วัดรังเสือเมืองพาโร : ประเทศภูฏาน
อึ้งเข่งสุง-เรื่อง//โน๊ะ-ภาพ
พรีเซ็นเทอร์ที่โด่งดังที่สุดของประเทศภูฏาน ประกาศตัวตนเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 คราวเสด็จมาถวายความยินดีที่พระเจ้าแผ่นดินของประเทศไทย รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ 60 ปี ด้วยความหนุ่มสูงยาวขาวหล่อ และสุภาพอ่อนโยน ทำให้ทั่วโลกปรีดาไปกับเจ้าชายแห่งประเทศภูฏานอย่างยิ่ง
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่นักท่องเที่ยวรู้จัก อยากไป และทนไม่ไหวต้องไปให้ได้ "ประเทศภูฏาน" หลังจากนั้นบริษัททัวร์มุ่งสู่กรุงทิมพู สำรวจแหล่งท่องเที่ยวและนำทัวร์ออกเดินทางเที่ยวแล้วเที่ยวเล่า
วัดรังเสือ Taktsang ความหมาย tiger nest
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มหัศจรรย์ของเมืองพาโร ประเทศภูฏาน วัดรังเสือหรือวัดป่าทักซัง Taktsang (Tiger nest Monastery) ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยว่าเป็นวัดในลัทธิมหายานที่ กูรู รินโปเช สำแดงกฤษฎาภินิหารเหาะมาบนหลังเสือ ที่เล่ากันว่าเป็นร่างแปลงของภรรยาท่าน แล้วไปนั่งวิปัสนากรรมฐานในถ้ำ Pelphug ที่อยู่ริมหน้าผาสูง 700 เมตร นานถึง 3 เดือน พ.ศ.2227 จึงได้มีการก่อสร้างวัดป่าทักซังขึ้น ปัจจุบันนี้มีโบสก์บำเพ็ญบุญ 13 หลัง แต่เปิดให้เยี่ยมชมได้เพียง 3 หลัง ในจำนวนนี้ โบสก์หลังเล็กที่สุด หลังที่ 2 ด้านหลังเป็นถ้ำที่กล่าวถึง
เมืองพาโร(Paro) เป็นมณฑลหนึ่งใน 24 มณฑลของประเทศภูฏาน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,120 เมตร อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี วัดรังเสือก็ตั้งอยู่ในเทือกเขาที่อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ สัตว์ป่า และดอกไม้ป่ามากมาย
เดิมทีเดียว พ.ศ.2173 ดรุกปา ลามะ พุทธลัทธิมหายาน ลี้ภัยจากธิเบตเข้ามายังแผ่นดินนี้ แล้วตั้งตัวเป็นผู้ปกครองด้วยระบบธรรมราชาศาสนเทวราช แต่ก็ยังไม่เป็นประเทศอย่างแท้จริง จนถึงพ.ศ.2450 ได้รับการสถาปนาเป็นประเทศภูฏาน โดยมีกษัตริย์ อูเก็น วังชุก ขึ้นครองราชย์ รัชกาลที่ 1 พ.ศ.2549 กษัตริย์จิกมี่ เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 5 ของราชวงศ์วังชุก
ปัจจุบันนี้ ประเทศภูฏาน ปกครองด้วยระบบ "ซองดู" รัฐสภาแห่งชาติ มีสมาชิกระบบแต่งตั้งจากกษัตริย์ 55 คน และเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง 106 คน พรรคการเมืองมี 2 พรรค ประชากร 752,700 คน(2547) แยกออกเป็น 3 เชื้อชาติ คือ เผ่าชาร์คอร์บ ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิม เผ่างาลอบ ซึ่งเป็นชนเผ่าจากธิเบต และเผ่าโลซาม ซึ่งเป็นชาวเนปาล
อาหารประจำชาติคือ Emadate ประกอบด้วย พริกสด ซอสเนยต้ม หัวไช่เท๊า มันหมู หนังหมู ปรุงแล้วรสจัด อุณหภูมิกลางคืน 5-10 องศาเซลเซียส กลางวัน 15-25 องศาเซลเซียส
ถ้าอยากไปเที่ยวประเทศภูฏานละก้อ รู้สักนิดว่า ช่วงเดือน มีค-พค. อากาศอบอุ่นเข้าฤดูใบไม้ผลิ น่าเที่ยว ช่วงเดือน มิย-สค. หน้าร้อน อากาศเย็นสบาย ป่าเขียวขรึ้ม ช่วงเดือน กย-พย.ฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็น สดชื่น ท้องฟ้าแจ่มใส น่าเดินป่าปีนเขายิ่งนัก แต่ถ้าเข้าช่วงเดือน ธค.-กพ. อากาศหนาวจัด หมอกลงหนาแน่น
แต่ด้วยประเทศภูฏานประกาศ ไม่สนใจ GDP หากแต่สนใจเพียงความสุขของประชากรเป็นสำคัญ ดังนั้น การท่องเที่ยวของประเทศนี้จึงถูกจำกัดเรื่อง ขีดความสามารถในการรองรับได้(Capacity) เป็นหลัก การท่องเที่ยวสมควรอาศัยไปกับบริษัททัวร์ น่าจะสะดวกกว่า เพราะว่าต้องจองล่วงหน้าตามปริมาณที่กำหนดเท่านั้น
มีเงินก็ไม่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้ง่ายๆ เศรษฐีจ๋อยครับผม ประเทศนี้