http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,276,661
Page Views16,603,272
« September 2024»
SMTWTFS
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930     
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

บางหลวง:วันเดียวเที่ยวร้องคาราโอเกะในเรือนแพ โดยธงชัย เปาอินทร์-เรื่องและภาพ

บางหลวง:วันเดียวเที่ยวร้องคาราโอเกะในเรือนแพ  โดยธงชัย เปาอินทร์-เรื่องและภาพ

                                บางหลวง:วันเดียวเที่ยวร้องคาราโอเกะในเรือนแพ  

                                                                                     โดยธงชัย เปาอินทร์-เรื่อง-ภาพ

 

                   ทิ้งท้ายไว้ว่าจะพาไปรับรู้เรื่องราวการสอนดนตรีจีนที่บางหลวง ตลาดโบราณ รศ.122 ซึ่งมีความหลากหลายในด้านวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตที่ยังคงไว้ได้เหมือนในอดีต แต่แล้วก็พลาดจนได้เมื่อไปถึง ห้องสอนดนตรีจีนเปิดอยู่ เครื่องดนตรีจัดวางไว้อย่างสวยงาม มีนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมกันหลายคน แต่น่าเสียดายที่ครูสอนดนตรีจีนติดธุรกิจสำคัญ วันอาทิตย์นี้จึงเล่าเรื่องดนตรีจีนไม่ได้  

 

                นักปั่นจักรยานจากกรุงเทพแวะเที่ยว                                    ปลาเผาน่าซื้อลงไปนั่งกินในแพ

                ผมเดินท่อมท่อมไปในตลาด ผ่านผู้คนที่เข้าเยี่ยมยามอย่างขวักไขว่ ก็มากพอสมควร  ขนมพื้นบ้านตลาดบางหลวงยังมีขายทั่วไป เดินไปก็เล็งว่าจะซื้ออะไรกินดี จะซื้ออะไรไปฝากคนทางบ้านดี มีของกินใหม่ๆเพิ่มอีกหรือไม่ 

              มีขนมอยู่อย่างหนึ่งที่ผมชอบกิน  แต่กลับถูกเพื่อนๆล้อว่า 

               “แม่งกินขนมบ้าบิ่นมาทุกวัน"

              เป็นว่าถ้าต้องตอบโต้กันแล้วผมมุทะลุดุดันและบ้าบิ่นเกินพิกัด         

                     

                                                    เห็นแล้วคิดถึงแม่ ขนมบ้าบิ่น

                แต่มาเห็นขนมบ้าบิ่นที่ตลาดบางหลวง ได้แต่คิดถึงแม่ที่เคยทำให้กินตอนเด็ก เห็นแล้วก็อยากกิน ซื้อติดมือทันที

  

                             เรือนแพแม่น้ำท่าจีน                                     ดอกไม้ให้เสียบ 20 บ.ให้นักดนตรี..เป็นกำลังใจ

                ผมได้ของกินเล่นแล้วก็เดินลงไปในเรือนแพชายฝั่งแม่น้ำท่าจีน  ซึ่งมีอยู่3 หลังใหญ่ๆ มีแพสุขาเป็นหลังที่ 4 เรือล่องแม่น้ำท่าจีนลอยฟ่องรออยู่ที่แพนี้  ช่วงที่ไปเลยเที่ยงวันไปแล้ว อากาศในเรือนแพเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้พัดลม  แม่น้ำท่าจีนสีขุ่นไหลเอื่อยๆ มีกอผักตบชะวาไหลปะปนมาด้วย                     

             ฝั่งตรงข้ามแพเป็นบ้านชาวบ้านอยู่ 3-4 หลัง บางหลังเก่าโทรมมาก แต่ดูบรรยากาศแล้วน่าทำเป็นโฮมสเตย์ มีระเบียงกว้างขวางนอนดูดาวท่ามกลางสายลมเย็นๆ ฮื่ย!! ถ้าทำเมื่อไรคงได้ไปนอนสักคืน  บางหลังแม้เก่าแต่ก็ได้บรรยากาศบ้านริมน้ำ ชีวิตเรียบง่าย มีเรือพายข้ามฟาก เก็บผักดักปลาไปตามธรรมชาติ

                      

                                                             ถ้าทำโฮมสเตย์เยี่ยมเลย....ได้บรรยากาศ

               ในเรือนแพมีนักท่องเที่ยวมากันไม่น้อย นั่งกันเป็นกลุ่มๆ ส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว กลุ่มผู้อาวุโสมักมากันเป็นกลุ่มใหญ่ ดูท่าทีสนิทสนมกันมาก เหมือนว่าเที่ยวพักผ่อนด้วยกันเป็นประจำ บางกลุ่มซื้ออาหารจากบนตลาดหิ้วลงมานั่งกินกัน บางกลุ่มสั่งก๋วยเตี๋ยวริมทางลงซึ่งมีอยู่สองร้าน  สองร้านนี้ขายดีมาก แกว่งตะกร้าเป็นระวิง แทบไม่ได้หยุดพักเหนื่อยเลยทีเดียว ส่วนอีกจุดหนึ่งเป็นหมูสะเต๊ะ  ปลาช่อนเผา ขนมปากหม้อไส้ผักกะเฉด และร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด 

                               

