วัฒนธรรม-ประเพณีทำบุญ-บังสุกุล-รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
เสียงครกเรียกเขย แม่เม้ยรออยู่
วันสงกรานต์ ปีวอก ตรงกับวันขึ้น 7-8-9 ค่ำเดือน 5 ตรงกับปีปฏิทินวันที่ 13-14-15 เมษายน พ.ศ.2559 เสียงตามสายดังเร้าใจให้เตรียมตัวทำบุญถึง 3 วัน ไม่ยาวไม่สั้นจนเกินไป เป็นวันกำหนดตามประเพณีของประเทศไทยที่กระทำติดต่อกันมานานนับหลายร้อยปี โดยมีท่านเจ้าอาวาสวัดประจำหมู่บ้านตั้งรับพานบุญ
พอถึงวันที่ 12 บ้านไหนมีลูกสาวก็เรียกว่าที่ลูกเขยให้มาขึ้นมะพร้าว เตรียมทำขนมหวานสารพัดนึก เสียงครกกระทบสากดังลั่นทุ่งเพื่อตำเครื่องแกง แต่จะเป็นแกงเผ็ดไก่หรือแกงเผ็ดหมูก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละครอบครัว แม่สาวแก้มเรื่อมีความสุขกับการช่วยแม่เตรียมอาหารหวานคาวใส่ในภาชนะแล้วบรรจุลงในกระเตงหวายสานสวยเก๋ เมื่อเช้ามืดวันที่ 13 มาถึง
การเตรียมอาหารหวานคาวเพื่อทำบุญตามประเพณีวันสงกรานต์นั้นนิยมทำกันถึง 3 วัน ซึ่งปีหนึ่งจะมีสักครั้ง
แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างหนุ่มสาวชาวรามัญ
ตื่นเต้นไหม สำหรับหนุ่มสาวแรกรุ่น ว้าวุ่นพอสมควร เพราะยากจะแต่งอย่างไรให้เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม มิได้มีการบังคับไว้เป็นกฎหมาย สวมใส่สิ่งใดก็ได้ ภาพที่ได้เห็นจึงมีทั้งชาวรามัญหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่ปรารถนาจะอนุรักษ์เครื่องแต่ตัวตามวัฒนธรรมของชาวรามัญ แต่ก็มีอีกกลุ่มที่แต่งด้วยเสื้อลายดอกสวยงามตามสมัย
หนุ่มรามัญ สวมโสร่งลายดอกผ้าพื้นสีเด่น ตามชอบของแต่ละคน ใส่เสื้อคอกลมแขนสั้นสีสันสดใส คาดเอวด้วยเข็มขัดซ่อนในชายพก ผ้าพาดไหล่ตามวัฒนธรรมของชาวรามัญแตกต่างไปจากชนเผ่าอื่นๆ ส่วยรองเท้าแต่โบราณก็เท้าเปล่า แต่ปัจจุบันนี้ก็ตามสะดวก
สาวรามัญกลุ่มที่อนุรักษ์การแต่งกายอย่างวัฒนธรรมดั้งเดิมของสุภาพสตรีรามัญ สวมผ้าถุง คาดเข็มขัดเหน็บชายพกเรียบร้อย สวมเสื้อแขนยาวสามส่วย คอกลม แต่งแต้มด้วยสีสันตามชอบ มีผ้าสไบเฉียงงดงาม อุ้มขันเงินพร้อมสรรพ รองเท้าสุภาพตามยุคสมัย
ตักบาตรทำบุญพระสงฆ์แทนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า
วันที่ 13 วันตักบาตรทำบุญ คือวัฒนธรรมการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ เป็นวันหนึ่งที่รวมญาติพี่น้องลูกหลานให้มาร่วมงานกันด้วยใจสมัคร พี่น้องชาวรามัญกลุ่มวัดคงคาราม ยังเหนียวแน่นด้วยภาพที่สวยงาม จัดระเบียบการนั่งรออย่างสงบ และตั้งใจ
บนศาลาการเปรียญมีกลองแขวนไว้ ชายกลางคนแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างหนุ่มชาวรามัญ ทำหน้าที่ ตีกลอง เพื่อส่งสัญญาณให้พระสงฆ์เตรียมพร้อมที่จะลงมารับการตักบาตรจากพุทธศาสนิกชน เมื่อเมื่อพระสงค์เริ่มเดินลงพร้อมอุมบาตรไว้รับภัตตาหารหวานคาว
พระสงฆ์ชาวรามัญเดินลงจากกุฎีด้วยเท้าเปล่า พี่น้องชาวรามัญที่รอตักบาตรจึงถอดรองเท้าหมด หลังการเดินรับบาตร แผ่ส่วนกุศลแด่สรรพสัตว์และบริวาร จากบันไดกุฎีถึงท้ายวัดยาวเป็นกิโลเมตร หนาแน่นไปด้วยหนุ่มสาว ผู้ครองเรือน และผู้สูงอายุมากมาย
ข้าวแช่ดับร้อนตำรับชาวรามัญ
