ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้น 24.เก็กฮวย
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ เบญจมาศหนู ดอกขี้ไก่ เบญจมาศ Edible Chrysanthemum, Florist Chrysanthemum
ชื่อวิทยาศาสตร์ Chrysanthemum morifolium Ramat.
ชื่อวงศ์ ASTERACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบในประเทศจีน, ญี่ปุ่น
ในประเทศไทย พบนำเข้ามาปลูกเป็นไม้ประดับแปลงและเก็บดอกทำน้ำเก๊กฮวยในภาคเหนือของประเทศไทย
ลักษณะประจำพันธุ์
ต้น ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 30-
ใบ ใบเดี่ยว เวียนสลับ ใบรูปไข่ขนาดแตกต่างกัน ขอบใบจักเป็นแฉกคล้ายขนนก ขอบแฉกจักเป็นฟันเลื่อย โคนใบสอบแคบ ท้องใบมีจนสีขาวสั้นนุ่ม หลังใบเกลี้ยง ก้านใบยาว 1-
ดอก ออกเป็นกระจุก ตามซอกใบ ขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน บานเต็มที่ 2-
ผล แห้ง เป็นสัน เกลี้ยง เมล็ด ขนาดเล็กมาก
การขยายพันธุ์และสภาพที่เหมาะสม เมล็ดขนาดเล็กมาก จึงนิยมเพาะกล้าขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ หรือแยกหน่อ ชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี ระดับความเป็นกรดด่างปานกลาง อุณหภูมิระหว่าง 12-35 องศาเซลเซียส ที่ราบถึงสูง 500 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
ผู้เขียนหลงใหลดื่มน้ำเก๊กฮวยมาแต่เด็ก ด้วยว่าเป็นครอบครัวคนจีนลูกผสม การดื่มน้ำชาและน้ำเก๊กฮวยเป็นเครื่องดื่มปกติของครอบครัว แต่ไม่ได้ปลูกเพื่อเก็บดอกเอง ส่วนใหญ่ซื้อมาจากร้านขายยาเครื่องยาจีนในตลาด จนเรียนจบไปเป็นนักวิชาการป่าไม้ ในกองอนุรักษ์ต้นน้ำ จึงได้รับการถ่ายทอดเรื่องการปลูกดอกเก๊กฮวยเชิงพาณิชย์
1.ปลูกเป็นไม้ประดับ ได้รับความนิยมต่ำเพราะว่าต้นล้ม ไม่โดดเด่น ดอกมีขนาดเล็กและรูปร่างแตกต่าง แต่ก็มีการปลูกลงกระถาง หรือลงแปลงใช้เฉพาะกิจบ้าง
2.ปลูกเป็นพืชอาหาร ไม่ได้กินดอกอ่อนหรือใบแทนผักสดนะ หากแต่เก็บดอกแก่ตากแห้งในกระด้งจนแห้งแล้วเก็บไว้ได้นาน ใช้ชงน้ำชาดื่มหอมชื่นใจ ใส่น้ำตาลเล็กน้อยพอกลมกล่อม สมัยก่อนจะชงใส่แก้วแช่เย็นไว้ขาย แต่ปัจจุบันนี้ใส่ขวดใสปรุงแต่งรสและกลิ่นเป็นเครื่องดื่มระดับชาเขียว
3.ปลูกเป็นพืชสมุนไพร เก๊กฮวยมีสรรพคุณมากมายดังนี้คือ
ใบและลำต้น ใช้ตำพอกแผลน้ำร้อนลวก แก้โรคผิวหนังอื่นๆ
ใบและดอก คั้นเอาน้ำใส่บาดแผล น้ำต้มดื่มแก้โรคนิ่ว โรคต่อมน้ำเหลือง วัณโรค
ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แก้โรคตับ ไขข้ออักเสบ โรคตามืดในเวลากลางคืน โรคประจำเดือนไม่มาตามปกติ ปวดหัว วิงเวียนศีรษะ หูอื้อ ป้องกันไม่ให้ผมหงอก เป็นยาขับลมในลำไส้ เจริญอาหาร บำรุงเส้นประสาท สายตา