นกปากห่าง เพื่อนชาวนา
ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ตอนเรียนคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พลาดไปครับ ไม่ได้เรียนเรื่องนกและสัตว์ป่าอื่นๆเลย การจำแนกวิชาเรียนมีดีและก็มีเสีย แต่ถ้าคณะวนศาสตร์เรียนแบบสหวิทยาการคงดีไปอีกแบบ อย่างน้อยก็ได้เรียนผ่านมาบ้าง
อย่างไรก็ตามในเมื่อเรียนจนจบปริญญาตรีได้ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต(วท.บ.)ทั้งที ก็ต้องคิดเป็น วิเคราะห์เป็น ค้นคว้าเป็น การเรียนรู้เพิ่มเติมจึงต้องช่วยตนเอง
ลีลานกปากห่างก็สวยไม่เบา
พอรู้ข่าวเรื่องนกอพยพชื่อว่านกปากห่างมาอยู่อาศัยที่วัดไผ่ล้อม อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เคยชวนลูกๆไปดูกัน พยายามถ่ายรูปบ้าง สังเกตพฤติกรรมของมันบ้าง สอบถามพระที่วัดจึงรู้ว่า
"แรกๆมันก็ไปๆมาๆ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด มีนกปากห่างจำนวนหนึ่งไม่ยอมอพยพตามฝูงไป"
"ปีต่อๆมา เมื่อถึงฤดูนกอพยพมาลง ก็มากันเยอะจริงๆ แล้วก็เหลือนกไม่อพยพกลับมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่รู้ว่ามากน้อยสักเท่าไร"
"ที่อาตมาเห็นเลยนะ มันมาอยู่นี่มันออกหากินแต่เช้าจดค่ำจึงกลับมานอน บนยอดไม้เต็มไปหมด มันส่งภาษากันเจี๊ยวจ๊าวเชียว ดูมันร่าเริงบันเทิงใจกันทั่วทุกตัวนะ"
"พอมันมาอยู่สักพักหนึ่งก็เริ่มคาบกิ่งไม้มาทำรังตามง่ามต้นไม้ รังมันหยาบๆ แค่ว่าตัวเมียนอนวางไข่ได้เท่านั้น พอลูกๆมันออกมาจากไข่แล้ว ก็จะขยันบินคาบอาหารมาป้อนลูกๆ พอลูกนกเติบโตจนขนเต็มตัวก็เริ่มบินออกหากินเอง แข็งแรงดีแล้ว เมื่อมีการอพยพกลับ มันก็ตามฝูงของมันไป"
ดาหน้ากันค้นหาอาหารก่อนจะดำนา
นกปากห่างมีชื่อสามัญว่า Open-billed stork ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anastomus oscitans อยู่ในวงศ์ CICONIIDAE เป็นนกขนาดใหญ่จากปลายปากจดปลายหาง 70-80 ซม. ตัวผู้ตัวเมียคล้ายๆกัน ขายาว คอยาว ปากใหญ่แต่ส่วนกลางของปากห่าง ขนตามตัวสีขาวหางสีดำแกมน้ำเงิน ขนปลายปีกสีดำ พบทั่วไปในไทย ลาว อินเดีย พม่า เวียตนาม เขมร โคชินไชนา มักอพยพเข้ามาช่วงเดือนพฤศจิกายน และจะอพยพกลับช่วงเดือนมิถุนายนของปีถัดไป
นกปากห่างกำลังลุยนาข้าวหาหอยเชอรี่ศัตรูชาวนา
ส่วนปากที่ห่างของมันพัฒนามาเพื่อให้คาบหอยโข่งตัวกลมๆลื่นๆได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ และใช้ปากแหลมๆแข็งๆกระเทาะเปลือกหอยออกได้ มันกินเนื้อหอยโข่งเป็นอาหาร แต่ปู ปลา กบ เขียด มันก็กิน เป็นนกที่ชอบอยู่กันเป็นฝูงๆ
เวลาผสมพันธุ์ตัวผู้ขึ้นทับตัวเมีย ระหว่างนั้นจะกระพือปีกช่วยพยุงตัวไว้ตลอดกิจกรรม ในขณะเดียวกันก็แกว่งปากกระทบปากตัวเมียตลอดเวลาการ "อึบ"
ออกไข่ครั้งละ 2-4 ฟอง ผัวเมียจะผลัดกันกกไข่ และหาอาหารมาเลี้ยงลูกๆ 2 เดือนเศษๆ นกจะโตเต็มวัย ขนเต็มแล้วเริ่มหัดบิน
ปากห่างกางคาบหอย
บ้านเรานี้ดีนักหนา คนแอบอพยพเข้ามาอยู่ก็ไม่อยากกลับถิ่นเดิม คงอยู่สุขสบายทั้งกายและใจมั้ง พอนกปากห่างแห่กันเข้ามานานเข้าไม่อพยพกลับเสียอีก มันคงคิดแน่ๆเลยว่า เมืองนี้ดีมีทุ่งนามาก ในนามีน้ำและหอยโข่ง กบ เขียด ปู ปลา โอย อาหารสารพัดอย่าง ชาวนาที่เมืองไทยก็ใจดี ไม่เคยไล่ไม่เคยยิงปืนให้ตกใจ ชาวนาก็ชอบไม่ต้องฉีดยาฆ่าศัตรูข้าวเลย อิอิ
จะบินไปอยู่ตรงไหนมากๆก็ไม่มีใครไล่ แถมทางราชการไทยยังประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเสียอีก แหม...มีกฎหมาย มีพนักงานป่าไม้ มีงบประมาณ มาคอยคุ้มครองให้ด้วย ไม่อยู่ก็โง่ละโว๊ย ว่าแล้วนกรุ่นใหม่หลายๆรุ่นจึงนิยมอยู่ช่วยชาวนาไทยเก็บหอยออกจากนาข้าวอย่างมีความสุข พึ่งพาซึ่งกันและกัน มันกลายเป็นเพื่อนเลิฟของชาวนาไปในที่สุด