ต้นแบบการจัดการน้ำเสียของเทศบาลเมืองกระบี่
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
ผมติดตาม นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี หน้าต่าง มองคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม นสพ.เดลินิวส์รายวัน ไปกับองค์การจัดการน้ำเสีย(อจน.) เพื่อตามไปดูโครงการ “ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ สร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางน้ำของประชาชนพื้นที่เทศบาลเมืองกระบี่” เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558 แล้วรู้สึกดีใจที่ได้เห็น ต้นแบบการจัดการน้ำเสียของเทศบาลเมืองกระบี่ที่ร่วมกับองค์การจัดการน้ำเสีย ประทับใจครับ
นายเกียรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่
นายชัยเกียรติ ห่านสัมฤทธิ์ ประธานกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย
สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม ศึกษาและวิจัยพบว่า น้ำดี 100% เมื่อผ่านกระบวนการใช้แล้วเกิดเป็นน้ำเสียร้อยละ 80% คนภาคกลาง ทำให้เกิดน้ำเสีย 183-406 ลิตร/คน/วัน คนภาคเหนือ ทำให้เกิดน้ำเสีย 282 ลิตร/คน/วัน คนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดน้ำเสีย 291-306 ลิตร/คน/วัน และคนภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำเสีย 249 ลิตร/คน/วัน (สถิติ ปีพ.ศ.2555) ทั้งประเทศ 77 จังหวัด 67 ล้านคนจะเป็นผู้ทำให้เกิดน้ำเสียมหาศาลเพียงใด
นางหทัยรัตน์ ลิขิตอนุภาค รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย
ประชากร 76 จังหวัดทั่วประเทศ(ยกเว้นกทม) ประกอบด้วยองค์การปกครองท้องถิ่น ที่เป็น องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น 5,509 แห่ง เทศบาล 2,266 แห่ง รวมทั้งสิ้น 7,851 แห่ง องค์การจัดการน้ำเสียได้เข้าไปบริหารจัดการให้เกิดการจัดการน้ำเสียอย่างเป็นระบบเพียง 20 แห่ง ปริมาณน้ำเสียที่ได้รับการบำบัดจนสะอาดและปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติได้เพียง 20 แห่ง พี่น้องที่เคารพ จะเหลือปริมาณน้ำเสียที่ไม่ได้รับการบำบัดอีกเท่าไร คิดกันดูเถอะ
แต่เมื่อคิดทบทวนถึงองค์การจัดการน้ำเสีย(อจน.) ที่มีพนักงานจำนวนน้อย งบประมาณก็น้อย ไม่กี่ร้อยล้านบาท(ทั้งองค์กร) แล้วนึกถึงภาระหน้าที่ที่จะต้องไปหาทางให้องค์การปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศถึง 7,851 แห่ง ลงนามข้อตกลงที่จะร่วมกันดำเนินนโยบาย ผู้ที่ทำให้เกิดน้ำเสียต้องจ่าย เหนื่อยแทนจริงๆ ทั้งๆที่แต่ละองค์กรเหล่านั้น มีหน้าที่ หาน้ำดีให้ประชากรใช้ และต้องบริหารจัดการน้ำเสียให้ดีก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ทำไมไม่ทำกัน
นักเรียนคือบริบทที่ต้องเริ่มเรียนรู้และเข้าใจ
ลองตามไปดูสิ่งที่เมืองกระบี่เขาทำกันครับ เทศบาลเมืองกระบี่ได้ลงนามร่วมกับองค์การจัดการน้ำเสีย เป็นข้อตกลงให้บริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียของชุมชนอย่างยั่งยืน และร่วมกันเสริมสร้างจิตสำนึกของประชาชนในการรักษาสิ่งแวดล้อม มีระยะเวลา 15 ปีตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2555 ถึง 30 กันยายน 2570
ระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลเมืองกระบี่ เป็นระบบบำบัดน้ำเสียชนิดเติมอากาศ (Aerated Lagoon) จำนวน ๑ บ่อ และ บ่อตกตะกอน (Polishing Pond) จำนวน ๓ บ่อ สามารถบำบัดน้ำเสียได้ ๑๒,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวัน สถานีสูบน้ำเสีย ๒ แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ ๙.๗ ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันมีน้ำเสียเข้าระบบประมาณ ๖,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดที่ทำการ
น้ำเสียที่ไหลมาเข้าบ่อบำบัด ดำ สกปรก เหม็น เต็มไปด้วยเชื้อโรคและสารพิษตกค้าง
