึกผ่อนคลายจากเหตุการณ์บ้านเมืองไทยช่วงนี้ไปเยอะ  เราเองต่างหากกระมังที่หมกมุ่นไหวเอนไปกับข่าวเน่า ๆ เรื่องเน่า ๆ จากเหตุการณ์เน่า ๆ เลยเป็นกบในกะลาเน่า ๆ   หากแง้มเปิดกะลาออกให้ได้พบโลกภายนอกบ้าง  ก็ได้พบว่าลมยังมีพัด  แดดยังมีส่องสว่างใส

            คิดได้ดังนั้นแล้วก็เลยหลับสบายในเตียงอันโยกไหวไปกับจังหวะการวิ่งของรถไฟ  แม้ไม่ใช่ความเร็วสูงแต่ก็ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย 


            เจ็ดโมงเช้ากว่า ๆ ของวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ก็จึงมาเอ้อระเหยอยู่ที่สถานีรถไฟ อุดรธานีที่มีหม้อไหลายเขียนสีบ้านเชียงตั้งเป็นกลุ่มสง่างามอยู่ท่ามกลางสวนหย่อมสีสันสดใสหน้าสถานี

             หม้อบ้านเชียงเป็นสัญลักษณ์ของอุดรธานี  เป็นหม้อที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก  เพราะแหล่งกำเนิดของมันได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้วเมื่อปี ๒๕๓๕  ในฐานเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีร่องรอยการอยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทิ้งหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามีอายุประมาณ ๕,๐๐๐ ปีมาแล้ว  และที่พิสูจน์ไม่ได้เพราะกลายเป็นดิน เป็นหญ้า เป็นอากาศไปแล้วนั้นก็อาจมีอายุพร้อม ๆ กับการมีมนุษย์ในโลกไปโน่นก็ได้ ใครจะไปรู้จริงไหมคะ


              หนุ่มอาร์ตรูปหล่อได้รับคำสั่งจากพี่เจิ้น และแม่น้อยให้ขับรถจากสกลนครมารับป้าถึงอุดรตอนแปดโมงกว่า ๆ เสร็จจากกาแฟอาหารเช้าพอดี  เธอพามุ่งหน้าสู่อำเภอหนองหาน สู่บ้านเชียงด้วยใบหน้ายิ้มละไมตามนิสัยปรกติ

               ถนนในอุดรธานีออกจะพลุกพล่าน เช่นกับเมืองใหญ่ทั้งหลายของสยามประเทศในปัจจุบัน (โชคดีที่ไม่มี กปปส.มาปิด) แต่ครั้นออกจากตัวเมืองสู่เส้นทางสายอุดร-สกลนครการจราจรก็เริ่มผ่อนคลาย  ผ่านอำเภอหนองหานถึงทางแยกสู่บ้านเชียงรถก็แล่นไปแบบสบาย ๆ นาน ๆ จะมีรถสวนรถแซงสักคันหนึ่ง 


               ดินแดนอีสานแถบถิ่นนี้เคยเป็นที่ตั้งเมืองโบราณในตำนานอุรังคนิทานของลาว(ตำนานพระธาตุพนม)ระบุว่าเป็นเมืองหนองหานน้อย(คู่กับหนองหานหลวงที่สกลนคร) สภาพโดยทั่วไปในวันนี้ยังมีความเขียวของต้นไม้ใหญ่ริมถนนและบนคันคูนา  แม้ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลัดใบแต่ไม้หลายชนิดก็ผลิดอกออกมาแต่งแต้มแซมให้ฟ้ามีหลากสี สะเดาดอกขาวโพนแข่งกับเหลืองนวลของดอกมะม่วง และพะยอม  หางนกยูงต้นใหญ่ออกดอกสีแดงบานแข่งดอกจาน  ฉำฉานั้นกำลังทิ้งใบให้กิ่งเตียนโล้นและมีมัดฟางผูกเลี้ยงครั่งแขวนไว้แทน

                ยังเช้าอยู่  บ้านเชียงยังสงบเงียบ  วันใกล้เลือกตั้ง(พรุ่งนี้วันที่ ๒ กุมภา วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย)ควรจะคึกคักไปด้วยเสียงโฆษณาประชาสัมพันธ์มากกว่านี้  แต่นี่เป็นช่วงสถานการณ์พิเศษของสังคมไทย  คงจะเป็นครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ชาติไทยสยาม(ขอภาวนาให้เป็นอย่างนั้น)ที่มีการคัดค้านการเลือกตั้งโดยอำนาจพิเศษของไทยสยามเองอย่างออกหน้าออกตา เอาเป็นเอาตาย ถึงขนาดคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดเหนือใครมีการอ้างว่าสิทธิการลงคะแนนว่าไม่ควรเท่าเทียมกันระหง่างชาวบ้านกับชาวเมือง ชาวกรุง เสียงปรามาสนั้นกระมังที่สยบให้ชาวบ้าน ชาวชนบททั้งหลายนิ่งสงบในตอนนี้  เพื่อที่จะแสดงพลังให้เห็นในตอนเข้าคูหาพรุ่งนี้ 


