http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,995,589
Page Views16,303,938
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน 14 โดย สาวภูไท

ในคมขวาน 14 โดย สาวภูไท

ในคมขวาน ๑๔

โดย สาวภูไท

เอ็นอ้า  กับ  เอื้องหมาย(ปลาย)นา

...

        อยากกลับไปเป็นชาวนา

        ไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องโครงการจำนำข้าวที่อีรุงตุงนังนั่นหรอก 

       แต่เป็นเพราะมนต์เสน่ห์แห่งผืนนา  กลิ่นอายดินยามถูกฝนแรกซะซัดหอมกรุ่นละไม กลิ่นใบกล้า ดอกข้าว กลิ่นปลาย่างและข้าวหลามยามลมหนาวพัดพา  เหล่านี้ต่างหากที่พิมพ์ภาพประทับรอยลึกล้ำในห้วงแห่งวิญญาณ และซุกซ่อนเก็บงำไว้เนิ่นนานตลอดมา

       คิดถึงท้องนา  คิดถึงดอกเอ็นอ้าที่บานแย้มแข่งกับเอื้องหมายนาอยู่กึ่ง ๆ ระหว่างผืนนากับป่าโคก  


        ก็เชื้อสายลายล่องของผองเราเป็นนักบุกเบิกไร่นาสาโทมาแต่ปู่สังกะสาย่าสังกะสี ปลูกพืชผัก ฟัก แฟง แตง ถั่ว ข้าว งา สารพัด  เลี้ยงลูกหลานเหลนผ่านรุ่นสู่รุ่น  ครั้นมาถึงตัวเรานี้หรอก ที่ทำตัวห่างเหินเมินหน้าจากผืนแผ่นดิน  ไปรับราชการงานหลวงแถว ๆ ปลาย ๆ ศักดินา  แล้วเลยแกล้งทำลืม  ทั้ง ๆ ที่กรุ่นกลิ่นแห่งอายดินแลหญ้าฟางไม่เคยจางหายไปจากส่วนลึกที่ถูกซุกซ่อนเก็บงำดั่งว่า


       ก็ระบบการศึกษา  วาทกรรมเพื่อการครอบครองสร้างความเป็นปึกแผ่นในแดนดินแห่งสยามประเทศ   มักกระหน่ำตอกย้ำให้รับรู้เสมอมาว่าอีสานบ้านเราอันเป็นส่วนในคมขวานของรูปแผนที่นั้นช่างต่ำต้อย  ด้อยอารยะ  ไม่ว่าจะเป็นผืนแผ่นดิน ผู้คน สังคม สภาพแวดล้อม

       เวลาล่วงไป วัยล่วงผ่าน  ได้มีโอกาสออกจากบ้านตามล่าหาความฝันตามประสาตามธรรมดานักสู้ชาวอีสานทั่วไป  มีโอกาสได้ไปอยู่ออสเตรเลีย ๔ ปี  อยู่กรุงเทพฯก็ ๗ ปีเข้านี่แล้ว  เทียวขึ้นล่องกรุงเทพฯ-กระบี่-อีสานทุกครึ่งเดือน  จากอันดามันสู่ลุ่มเจ้าพระยาขึ้นมาโขง ชี มูล  ทำให้สายตาที่ทอดมองรอบตัวเปลี่ยนไป ก็ผืนดินไหนเล่าจะไม่แห้งแล้งถ้ามันเป็นหน้าแล้ง   แม้ริมฝั่งทะเลก็ยังขาดแคลนน้ำถ้าไม่มีระบบการจัดการที่ดี  น้ำใสๆ ไหลจากภู จากดอยทางเหนือ ก็ยังเลาะเลื้อยลงมามารวมกันเน่าเหม็นน่ารังเกียจในกรุง(แห่ง)เทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ได้

นี่นา


       น้ำใส ๆ ใบไม้เขียว ๆ ในแถบเมืองอุบล-วารินถิ่นน้ำแซบปลายทางแห่งน้ำมูลที่คุ้นเคยก็จึงผุดพรายขึ้นมาเรียกร้องให้โหยหา

       นั่นแหละคือสาเหตุให้  อยากไปเป็นชาวนา  

       เป็นชาวนาอีสานตามวิถีดั้งเดิมที่หัวไร่ปลายนา ปล่อยให้ผองเพื่อนพืชผักอื่น ๆ มีที่ยืน นั่ง นอน หรือ เลื้อยพันชูใบผลิดอกออกผลอยู่ได้  ใกล้เคียงกัน  อาศัยซึ่งกันและกัน สร้างสีสันงดงามให้ผืนนาป่าข้าว