องค์การจัดการน้ำเสียได้ตั้งผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ให้เป็นผู้บริหารจัดการ อย่างมีประสิทธิภาพ และได้พัฒนาให้เป็นศูนย์การเรียนรู้การนำเอาน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว และมีคุณภาพตามมาตรฐานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลับมาใช้ประโยชน์
น้ำสะอาดส่วนที่เหลือก็ปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ เมื่อตามไปดูปลายน้ำที่ไหลลงสู่ทะเลมีสีขาวใสสะอาด นักท่องเที่ยวตามชายหาดก็ไม่บ่นอีกแล้วว่า คันตัว
บำบัดจนดื่มได้
บทบาทและหน้าที่ของเทศบาลเมืองกระบี่ ได้ตราเทศบัญญัติเทศบาลเมืองกระบี่ ว่าด้วยการจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย ค่าบริการน้ำทิ้ง และค่าใบอนุญาตให้ต่อท่อเชื่อม เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 เพื่อเรียกเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย ค่าบริการน้ำทิ้ง และค่าใบอนุญาตให้ต่อท่อเชื่อม จากประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของ หรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดน้ำเสียในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองกระบี่ ทั้งนี้ เพื่อนำรายได้มาสมทบ สนับสนุนการดำเนินงานบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียรวมเทศบาลเมืองกระบี่ให้เป็นไปอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
อย่างไรก็ดี การจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียนั้น ถือเป็นสิ่งใหม่สำหรับประเทศไทยและประชาชนทั่วไป จึงจำเป็นต้องสร้างความรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เทศบาลเมืองกระบี่ในฐานะเจ้าของ หรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ให้มีความตระหนัก และมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาคุณภาพแหล่งน้ำ รวมทั้ง มีความยินดีจ่ายค่าบำบัดน้ำเสียตามหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย(Polluters Pay Principle : PPP)
ดังนั้น เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2558 ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม จึงเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานจัดการน้ำเสียเมืองกระบี่ ประกอบด้วยแขกผู้มีส่วนร่วม นายเกียรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ นายชัยเกียรติ ห่านสัมฤทธิ์ ประธานกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย พร้อมคณะกรรมการ และนางหทัยรัตน์ ลิขิตอนุภาค รองผู้อำนวยการปฏิบัติการรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย กล่าวรายงาน
หลังจากนั้น ได้เดินชมกิจการจัดการน้ำเสียเมืองกระบี่ ได้ปลูกต้นไม้ร่วมกับเยาวชนคนเมืองกระบี่ ได้พิสูจน์ถึงสมรรถนะการบริหารจัดการน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่คูคลองธรรมชาติ และได้ร่วมแถลงข่าวอีกครั้งถึงอนาคตการจัดการน้ำเสียของเมืองกระบี่
นายเกียรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ได้กล่าวว่า ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับองค์การจัดการน้ำเสีย กระบี่ เพื่อช่วยให้การจัดเก็บเงินค่ากำจัดน้ำเสียจากประชาชนคนเมืองเทศบาลกระบี่ ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้เกิดน้ำเสียโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขตเทศบาลเมืองกระบี่มีแหล่งท่องเที่ยวและที่พำนักนักท่องเที่ยวปริมาณมาก จึงต้องให้ความสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนแก่นักท่องเที่ยว
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เน้นย้ำว่า กระบี่เป็นเมืองงดงามด้วยธรรมชาติ ชายทะเล ชายหาด ป่าเขา ลำธาร เป็นทรัพยากรท่องเที่ยวสำคัญ หากปล่อยให้น้ำเสียไหลลงไปปะปนแล้วทำให้เกิดความสกปรกคงไม่ได้ จังหวัดจะร่วมสนับสนุนการจัดการน้ำเสียของเกาะพีพี ชายหาดทุกแห่ง เพื่อให้คืนน้ำดีสู่ธรรมชาติต่อไป
นางหทัยรัตน์ ลิขิตอนุภาค รองผู้อำนวยการปฏิบัติการรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย กล่าวว่า เป็นภารกิจหนักมากขององค์กร แต่ถ้าหากได้รับการสนับสนุน ร่วมมือจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเทศมนตรีของทุกเมือง งานจัดการน้ำเสียก็จะได้รับความสำเร็จมากขึ้น โดยยึดหลักการ ผู้ก่อให้เกิดน้ำเสียต้องจ่าย ทั้งประเทศทำไปเพียง 20 แห่ง ยังเหลืออีกมากทีเดียว
โชคดีที่เมืองกระบี่ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง ถือเป็นอีกหนึ่งในต้นแบบชุมชนเมืองที่เข้าใจและพร้อมให้ความร่วมมือ
ภารกิจที่หนึ่ง : การจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียในเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียและพื้นที่ชุ่มน้ำวิกฤติ ได้แก่ พื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พื้นที่แม่น้ำท่าจีนตอนล่าง โดยองค์การจัดการน้ำเสียได้ดำเนินการโครงการบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครอ้อมน้อย โครงการบำบัดน้ำเสียชุมชนขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีจุดเด่นที่ระบบบำบัดน้ำเสียอยู่ใต้ดิน และส่วนบนดินเป็นสวนสาธารณะสำหรับประชาชนพักผ่อนหย่อนใจ
ภารกิจที่สอง : ให้บริการรับบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย โดยการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนที่ก่อสร้างไว้เดิมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม ๒๐ แห่งทั่วทุกภาคของประเทศ รวมถึงการออกแบบก่อสร้างและบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียเฉพาะจุดในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ๘ แห่ง
ภารกิจที่สาม : การบริการกิจการต่อเนื่องที่เกี่ยวกับการจัดการน้ำเสีย ได้ดำเนินการให้คำปรึกษาด้านวิชาการและการบริหารจัดการน้ำเสียให้กับหน่วยงานหลายแห่งทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการจัดให้มีศูนย์การเรียนรู้การจัดการน้ำเสีย เพื่อให้องค์การจัดการน้ำเสียเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
นายชัยเกียรติ ห่านสัมฤทธิ์ ประธานกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย
ในโอกาสครบรอบ ๒๐ ปีของการสถาปนาองค์การจัดการน้ำเสีย นายชัยเกียรติ ห่านสัมฤทธิ์ ประธานกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการกำหนดนโยบายทิศทางขององค์การจัดการน้ำเสีย ได้กล่าวว่า
“การที่องค์การจัดการน้ำเสีย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำเสียของประเทศ โดยเฉพาะการที่ได้เข้าไปฟื้นฟูและบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียของท้องถิ่นที่มีการก่อสร้างไว้แล้วให้สามารถดำเนินการบำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเป็นสิ่งที่แสดงว่า ภารกิจขององค์การจัดการน้ำเสียเป็นการทำให้งบประมาณของชาติที่ใช้ไปในการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียไม่สูญเปล่า นอกจากนี้ภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นสิ่งที่องค์การได้สนองในพระมหากรุณาธิคุณด้วย
ทะเลกระบี่จะได้สวยและสะอาดน่าลงอาบ
พี่น้องครับ ผมยอมรับชำระค่าเก็บขยะทุกเดือนๆละ 30 บาท เพราะว่าถ้าไม่มีองค์กรปกครองท้องถิ่นดำเนินการจัดเก็บ ผมจะต้องแบกภาระเรื่องขยะสักเพียงใด เมื่อองค์การจัดการน้ำเสียอยากให้ผมซึ่งก็เป็นหนึ่งในผู้ทำให้เกิดน้ำเสียต้องจ่ายค่าบำบัดน้ำเสีย ผมยินดีจ่าย เมื่อไรหนอในเขตพื้นที่บ้านผมจะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาเก็บค่าบำบัดน้ำเสียบ้าง จะรีบจ่ายให้ด้วยความเต็มใจเลยทีเดียว
ผมเห็นเป็นต้นแบบการจัดการน้ำเสียที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ว่าราชการจังหวัด เทศบาลเมืองกระบี่ โดยมีองค์การจัดการน้ำเสีย บริหารจัดการ ทั้งนี้ ประชาชนเข้าใจ และให้การสนับสนุน สุดยอด