บุญยกศาลา ผ้าป่าสามัคคีวัดกำแพงมณี
ต.ห้วยคันแหลน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
หลวงพ่อแก่นวัดกำแพงมณี สุดเฮี้ยน
ทุ่งแขวงเมืองวิเศษไชยชาญช่วงหนึ่งมีคลองห้วยคันแหลนไหลพาดผ่านตั้งแต่บึงสามโก้ผ่านชุมชนคนบ้านอบทม บ้านห้วยคันแหลน บ้านตลาดใหม่ บ้านหลักขอน ไหลไปออกปากแม่น้ำน้อยที่บ้านคลองขนาก บางชุมชนมีวัด และบางชุมชนมีเพียงพระพุทธรูปตามโคกเป็นวัดร้างมากมายหลายวัด มีชื่อเรียกขานบ้าง ไม่มีชื่อเรียกขานบ้าง
ประเพณีปิดทองหลวงพ่อแก่นประจำปี
ปีพุทธศักราช 2436 วัดกำแพงมณีก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่เคยร้าง ตั้งอยู่บนโคกริมฝั่งขวาคลองห้วยคันแหลน เหลือเพียงหลวงพ่อพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานอยู่องค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขนาดหน้าตัก 5 ศอกเศษ ปางสมาธิเพชร พระหัตถ์ซ้ายทับพระหัตถ์ขวา ศิลปะพระพุทธรูปสมัยอู่ทอง
วันหนึ่งชาวบ้านได้เห็นว่าพระพุทธรูปปูนปั้นนั้นแตกร้าว จึงได้เห็นเนื้อในว่าเป็นพระพุทธรูปแก่นไม้สีดำ ชาวบ้านจึงเรียกขานกันว่า “หลวงพ่อแก่น” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียงมาช้านาน พุทธคุณที่เลื่องลือได้แก่เมตตามหานิยมขอสิ่งใดได้สิ่งนั้นดังปรารถนา ลูกเล็กเด็กแดงคนใดดื้อดึงเลี้ยงยากร้องไห้โยเย ชาวบ้านจะอุ้มใส่กระด้งไปถวายให้เป็นลูกของหลวงพ่อแก่น กลับเลี้ยงง่ายไม่โยเยเกเรอีกเลย
ภายในศาลาการเปรียญจะเห็นเสาไม้ต้นใหญ่ๆ งดงามและหายากแล้ว
ปีพุทธศักราช 2439 มีกุฏิเครื่องไม้ไผ่หลังคามุงแฝกอยู่หลังหนึ่ง มีพระภิกษุอยู่องค์หนึ่งชื่อ หลวงปู่แจ้ง จำพรรษาอยู่องค์เดียวแต่ท่านจำพรรษาอยู่เพียง 2-3 ปีก็จาริกไป ปีพุทธศักราช 2444 หลวงพ่อดำกับพระภิกษุ 2 รูป สามเณร 1 องค์ และอุบาสกอีกหนึ่ง พากันธุดงค์มาจากจังหวัดปัตตานี ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดกำแพงมณี แล้วชักชวนให้ญาติโยมสร้างกุฏิขึ้น 3 หลัง มาปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่เมื่อขุนวิเศษ(สิงห์ วิเศษสุข) กำนันตำบลห้วยคันแหลน(พ.ศ.2448)
ศาลาการเปรียญอายุ 63 ปี ทรุด
วัดกำแพงมณี ตั้งอยู่เลขที่ 76 หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยคันแหลน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง 14110 โทร.035-629362 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เนื้อที่ 14-0-64 ไร่ มีเจ้าอาวาสและพระสงฆ์จำพรรษาไม่เป็นวัดร้างอีกเลย ปัจจุบันนี้มีเจ้าอาวาสชื่อ พระอธิการศิริ สิริจันโท(รื่นเริงบุญ)