ญาติผู้ใหญ่ในกลุ่มชาวรามัญเล่าให้ฟังว่า ข้าวแช่เป็นตำรับอาหารดับร้อนของชาวรามัญมาแต่โบราณ นิยมทำไว้ในหน้าร้อน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันสงกรานต์เพื่อต้อนรับลูกหลานและเพื่อนบ้านที่มาเยือนได้รับประทานกัน
ข้าวสวยต้มสุกแช่ในน้ำเย็นอบดอกมะลิหอมกรุ่น หัวไชโป๊วหั่นซอย เนื้อหมูบดแห้งคล้ายหมูหยอง และผัดไท เป็นเครื่องเคียงในการกินกับข้าวแช่ งานบุญวันสงกรานต์วัดคงคารามได้ชาวบ้านร่วมใจทำไว้รับรองเพื่อนๆหลังจากตักบาตรทำบุญแล้ว จะได้รับประทานร่วมกัน
บังสุกุลแบบว่ารำลึกถึงบรรพบุรุษ
ตามประเพณีของชาวรามัญ นิยมนำอัฐิของบรรพบุรุษมาก่อเจดีย์ไว้รายรอบอุโบสถ แยกกันตระกูลใครตระกูลมัน เมื่อถึงคราวงานบุญวันสงกรานต์เช่นนี้ จึงถือโอกาสนี้แวะเวียนไปกราบไหว้และทำพิธีบังสุกุลกันถ้วนหน้า
ส่วนใหญ่นิยมเอาพวงมาลัยมากราบไหว้และบูชา พร้อมจุดดอกไม้ธูปเทียนและปักด้วยธงสีสันสวยงาม นั่งกราบไหว้และรำลึกถึงผู้วายชน เป็นมุทิตาจิตของบุตรธิดาต่อบุพการีที่วายวาง เป็นวัฒนะธรรมหนึ่งของชาวรามัญที่ยังเหลืออยู่อย่างเหนียวแน่น
รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเพื่อขอพร
เมื่อวันสงกรานต์มาเยือน ลูกหลานที่ไปทำงานไกลบ้านและที่เฝ้าดูแลพ่อแม่แก่เฒ่าจะถือบานดอกไม้ พร้อมของฝาก ส่วนใหญ่เป็นผ้าถุงสำเร็จหรือผ้าพาดไหล่สไบเฉียง แต่ปัจจุบันนี้อาจเปลี่ยนไปตามสมัยนิยม พ่อแม่จะนั่งอยู่ที่ไหน ลูกหลานจะเข้ามากราบแล้วมอบของขวัญบูชาด้วยความกตัญญู พ่อแม่ปู่ย่าจะอำนวยพรให้ได้อิ่มอกอิ่มใจ
ตุงใหญ่
ขบวนผู้สูงอายุแห่ตุงใหญ่
วัฒนธรรมการรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่นั้น ทำกันเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน เว้นแต่เจ๊กลูกผสมหรือไทยลูกแปลกๆที่ไม่มีวัฒนธรรม ไม่มีรากเหง้า ก็จะละเลยเรื่องราวดีๆเช่นที่ชาวรามัญ ชาวล้านนา ชาวลาว ฯลฯ เขาถือกันหนักหนา
แต่คนที่ยากจน ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินเก็บจนเหลือพอจะเดินทางกลับบ้านเกิด ก็เป็นความจำเป็นที่จำใจ ไปไม่ได้ ไม่มีเงิน ไม่มีความพอดี ก็ไม่ต้องไป พ่อแม่คนไหนก็เข้าใจได้ ถ้าถึงกับต้องไปหยิบยืมหรือกู้เงินพวกหมวกกันน๊อคเสียดอกแพงๆเพื่อไปแสดงความกตัญญูละก้อ ไม่ต้องฝืนทำก็ไม่มีใครมาว่าได้
ปีใหม่ไทย วันสงกรานต์ มิใช่วันเมาเหล้าเมายา
ตอนเด็ก ได้เคยร่วมงานวันสงกรานต์เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนา และการอำนวยพรจากญาติผู้ใหญ่ หนุ่มสาวจะเปิดลานกว้างๆเล่นมอญซ่อนผ้าบ้าง ตีลูกช่วงกันบ้าง ชักกะเย่อกันระหว่างหนุ่มสาว เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้รู้จักหน้าตาและสานสัมพันธ์กันในภายหลัง
ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลคลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตอนหนุ่มได้ร่วมวงละเล่นตามวัฒนธรรมประเพณีมาหลายครั้ง แต่หลังจากมีครอบครัวชีวิตก็เปลี่ยนไป นั่นเป็นช่วงเวลาเดียวที่มีความหมายลึกซึ้ง
วันนี้ จะมองหางานวัฒนธรรมประเพณีการละเล่นพื้นบ้านวันสงกรานต์ ไม่มีอีกแล้ว ใกล้เวลาสาบสูญด้วยเฟสบุ๊กและไลน์ เทคโนโลยี่สมัยใหม่ทำให้วัฒนธรรมประเพณีเปลี่ยนไป หรือไม่ก็เมาเหล้าจนตาลาย
น้ำหอมน้ำปรุงด้วยดอกสงกรานต์รดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่