ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้นที่ 32.เจอราเนียม
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ ปากนกกระเรียน Geranium
ชื่อวิทยาศาสตร์ Palargonium x hortorum L.H. Ba
ชื่อวงศ์ GERANIACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบในทวีปแอฟริกาใต้ และทวีปออสเตรเลียบนที่สูงอากาศเย็นจัด
ในประเทศไทย พบนำเข้ามาปลูกบนที่สูง อากาศหนาวเย็นจัด ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 700-1,600 เมตร เช่นดอยตุง ดอยอ่างขาง ดอยขุนสถาน
ลักษณะประจำพันธ์
ต้น ลำต้นอวบน้ำ เป็นไม้ดอกอายุหลายปี สูง 30-60 ซม. แตกกิ่งก้าน
ใบ ใบเดี่ยว รูปกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง
ดอก ออกเป็นช่อกลมแบบซี่ร่ม ขนาดช่อดอก 10-
สภาพที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์
ชอบดินร่วนปนทราย อุดมสมบูรณ์ด้วยอินทรียวัตถุ ปริมาณน้ำปานกลาง แสงแดดเต็มวัน-รำไร อุณหภูมิระหว่าง 12-25 องศาเซลเซียส สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 700-1,600 ม. การขยายพันธุ์ นิยมปักชำกิ่ง เพาะเมล็ด โดยกลบเมล็ดบาง ๆ เมล็ดงอกภายใน 5-7 วัน ย้ายปลูกอายุ 10-15 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 90-100 วัน
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
ผมเดินทางไปตามแปลงปลูกดอกไม้ดังๆหลายแห่ง เข่นดอยตุง จ.เชียงราย ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ และไปสิ้นสุดที่ดอยขุนสถาน จ.น่าน เพื่อถ่ายรูปดอกไม้เมืองหนาวและดอกไม้ไทยๆ เพื่อสะสมไว้ตามแต่โอกาสจะได้ภาพและเรื่องราว
1.ปลูกเป็นไม้ประดับ นิยมปลูกเจอราเนียมลงแปลงมากกว่าลงกระถาง ปลูกครั้งเดียวได้ชมดอกสวยไปหลายปี พุ่มเตี้ยแคบ ใช้พื้นที่ปลูกน้อย ประกอบกับช่อดอกใหญ่ สีสันสวยเด่น
2.ปลูกเป็นเครื่องหอม ใช้เป็นเครื่องหอมมาแต่โบราณกาล กลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากเจอราเนียมช่วยให้ผ่อนควาย หายเครียด เพิ่มพลังให้เกิดการตื่นตัว คลายกังวล เพิ่มพลังให้มากขึ้น ลดอาการช้ำบวม แก้สิวและเริม ใบขยี้แล้วบำบัดแผลไฟไหม้ ลดการเจ็บคอ อาการอักเสบของต่อมทอนซิล การติดเชื้อในระบบปัสสาวะ มีกลิ่นคล้ายกุหลาบ มะนาวและเปปเปอร์มิ้น
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากปลูกไหม