ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้น63.ขิงแดง
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ Red Ginger
ชื่อวิทยาศาสตร์ Alpinia purpurea (Villard.) Schum.
ชื่อวงศ์ ZINGIBERACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบที่หมู่เกาะแปซิฟิกตอนใต้ ปัจจุบันนี้กระจายไปทั่วเอเชียและเขตร้อนทั่วไป มีการพัฒนาพันธุ์แตกต่างออกไปมากขึ้น เช่นขิงชมพู จังเกิ้ล คิง จังเกิ้ลควีน ตาฮิเตียน และคิมิ เป็นต้น
ในประเทศไทย พบว่าได้มีการนำเข้ามาปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปทุกภาค
สถานภาพ เป็นพืชต่างถิ่นกำเนิด นำเข้ามาปลูกประดับ
ลักษณะประจำพันธุ์
ต้น มีลำต้นใต้ดินเรียกว่าเหง้า มีขนาดสั้นแตกแขนงทอดขนานไปกับผิวดิน เป็นที่สะสมอาหาร เหง้ามีสีแดง เส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซ.ม. ส่วนลำต้นเหนือดินเป็นกาบใบที่โอบซ้อนกันแน่น เรียกว่า ลำต้นเทียม สูง 1-2 ม. ในธรรมชาติอาจ สูงถึง5 ม.
ใบ ออกเวียนสลับ รูปรี บริเวณกลางใบกว้าง แล้วค่อย ๆ เรียวไปหาปลายใบและฐานใบไม่มีก้านใบ ผิวใบเกลี้ยงขนาดยาว 20-30 ซม. และกว้าง 5-8ซม. เส้นกลางใบปรากฎชัดท้องใบ
ดอก ช่อดอกจะออกที่ยอด ยาว 30 - 90 ซม.ประกอบด้วยกลีบประดับ เรียงซ้อนกันอยู่ กลีบประดับมีสีแดงสด รูปไข่ ปลายแหลม ขนาดยาว 3-4ซม. และกว้าง 1.5-2.5ซม. ดอกแท้เป็นรูปกรวยสีขาวขนาดเล็ก อยู่ภายในกลีบประดับ ไม่ค่อยเห็นโผล่ออกมาเหนือกลีบประดับ ดอกแท้มักเหี่ยวแห้งไปในเวลาอันรวดเร็ว
ผล เป็นชนิดแคบซูล ผิวสีแดง ขนาดยาวประมาณ 3 ซม.เมล็ดมีสีดำความยาวประมาณ 3.มม. และมีเปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง
เหง้าของแดง
สภาพพื้นที่ที่เมาะสมและการขยายพันธุ์ ดินทุกประเภท เว้นแต่ดินลูกรัง ต้องการน้ำมาก แสงแดดรำไรจนถึงเต็มวัน อุณหภูมิระหว่าง 20-40 องศาเซลเซียส ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 50-300 ม. การขยายพันธุ์ เมล็ดมักงอกบนดอก แยกหน่อแล้วนำไปชำในถุงดินได้ จนกล้าเติบโตมากขึ้น จึงลงปลูกได้ตามปกติ หรืออาจจะขยายหน่อไปปลูกได้ง่ายๆ ตั้งแต่เพาะกล้าจนถึงออกดอกใช้เวลา 1 ปี
ใบ
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
พบขิงแดงปลูกประดับสวนย่อมทั่วไป ตามโรงแรม รีสอร์ท บ้านเรือน แต่กลับไม่พบว่าใช้ขิงแดงประกอบอาหารเหมือนขิงหรือข่าแต่อย่างใด ดอกสวยแต่งแต้มสีสันให้กับสวนหย่อมได้งดงาม คือ
1. ปลูกเป็นไม้ประดับ ปลูกลงแปลงในสวนหย่อม แดดรำไรถึงแดดเต็มวัน
2. ปลูกเป็นไม้ตัดดอก ช่อดอกขิงแดงมีกลีบเลี้ยงสีแดงสด ทนทาน และปักแจกันได้นาน
ดอกสีชมพู
3. ปลูกเป็นพืชสมุนไพร
ต้น ใบ ดอก ผล ราก เหง้า เปลือกเหง้า ให้น้ำมันระเหยเป็นยา
ต้น ใช้ขับลม บรรเทาอาการจุกเสียด แน่นเฟ้อ รักษานิ่ว คอเปื่อย ช่วยย่อยอาหาร แก้หวัด แก้หอบหืด ไอ ขับเสมหะ ทำให้หายใจคล่อง อาเจียน แก้บิด ช่วยย่อยไขมัน เจริญอากาศธาตุ