ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้นที่8. ทานตะวัน
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ บัวทอง ชอนตะวัน Sunflower
ชื่อวิทยาศาสตร์ Helianthus annuus L.
ชื่อวงศ์ ASTERACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในตางประเทศ พบที่ในทวีปอเมริกาเหนือ กระจายพันธุ์ทั่วไปในเอเชียตะวันออกกลาง เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ ในประเทศไทย นำเข้ามาปลูกเชิงพาณิชย์ เพื่อการเก็บเมล็ดพันธุ์ เกิดการผสมข้ามสายพันธุ์ทำให้มีทั้งต้นเตี้ยและต้นสูง ดอกใหญ่และดอกเล็ก กลีบดอกขนาดแตกต่างและสีแตกต่างตามสายพันธุ์
ลักษณะประจำพันธ์
เป็นไม้ล้มลุก อายุสั้น 1 ปี สูง 1-4 เมตร
ลำต้น ลำต้นเดี่ยวหรือแตกกอ ทุกส่วนมีขนสากสีขาว ตั้งตรง แข็งแรง มีขนสากแข็ง
ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปไข่กว้าง ปลายแหลม โคนป้านหรือเว้า ขอบจักฟันเลื่อย ใบสีเขียวอ่อน มีขนสากมือทั่วไป ก้านใบยาว มีขน เส้นแขนงใบ ออกตรงข้ามและเยื้องปลายเส้นจดเส้นถัดไปไม่จดขอบใบ เส้นใบย่อยเป็นร่างแห
ดอก ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามปลายยอด มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ขนาด 3-30 ซม.หรือมากกว่านี้ ก้านดอกยาว กลีบดอกวงนอกรูปรี สีเหลือง ส้ม ส้มอมแดง หรือสองสีในดอกเดียวกัน กลีบดอกวงในเป็นหลอด สีม่วงน้ำตาล
ผล สีขาว สีออกเหลืองหรือดำ ยาว 6-17 ซม. เมื่อดอกแก่จะติดเมล็ด ดอกวงในเรียกว่าจานเมล็ด เมล็ด ขนาดใหญ่ 25-60 เมล็ด/กรัม สีดำ สีน้ำตาลเข้ม สีแดงอมน้ำตาล และขนาดเมล็ดล้วนขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ผสมจนแตกต่าง
การขยายพันธุ์ เมล็ดขนาดใหญ่ สะดวกในการเพาะกล้าจากเมล็ด โดยหยอดเมล็ดในหลุมลึก 5-6 ซม. หลุมละ 2-3 เมล็ด กลบเมล็ดบาง ๆ รดน้ำทันที พอประมาณ เมล็ดงอกภายใน 3-5 วัน เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 1-2 คู่ ย้ายปลูกหลุมละต้น ช่วงเวลาตั้งแต่ปลูกจนถึงออกดอก 60-70 วัน
พื้นที่ที่เหมาะสม แสงแดดจัด ที่โล่งกลางแจ้ง ดินร่วนปนทราย ทนต่อสภาพอากาศที่มีหมอกควันได้ดี ปริมาณน้ำปานกลาง อุณหภูมิระหว่าง 25-35 องศาเซลเซียส ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 50-350 ม.โดยประมาณ
การใช้ประโยชน์
1.ปลูกเป็นไม้ประดับ ปลูกประดับเป็นแปลง หรือ กลุ่ม
2.ปลูกเป็นพืชอาหาร เพื่อนำเมล็ดมาคั่วรับประทาน รสชาติหอมมัน มีคุณค่าทางอาหารสูง และใช้ในอุตสาหกรรม เช่น สกัดน้ำมัน เพื่อใช้ฟอกหนังและประกอบอาหาร กากที่เหลือนำมาเป็นอาหารสัตว์ ทำปุ๋ย เป็นต้น ในน้ำมันทานตะวันมีสารอาหาร เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินดี และวิตามินอี โดยเฉพาะวิตามินอี เป็นวิตามินที่มีความสำคัญโดดเด่นที่สุดในน้ำมันทานตะวัน มีคุณสมบัติช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของผิวหนังสำหรับผู้สูงอายุ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคต้อกระจก ชะลออาการโรคสมองเสื่อม ลดไขมันในเส้นเลือดทำให้เส้นเลือดในสมองไม่ตีบตัน และป้องกันโรคหัวใจ น้ำมันทานตะวันเหมาะสำหรับปรุงอาหารหลายชนิด เช่น ทอด ผัด อันจะทำให้รสชาติของอาหารนั้นอร่อยเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการทำน้ำสลัด อีกด้วย ดอกอ่อนที่เพิ่งบาน ใช้ทั้งกลีบดอกและเมล็ดอ่อน เป็นผักลวกจิ้มได้ เมล็ดทานตะวันพัฒนาเป็นพืชอาหารได้ดี
3.ปลูกเป็นพืชสมุนไพร มีสรรพคุณดังนี้
แกนต้น ขับปัสสาวะ แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ นิ่วในไต ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขุ่นขาว ไอกรน แผลมีเลือดออก
ราก แก้ปวดท้องแน่นหน้าอกฟกช้ำ เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ ขับพยาธิไส้เดือน
ใบ แก้โรคหืด เบาหวาน
ดอก ขับลม ทำให้ตาสว่าง แก้วิงเวียน หน้าบวม บีบมดลูก แก้หลอดลมอักเสบ
ฐานรองดอก แก้อาการปวดหัว ตาลาย ปวดฟัน ปวดท้องโรคกระเพาะ ปวดประจำเดือน และฝีบวม
เมล็ด ขับปัสสาวะ เสมหะ แก้ไอ บิด ขับหนองใน ฝีฝักบัว แก้ไข้หวัด ลดไขมันในเส้นเลือด แก้พิษแมลงป่องต่อย
เปลือกเมล็ด แก้อาการหูอื้อ
สารเคมีที่พบ เช่น กรดหลายชนิด aconitic, amyrin, ascorbic, citric, นอกจากนี้ยังมี avenasterol fixed oil และ ยาง
ดอกสีเหลืองคล้ายกินผักสด อนุมูลอิสระ สามารถป้องกันมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
บันทึกผู้ถ่ายและผู้เขียน
ดอกทานตะวันบานที่ลพบุรี สระบุรี จนโด่งดังไปทั่วโลก กลายเป็นปลูกทุ่งทานตะวันแล้วส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยว เกิดร้านอาหาร เกิดรีสอร์ท เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป ชาวบ้านได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว
แต่ผลพวงจริงๆของต้นทานตะวันคือเมล็ดทานตะวัน เก็บมาคั่วขายสุก ส่งขายตรงแก่บริษัทที่รับซื้อ มีตลาดแน่นอน มั่นคง ปัจจุบันนี้กลายเป็นวัตถุดิบทางการเกษตรเพิื่อปรุงเป็นของขบเคี้ยว