นิตยสารบิซิเนสอินไซค์เดอร์

นิตยสาร บิซิเนสอินไซค์เดอร์ เล่าเรื่องประเทศไทย ในคอลัมภ์ Global Post

หนึ่งเดือนผ่านไป หลังจากที่กองทัพไทยได้ยึดประเทศ และทหารไทยได้ให้คำแนะนำได้ค่อนข้างชัดเจน: จงสรรเสริญเรา หรือไม่ก็ หุบปากให้สนิท

การแสดงความไม่เห็นด้วยกับทหาร จะต้องโทษกักกันในค่ายทหาร บรรดาผู้ที่ได้ประณามการทำรัฐประหารในที่สาธารณะ ถูกเรียกตัวไปที่ค่ายทหาร "เพื่อปรับทัศนคติ."

กองทัพได้แนะนำให้ประชาชนควรจะรู้สึกว่า "มีความสุข" ที่ทหารไทยทำการรัฐประหาร บรรดานายพลไทย หวังว่าคนไทยจะมีความสุข ที่พวกเขาให้ฉายฟุตบอลโลกฟรี และจัดคอนเสริต์พร้อมอาหารฟรี แถมด้วย สาวนักเต้นในชุดลายพราง

ในขณะเดียวกัน ตำรวจไทยก็กระตุ้นประชาชน ให้แจ้งเบาะแส เพื่อนใน FB ที่แสดงความรู้สึกต่อต้านรัฐประหาร หากเจอภาพบน Facebook หรือ Instagram ที่ใครวิพากษ์วิจารณ์การทำรัฐประหารหรือไม่ ตำรวจจะมอบรางวัลให้ $ 15 (500 บาท) หากผู้นั้นถูกตัดสินว่ากระทำความผิด

คนไทย จำนวนมากรู้ว่า หากพูดว่ารัฐประหารเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จะเป็นอันตราย ดังนั้นพวกเขาได้แต่สงบปากสงบคำ และพยายามหาแทคติดในการประท้วง เพื่อแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร

แต่ตอนนี้ ก็ยากเย็นยิ่งเพราะ ทหารและตำรวจของไทยเต็มใจที่จะลากผู้แสดงสัญญลักษณ์ประท้วงแม้จะเล็กน้อยเพียงใด ก็จะโดนลากตัวออกมาอย่างไร้เหตุผล เช่น:

1. การสวมเสื้อที่ไม่ถูกต้อง
เสื้อยืดที่มีสัญญลักษณ์ต่อต้าน แม้จะในทางสงบ เช่นถือเสื้อที่มีคำว่า ได้โปรดมีสันติภาพ, ที่ชาวเบลเยี่ยม ที่ถือเสื้อตัวนี้ถูกทหารลากตัวไปคุมขัง ล่าสุด ก็หญิงไทย อายุราว 50 ถูกจับกุมที่วัด เพียงเพราะใส่เสื้อที่มีคำว่า "เคารพในคะแนนเสียงของฉัน"

2. การกินแซนด์วิชในที่สาธารณะ
ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่นักเรียนเรียกร้องประชาธิปไตย ได้เดินแจกแซนวิชฟรี และนั่งกินแซนด์วิชอย่างเงียบสงบ เพื่อแสดงการประท้วง อืม รัฐบาลในโลกนี้ไม่น่าจะจับกุมคน เพราะกินแซนด์วิช ใช่ไหมเนี่ย

ผิด!!! เพราะแซนด์วิช เป็นถูกประกาศให้เป็นสิ่งผิดกฏหมายในประเทศไทย หากกินในที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน หน้าห้างสรรพสินค้ากลางกรุงเทพฯ คนไทยวัยหนุ่มปรากฏตัวขึ้นในบ่ายวันนั้น เขาดึงออกมาแซนวิชด้วยมือที่สั่น และเคี้ยวมันอย่างเงียบ ๆ

ทันใดนั้น เขาถูกล้อมกรอบทันทีโดยเจ้าหน้าที่และลากตัวออกไปพร้อมกับเพื่อน ๆ อีกหกคน BBC รายงานว่า คนเหล่านี้ ถูกกักตัวไว้ และความผิดของพวกเขา คือ มีแซนด์วิชไว้ครอบครองโดยมีเจตนาที่ไม่ดี สื่อไทยได้พาดหัวข่าว เตือนว่า การกินแซนวิชในที่สาธารณะเพื่อต่อต้าน
การทำรัฐประหารคือการกระทำผิดทางอาญา

