ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้น114.ฟุกเซีย
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ Fuchsia, Lady’s Eardrops,ตุ้มหูนางฟ้า โคมญี่ปุ่น
ชื่อวิทยาศาสตร์ Fuchsia hybirds.
ชื่อวงศ์ ONAGRACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบที่นิวซีแลนด์ ตาฮิติ อเมริกากลางและอเมริกาใต้
ในประเทศไทย พบว่านำเข้ามาปลูกประดับทั่วไป ทั้งที่ราบจนถึงที่สูง อากาศหนาวเย็น
การกระจายพันธุ์ เป็นต้นไม้ดอกอีกชนิดหนึ่งที่นิยมผสมพันธุ์ให้ได้สีสันและกลีบดอกแตกต่างกันไป ทั้งกลีบดอกเดี่ยวและกลีบดอกซ้อน กระจายพันธุ์ไปทั่วโลก
สถานภาพ เป็นไม้ดอกอายุหลายปี นำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อปลูกประดับ ตั้งแต่ที่ราบถึงเขาสูง 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ลักษณะประจำพันธ์
ต้น ต้นแตกเป็นพุ่มสูง 0.30-2 เมตร มีทั้งชนิดพุ่มและเลื้อย สีเปลือกมีทั้งสีเขียว และสีแดง
เลือดหมู
ใบ รูปไข่หรือใบหอก ปลายแหลม ขอบจักแบบฟันเลื่อย เส้นกลางใบสีแดง
ดอก ออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นช่อตามซอกใบ มีทั้งกลีบดอกชั้นเดียวและกลีบดอกซ้อน
ดอกรูปถ้วยคว่ำหรือคล้ายโคมญี่ปุ่น ขนาด 3-6 ซม. กลีบเลี้ยงรูปรีแกมรูปไข่ มี 4 กลีบ ปลายโค้งขึ้น กลีบดอกอาจมี 4 กลีบ หรือมากกว่า ทับซ้อนเกยกันอยู่กลางดอก กลีบดอกมีสีขาว ชมพู แดง ม่วง และสองสีในดอกเดียวกัน
เมล็ด ขนาดกลาง 1,900 – 2,000 เมล็ด/กรัม เพาะขยายได้โดยไม่ต้องกลบเมล็ด ในแสงแดดรำไร
สภาพที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์ ชอบแสงครึ่งวันเช้า-รำไร อากาศเย็น ดินปลูกชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงพื้นที่ลมแรงและแสงแดดจัดในตอนกลางวัน ความชื้นสูง นิยมปลูกในโรงเรือนปรับอุณหภูมิและความชุ่มชื้นได้ การขยายพันธุ์ นิยมปักชำกิ่งและการเพาะเมล็ด ก่อนเพาะควรนำเมล็ดมาแช่น้ำประมาณ 3 ชั่วโมง การเพาะจะไม่กลบเมล็ด เมล็ดงอกภายใน 21-28 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 120 วัน
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
ผมชอบดูดอกไม้ ทั้งดอกไม้ป่าและดอกไม้นำเข้า ได้เห็นต้นฟุกเซียหรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า
โคมญี่ปุ่น ที่พบเห็นมักปลูกในกระถางตั้ง ส่วนกระถางแขวนนั้นเพิ่งได้พบเห็น เพราะต้นแตกพุ่มกว้าง และยังได้พบว่านิยมปลูกไม้ประดับแบบลงแปลงด้วย ข้อดีคือปลูกครั้งเดียวได้ดูดอกปหลายปี ชวนให้นิยมผสมพันธุ์เพื่อให้ได้กลีบดอกแตกต่าง ทั้งกลีบดอกและสีสัน ประโยชน์ด้านสมุนไพรหรือเครื่องประทินผิวไม่มีรายงาน