ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้น 41.ดอกกระดาด
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ Straw flower, Golden Everlasting, Paper Daisy,Gomphrena, บานไม่รู้โรยฝรั่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bracteantha bracteata (Vent.) Anderb. & Haegi
ชื่อวงศ์ ASTERACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบที่ ออสเตรเลีย
ในประเทศไทย ปัจจุบันนี้กระจายไปทั่วเอเชียส่วนใหญ่บนที่สูง อากาศหนาวเย็น
ลักษณะประจำพันธ์
ต้น ไม้ล้มลุกอายุสั้น 1-2 ปี ต้นสูง 0.50-
และต้นสูง ลำต้นเปลือกเขียว กลม
ใบ แตกตามข้อลำต้น เรียวยาว เขียวยับย่น เส้นกลางใบชัด หนา
ดอก ออกเป็นช่อกระจุกเดี่ยวที่ปลายยอด ขนาดดอกบานเต็มที่ 3-7 เซ็นติเมตร กลีบประดับเป็นเกล็ดแข็งรูปไข่ซ้อนเหลื่อมกันหลายชั้น มีสีขาว ชมพู เหลืองทอง ส้ม และแดง กลีบดอกวงในรูปหลอด มีสีเหลืองหรือสีน้ำตาลเข้ม ดอกมีอายุบานนานมาก ใบเลี้ยงใต้ฐานดอก 1 คู่ เรียวยาว
ผล แบบผลแห้ง เมล็ดขนาดกลางจำนวน 1,800 เมล็ด/กรัม
สภาพที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์ นิยมเพาะเมล็ด โดยไม่กลบเมล็ด วางภาชนะเพาะในที่มีแสง เมล็ดงอกภายใน 7-10 วัน ย้ายปลูกอายุ 20-25 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 80 วัน เหมาะปลูกดินร่วนระบายน้ำดี ไม่ชอบดินเหนียวซึ่งระบายน้ำไม่ดี ต้องการแสงแดดเต็มวัน อุณหภูมิระหว่าง 12-25 องศาเซลติเกรด ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 300-900 เมตร
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
ผู้เขียนพบดอกกระดาดครั้งแรกจากดอกไม้แห้งในจังหวัดเชียงใหม่ แบ่งกำเป็นไม้ตัดดอกแต้มสีขายเป็นของที่ระลึกให้กับชาวต่างชาติ แต่พบว่าลูกค้าจำนวนมากเป็นคนไทยจากกรุงเทพ และพบปลูกในโครงการหลวงพัฒนาต้นน้ำ ชาวเขาเผ่าม้งเชื่อและปลูกตัดดอกขายสดและขายแห้งชุบสี
1.ปลูกเป็นไม้ประดับ นิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอก และไม้ประดับลงแปลง หรือจัดสวนหย่อม สวนหิน หรือทำดอกไม้แห้งปักแจกัน
2.ปลูกเป็นพืชสมุนไพร ต้น ใช้ต้มดื่มแก้ระดูขาวมาก แก้ขัดเบา แก้นิ่ว แก้โรคหนองใน
ใบเลี้ยงใต้ฐานรองดอก 2 ใบ