3. การอ่านหนังสือ "1984" ในที่สาธารณะ
หนุ่มแซนวิช คนนั้น ก็ยังอ่าน 1984 ผลงานชิ้นเอกของจอร์จ ออร์เวล ที่เกี่ยวกับประชาชนที่พยายามจะต่อต้านรัฐเผด็จการในสังคมสมมุติ ก่อนหน้านี้ในมีคนไทยมารวมตัวกันบนทางเท้า อ่านหนังสืออย่างสงบได้หายตัวไป โดยเจ้าหน้าที่ไทย ประกาศว่าการอ่านหนังสือของประชาชนในอนาคต อาจนำไปสู่การจับกุมเพิ่มเติม

4. ชูสามนิ้ว แบบหนัง "Hunger Games"
ในหนัง "Hunger Games" นิยายวิทยาศาสตร์อนาคต อันเป็นเรื่องของระบอบการปกครองเผด็จการที่โหดร้าย การชูสามนิ้ว เพื่อที่จะส่งสัญญาณการต่อต้านของพวกเขา ต่อมาคนไทย ได้นำสัญญลักษณ์นี้มาใช้ในการต่อต้านการทำรัฐประหาร รูปแบบของการประท้วงนี้ มีข้อได้เปรียบทางยุทธวิธี: คุณไม่จำเป็นต้องพกอะไร เพียงแค่ชู 3 นิ้วเท่าน

แต่สำหรับประเทศไทย ตำรวจนอกเครื่องแบบ ก็กระโดดเข้ารุมตะครุบตัวคุณ เหมือนเป็นอาชญากรฆ่าคนตายอยู่ดี

มีการจับกุมในข้อหาต่อต้านรัฐประหาร อย่างน้อย 500-700 คนแล้ว ตามประมาณการที่ได้รับจากองค์กรทนายความไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน

"ในหลาย ๆ กรณี เจ้าหน้าที่เอาถุงพลาสติกสีดคลุมหัว เพื่อที่พวกเขาจะไม่ทราบว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน

เยาวลักษณ์ อนุพันธ์ ทนายความกล่าวว่า ทหารมักจะปฏิเสธที่จะเปิดเผยสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวไป ซึ่งสร้างความห่วงใยให้แก่ญาติพี่น้อง แต่ส่วนใหญ่เป็นอิสระหลังหลังจากถูกคุมขังอยู่ราว 7 วัน ที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า เพื่อการปรับทัศนคติ เธอกล่าว

แทนที่จะค่อยๆ ผ่อนคลายกฎอัยการศึก ทหารไทย กลับมีความกระตือรือร้นในการข่มขู่ กดขี่ผู้คน แม้เพียงจะแสดงออกถึงสัญญลักษณ์เพียงเล็กน้อย

นายพลไทย ยืนยันหนักแน่น ว่า การปกครองแบบกำปั้นเหล็ก มีความจำเป็นในสังคม การ "คืนความสุขให้กับผู้คน" กลายเป็นแค่สโลแกนของทหารไทย

ตัวแทนของทหาร Werachon Sukhondhapatipak เรียกร้องให้ผู้สื่อข่าวหยุดเรียกการกระทำของพวกเขา ว่า เป็นการยึดอำนาจ "รัฐประหาร." ทหารไทยชอบคำว่า "การแทรกแซงทางทหาร." ที่กักขัง กักบริเวณ ผู้คนที่โดนจับ ควรได้รับการเรียกว่า "ที่พักในค่ายทหาร" เขากล่าว

แม้แต่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เป็น เบ๊ ให้กับกองทัพ ก็ยังยอมรับว่ากลยุทธ์ที่รุนแรงของกองทัพ "จะทำให้ความไม่พอใจทหารคุกรุ่นต่อไปในสังคม"

"ประเทศไทยเป็นเหมือนคนป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่กฎอัยการศึกเป็นยาที่มีประสิทธิภาพมาก
"นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ หนึ่งในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนารกล่าวว่า "แต่ในฐานะที่เป็นแพทย์มื ผมรู้ว่ายาที่แรงมากเกินไปสามารถฆ่าผู้ป่วย."

Thailand's Military Rulers Criminalize These 4 Harmless Acts

Thailand's military rulers have now made these four harmless things...

BUSINESSINSIDER.COM