                ทุกอย่างวันนี้จึงสงบนิ่ง  เช่นกับบ้านเชียงที่สงบเย็นเช่นเดิม  โครงกระดูกในตู้ ในไห และหม้อเขียนสียังนอนนิ่งรอผู้มาเยือนมาชม มาศึกษา เพื่อจะบอกให้รู้ว่าทุกสิ่งในโลกล้วนต้องคืนสู่ผืนดิน  แก่งแย่งกันไปทำไม  ไม่ต้องเข่นฆ่าถึงเวลาก็ต้องดับสูญไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว

                กระดูกในตู้บางชิ้นกับหม้อใบสวยลวดลายเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่เคียงข้างอาจเคยเป็นของผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรของเขา  หรือเป็นผู้เป็นที่รักของคนทั้งอาณาจักรหม้อไหใบน้อยลายพร้อยด้วยการเขียนสี ขูดลวดลายสัญลักษณ์จอมขวัญ มิ่งชีวิตพร้อมเครื่องประดับคงเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดรักสุดหวงสุดชีวิตของเจ้าของ  จึงถูกฝังไว้รวมกันเคียงข้าง ให้นำไปด้วยในอีกภพอีกแดน แต่สุดท้ายก็จมลึกลงใต้ดินต่ำลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งอยู่ลึกยิ่งบอกเวลายาวนานออกไปเป็นยุค ๆ


                ก่อนนั้นไม่มีใครในบ้ายเชียงจะไปคิดว่าหม้อไหแตก ๆ บิ่น ๆ อันมีอยู่มากมายใต้ผืนดิน  ไม่ว่าจะขุด ไถ จกดินตรงไหนก็พบเจอแต่วันก่อนนั้น วันหนึ่งมันจะกลายเป็นสิ่งล้ำค่า เป็นที่ต้องการของผู้คน  และเป็นมรดกให้ลูกหลานบ้านเชียงได้ทำการผลิตซ้ำขึ้นมากอบโกยเงินทอง สร้างฐานะ ส่งเสริมลูกหลานจนออกสู่สากล  จนทุกวันนี้หลายครอบครัวมีกิจการขยายออกไปทั้งในและนอกประเทศ  ลูกหลานบ้านเชียงบินข้ามเมืองหลวงสู่สากล  เช่นกับชาวอีสานส่วนใหญ่ที่กลายเป็นคนสองสัญชาติ  ไทย-ยุโรป อเมริกัน หรือออสเตรเลีย  ชนิดที่ชนชั้นสูงในกรุงผู้ดูถูกชาวชนบทก็คงคาดไม่ถึง  และยังงมโข่งหาเสื้อผ้า ปลากระป๋องและเครื่องห่มกันหนาวใส่ถุงมาทำบุญเพื่อถ่ายรูปกันอยู่ 

                 บ้านโฮมสเตย์ใกล้พิพิธภัณฑ์ที่เคยมาพักเมื่อตุลาที่แล้วยังคงปิดอยู่ จึงไม่ได้แวะทักทาย  แม้ยังระลึกถึงคุณยายผู้อารีผู้นั้นอยู่  คุณยายเป็นผู้หนึ่งที่ขุดเจอโครงกระดูกและหม้อไหมากมายในสวน และแม้แต่ใต้ถุนบ้านหลังเก่าที่อยู่บนเนินดินใกล้วัด

                 “เจอแล้วเราก็กลบฝังไว้ดังเดิม  ไม่อยากรบกวน  ให้เขานอนอยู่ที่เก่านั่นแหละหลายคนในหมู่บ้านก็ทำอย่างนั้น   เพราะหากขุดขึ้นมาช่วงนั้น(คุณยายหมายถึงช่วงที่มีการแตกตื่นจากคนภายนอกเข้ามาซอกค้นหาหม้อลายเขียนสี)  เจ้านายเขาจะเอาไปหมด  ชาวบ้านขุดมาขายว่าผิด  แต่เจ้านายไทยไกล ๆ มาเอาไปไม่ผิด”  

                  คิดถึงคำพูดของคุณยายแล้วก็เลยให้อาร์ตขับรถผ่านมุ่งหน้าสู่อำเภอบ้านดุงที่ตั้ง ดงศักดิ์สิทธิ์คำชะโนดต่อไป.

                  ลาก่อนนะบ้านเชียง

Tags : ในคมขวาน 11

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view