       ความคิดนี้แพร่ออกไปสู่คนใกล้ชิด เพื่อนเกลอ  ลูกหลาน น้องนุ่ง เพื่อหาแนวร่วม  แต่บางคนฟังแล้วยิ้ม ๆ แล้วเฉย ๆ บางคนประกาศออกมาเลยว่า...ไม่!!   มีคนที่เห็นด้วยเออออห่อหมกคือลูกสาวนักวิชาการเกษตร  แต่กลับเป็นคนที่ตั้งรกรากอยู่กระบี่ห่างไกลเมืองารินถิ่นน้ำแซบเป็นพันกิโลเมตรอีกแน่ะ  จับพลัดจับผลูก็เลยได้แนวร่วมเป็นเพื่อนรักมาแต่สมัยเป็นนักเรียนโน่น  คือคุณอรพิน  กับสามีสุดที่รักของเธอ  พ่อใหญ่บุญเพ็ง สองตายายผู้โหยหากระอายดินกลิ่นฟางเช่นกัน

       “ลูกเราก็ไม่เห็นด้วย  แต่เราไม่แคร์  ทำนาสมัยนี้ไม่ต้องหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ฝนอีกแล้ว  สั่งทางมือถือก็ได้”

       “เราอยากทำแบบผสมผสานนะ ปลูกพืชทุกชนิดเลย”

       “ดี ดี ดี คิดเหมือนกันเลย”

       “งั้นต้องไปหาที่เหมาะ ๆ แล้วหละ ต้องมีส่วนที่เป็นเนินสูงเทลาดลงสู่ลำห้วยจะได้ทำนาและสวนผสมผสาน”


       พื้นที่แถบอุบลราชธานีเป็นขอบคมขวานที่มีแนวเทือกพนมดงรักทางทิศใต้ เทือกภูพานทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ธารน้ำที่เกิดจากทั้งสองเทือกเขาจะไหลลงรวมตรงแอ่งกลาง  เป็นแม่มูลไหลผ่ากลางแถบที่ตั้งตัวจังหวัด ภูมิประเทศทั่วไปจึงเป็นลอนลูกคลื่นสูง ๆ ต่ำ ๆ เราจึงหาที่แบบเป็นเนินสูงแล้วเทลาดลงสู่ลำห้วยได้ไม่ยากนัก  แต่เงื่อนไขด้านราคาสำหรับเราก็ซื้อได้ไม่ง่ายเช่นกัน   วันว่างของสองยายบวกพ่อใหญ่เพ็งก็นัดกันออกตระเวนตั้งแต่ลุ่มน้ำลำโดมใหญ่ โดมน้อย ตลอดปากแม่น้ำมูลอันบรรจบกับแม่น้ำโขง  เราจึงได้เห็นว่าป่าโปร่ง ๆ โคกสูง ๆ  แบบเบญจพรรณที่ไม่มีใครมองมาก่อนกลายเป็นป่ายางพาราไปแทบหมดแล้ว  และส่วนมากมักมีเจ้าของเป็นคนต่างถิ่น  ต่างแดน  ไม่ใช่เขยฝรั่งที่มีเมียอีสานหัวใส  ก็มักเป็นชาวใต้จากสงขลา ปัตตานี กระบี่ สตูล และอื่น ๆ


       เรามัวหลับใหลนานไปกระมังนี่ ราคาที่ดินมันพุ่งกระฉูดชนิดนึกไม่ถึง  จากที่กะกันไว้ว่าจะเอาคนละสามสิบถึงห้าสิบไร่ก็จึงลดปริมาณลงเรื่อย ๆ ในที่สุดแม้แปลงที่เนื้อที่เพียงห้าสิบกว่าไร่เราก็ต้องไปโน้มน้าวหาหุ้นส่วน  เรียกร้อง แกมบังคับให้น้องนุ่งลูกหลานมาหารมาแบ่ง  ได้คนละห้าไร่ สิบไร่ ตามกำลัง

       กว่าจะได้เป็นชาวนามันไม่ง่ายเลยหนอ

       ที่แปลงนี้อยู่ในเขตอำเภอสว่างวีระวงศ์  ห่างจากบ้านเมืองวารินยี่สิบกว่ากิโลเมตร  มีส่วนที่เป็นโคกสูงแล้วลาดเทลงสู่ธารน้ำเล็ก ๆ ดั่งที่เสาะหากันกว่าปีมาแล้ว  ริมลำธารนั้นมีร่องรอยแปลงนาและบ่อน้ำ  ส่วนที่เป็นเนินสูงมีร่องรอยการปลูกมะม่วงหิมพานต์อยู่บ้าง  ที่ชอบใจอย่างยิ่งคือยังมีไม้ต้นโบราณ ๆ หลายชนิดให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นพะยอม กระบก  ซาด(เหียง)  น้ำเกลี้ยง(รักหลวง)  มะเค็งใหญ่(ลูกหยี) มีไม้เถาประเภทมันนก  มันน้ำ เกี่ยวพันประกาศความเป็นเพื่อนมิตรอย่างออกหน้าออกตาเชียว บริเวณที่เป็นคำ(น้ำซับ)นั้นมีทั้งผักกูด  และเถาหม้อข้าวหม้อแกงลิงชิงกันยื่นยอดเขียวสอดส่ายหาแสงตะวัน