ศาลาการเปรียญที่พวกเราเคยเรียนด้วยกัน
ปีพ.ศ.2496 ได้มีการสร้างศาลาการเปรียญยกพื้นสูงตามสภาพท้องทุ่งริมฝั่งคลองราว 3 เมตร เป็นศาลาเครื่องไม้ กว้าง 14 เมตร ยาว 22 เมตร เสาไม้แก่น ขนาดคนโอบจำนวน 44 ต้น พื้นไม้กระดานสวยงาม หลังคามุงกระเบื้อง ใช้เป็นศาลาทำบุญตักบาตรและงานประเพณีประจำปีของวัดทุกปี
ชำรุดทรุดต่ำแทบติดดิน
ปีพ.ศ.2502 มหาเอิบ พิณเสนาะและหมอกลึง คำชำนาญ และพวกได้ร่วมกันตั้งโรงเรียนระดับมัธยมต้นเพื่อส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนคนบ้านทุ่งให้ได้รับการศึกษาเล่าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โดยมีครูอุดม สะอาดศรี เป็นครูใหญ่ ตั้งชื่อว่าโรงเรียนกำแพงมณีวิทยา โดยใช้ศาลาการเปรียญหลังนี้เป็นอาคารเรียน
ศิษย์เก่า รร.กำแพงมณีวิทยา เสนอให้ช่วงชัย เปาอินทร์ เป็นประธานฯ
จนถึงวันนี้ ศาลาอายุ 63 ปี สภาพทั่วไปยังดี แข็งแรง แต่กระเบื้องเครื่องไม้บนเริ่มเก่าโทรม และน้ำตื้นเขินดินทับถมจนกลายเป็นสาลาเตี้ยหมดความสง่างามไปดังในภาพที่เห็น
ศิษย์เก่าโรงเรียนกำแพงมณีวิทยา อันประกอบไปด้วยนายช่วงชัย เปาอินทร์ ประเทือง เดชคง บุญส่ง-ประทีป ปั้นงาม พิทักษ์ ศรีนพนิคม วิทย์ กลิ่นปลาด บุญชู ไชยสังข์ สะอาด พุ่มสุวรรณ ธีรยุทธ์ พิทักษ์วงศ์ ภาคภูมิ วงศ์ทองดี วิชัย เคารพ ร.ต.บุญเลิศ อินทุมาน ประมวล นากสุข จาตุรนต์ โตกระจ่าง ฯลฯ
ปรึกษาหารือกับท่านเจ้าอาวาสวัดกำแพงมณีแล้วเห็นชอบที่จะตั้งองค์ผ้าป่าสามัคคีเพื่อหาเงินยกศาลาการเปรียญให้สูงขึ้นดังเดิม โดยได้กำหนดวันทอดในวันงานประเพณีประจำปีของวัดกำแพงมณี ตรงกับวันแรม 15 ค่ำเดือน 4 ปีวอก (วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2559) แต่งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อแก่นเริ่มตั้งแต่วันที่ 25-28 มีนาคม 2559
ตรวจศาลาการเปรียญร่วมกับท่านเจ้าอาวาสวัดกำแพงมณี
บุญยกศาลาเป็นบุญใหญ่มหากุศลที่พุทธศาสนิกชนจักได้ร่วมกันบำเพ็ญเพื่อให้ศาลาการเปรียญยังประโยชน์แก่พุทธศาสนาสืบไป หากพุทธศาสนิกชนคนใดประสงค์จะร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี ก็สามารถโอนเงินเข้าชื่อบัญชีนายช่วงชัย เปาอินทร์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาคลองเตย บัญชีเลขที่ 012-1-55 968-1 และธนาคารกรุงไทย สาขาชินเขต บัญชีเลขที่ 981-6-26794-2 ร่วมกันบริจาคเพื่อเติมด้วยบุญยกศาลา ทำมาค้าขึ้น ชีวิตเจริญรุ่งเรืองครับ