       ไม้ใหญ่บางต้นเหลือแต่ตอ  เร่งเร้าให้สองคู่หูรีบจัดการเพื่อจะคงลูกหลานมันไว้ในผืนดิน

       “เสียดายเราอยู่ไกล จะทิ้งงานก็เสียดายอีก”

       “ไม่เป็นไรว่างวันไหนก็มา  พ่อใหญ่เพ็งจัดการอยู่แล้วหละ”

       สองยายคู่หูเออออห่อหมก  อรพินนั้นเธอเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต้องเดินทางบ่อย ๆ ส่วนตัวเราก็มาซุกอยู่กับพี่สุภา(โบตั๋น) คนว่างจริง ๆ จึงมีเพียงพ่อใหญ่เพ็ง(อดีตศึกษานิเทศก์เขต๒อุบลราชธานี) พ่อใหญ่จึงกลายเป็นผู้จัดการฟาร์มไปแบบหนีไม่พ้น

แล้วชาวนาอย่างเราก็คอยฟังเสียงโทรศัพท์  ...

       “จะล้อมรั้วแล้วหนา  จะขุดบ่อไหม  ตรงเนินสูงปลูกยางพารานะ  ด้านล่างริมห้วยทำแปลงนาสักสองแปลงนะ  ติดต่อรถไถไว้แล้วทำพร้อมกันเลยเขาจะได้ไม่เสียเวลา...”

       “ โอนเงินมา...”


       “โอเคค่ะ  แต่ว่าบอกคนไถเขาระวัง ๆ หน่อยก็แล้วกัน  ตรงชายป่าที่มีต้นดอกเอนอ้า กับเอื้องหมายนา และเถาหม้อข้าวหม้อแกงลิงนั้นไม่ต้องไถออก  ปล่อยให้เป็นดงอยู่ของมันอย่างนั้นแหละ  เอออีกอย่างนะถ้าเขาใส่ปุ๋ยยางพารา คราวต่อไปให้ใส่ตรงโคนต้นซาดให้ด้วย”

       “บอกให้แล้ว  แต่พ่อใหญ่เพ็งแกว่าบ้า...  แกอายคนงาน  มันพากันหัวเราะ  หวงอะไรไม่หวงมาหวงเอื้องหมายนา กับต้นเอนอ้า  ยิ่งใส่ปุ๋ยต้นชาดนั้นแกต้องแอบใส่ไม่ให้พวกเขาเห็นเลยหละ” เพื่อนกระซิบดัง ๆ แล้วหัว

       

       ก็ยอมรับอย่างหน้าชื่นละ และขอบคุณพ่อใหญ่เพ็งที่ได้รับตำแหน่งผู้จัดการฟาร์มไปเรียบร้อย(แต่ไม่มีเงินเดือนหรอกนะ)  เพราะเวลาใดที่ได้ไปเยือนสวนแห่งนี้  ได้พบว่าต้นยางพารานั้นยืดตัวสูงเสียดขึ้นทุกวันน่าปลื้มใจ  แต่ยังไม่วายมองหาดอกเอนอ้า  และเอื้องหมายนา  เห็นสีม่วงบานไสวของเอนอ้า  กับแดงส้มสดใส และขาวกระจ่างบานวิบไหวส่ายกลีบน้อย ๆ ของเอื้องหมายนาก็ยิ้มสุขใจทุกที

 

เอนอ้า

        ไม้พุ่มสูง๑-๒เมตรกิ่งก้านสีแดงเข้ม มีขนปกคลุมก้านและใบ ออกดอกเป็นช่อ  ดอกสีม่วง และสีขาว  ออกดอกตลอดปี  ผลสุกแล้วแตกอ้า เมล็ดสีม่วงกินได้ มีรสหวาน  คนโบราณใช้หลายส่วนของเอนอ้าทำยาหลายขนาน 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Osbeckia  stellata Ham.

 

เอื้องหมายนา

        พืชล้มลุกอายุหลายปี ชอบขึ้นในที่ชื้น มีเหง้าใต้ดินเมื่อมีการบุกเบิกป่าเพื่อทำนาเหง้านี้จะยังอยู่ตามขอบคันนา และชายป่า จึงเป็นที่มาของชื่อ “เอื้องหมายนา”  หรือ“เอื้องปลายนา”

            เอื้องหมายนามีหลายชนิดเช่น ชนิดดอกแดง ม่วง ขาว เหลือง ปัจจุบันมีการขยายพันธุ์ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป คนโบราณใช้หลายส่วนของเอื้องหมายนาเป็นยาหลายขนาน  ผู้เขียนเคยนำหน่อ(ชนิดดอกขาว)มาต้มเป็นผักกินกับน้ำพริก

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Costus speciosus.

๐๐๐

             

            

Tags : นกขมิ้นท้ายทอยดำ

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view