                                                  ผู้พิการทางสายตา..สัญจรมาร้องเพลง

               ผมเดินผ่านไปนั่งที่แพกลางด้วยว่ามีคาราโอเกะให้ฟัง  นักร้องสาวหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังขับขานด้วยเพลงเย็นๆของสุนทราภรณ์ ป้ายหน้าวงเขียนว่า ข้าวโพดมิวสิกสืบสานเพลงอมตะ ที่โต๊ะกลมโต๊ะหนึ่งมีดอกไม้ประดิษฐ์ปักอยู่ นึกในใจ ตลาดโบราณบางหลวงมีคาราโอเกะให้นักท่องเที่ยวพักผ่อน สงสัยว่าต้องเสียเงินไหม เพลงละเท่าไร                             

               พอนักร้องสาวส่งไมค์ให้นักร้องชายที่คุมวงร้องต่อ ผมเดินไปกระซิบนักร้องว่า ขอคุยด้วยสักหน่อยพร้อมกับแจกนามบัตร www.thongthailand.com  เพื่อแสดงตัวตน จะได้เข้าใจว่า ผมกำลังจะทำอะไร  เพื่ออะไร  และทำไม   

                     

                                                                 อาจารย์พจนาพรรณ แฟนคลับตัวเอ้

               ได้ความว่า "เธอ พจนาพรรณ  พันธ์จินดานนท์ นักร้องสาวสวยคนนี้แท้ที่จริงไม่ได้เป็นนักร้อง เธอก็เป็นนักท่องเที่ยว มาพักผ่อนหย่อนใจที่แพริมน้ำตลาดบางหลวง เธอเล่าว่าหลังเรียนจบปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา กรุงเทพ ก็เป็นครูอาจารย์เรื่อยไปจนกระทั่งได้ไปเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต กรุงเทพ แต่ได้ลาออกมา 6-7 ปีแล้ว                    

              ทุกวันนี้เธอเปิดสอนแนะแนวที่บ้านไร่ในอำเภอท่าม่วง จ.กาญขนบุรี เรียกกันทั่วไปว่า บ้านครูอ้วน เน้นการสอนแบบแนะแนวการเรียนของเยาวชนที่คิดไม่ออกบอกไม่ได้ ทำนองแก้ปมให้กับเด็กๆที่ไม่รู้จักตัวตนของตัวเอง ไม่รู้ทิศทางที่ควรเดิน"                          

                           

               เธอเล่าว่า "วันอาทิตย์มักว่าง ก็ขับรถมาพักผ่อนที่เรือนแพบางหลวง ซึ่งมีคาราโอเกะให้ร้องเล่นเพลินๆ ด้วย ก็เลยมาบ่อย จนสนิทกับนักดนตรีเจ้าของวง คุณปิง  ก็ได้ร้องเพลงชุดของสุนทราภรณ์เป็นส่วนใหญ่ ฟังกันได้สบายๆ ไม่มีค่าจ้างหรอก มาร้องที่นี่ก็ต้องซื้ออาหารลงมานั่งกินเองด้วย(เธอกำลังกินเป็ดพะโล้) เหมือนช่วยคุณปิง เป็นการกุศลซะมากกว่าค่ะ"   

                   

                                                   ภัทร์ศักดิ์ ศรีชูศิลป์  เจ้าของวง                                             

                 พอคุณปิงร้องเพลงจบ มีนักร้องสับเปลี่ยนไปตามคิวเพลงที่ขอไว้ ผมจึงขอสัมภาษณ์คุณปิงต่อ

                 ผมชื่อ ภัทร์ศักดิ์ ศรีชูศิลป์  จบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยราชภัฎ นครปฐม แต่ไม่ได้เรียนมาทางดนตรีเลย วันนี้อายุ 44 ปีแล้ว  ทำงานธนาคารมาก่อนแล้วลาออก ไปทำงานให้ เอไอเอ ประกันชีวิต  สาขากำแพงแสน ตั้งวงดนตรี ข้าวโพด(ชื่อลูกสาว)มิวสิก รับงานทั่วไป ช่วยสอนฟรีเรื่องการขับร้องเพลงให้กับโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน  ผมมาสอนในนามชมรมศิลปินร่วมอาชีพ  อ๋อ..ก็มีตั้งแต่ เครื่องดนตรีพร้อมคนเล่น  นักร้อง  แดนเซอร์  เครื่องไฟ โต๊ะจีน และตลก 

                   

                                                           เจ้าของรายการทีวีช่องหนึ่งขอร้องด้วย

                 รับงานแสดงทั่วไปด้วยราคามิตรภาพ ราคาขึ้นอยู่กับจ้างระดับไหน ระดับแดนเซอร์ 8 คน นักร้อง 3 คน นักดนตรี 1 คน ถ้าใกล้ๆก็ 8,000 บาท ไกลก็ 10,000 บาท แต่ถ้าจ้างแค่นักดนตรี อิเลคโทน และคาราโอเกะ ก็ 3,000-3,500 บาท ถามว่าอยู่ได้ไหม ผมตอบได้เลยว่าอยู่ได้  งานน้อยกว่าเมื่อก่อนก็ด้วยภาวะเศรษฐกิจของบ้านเมืองส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ช่วงเข้าพรรษา งานการแสดงแทบไม่มีเลย

                      

                                                                  พิพธภัณฑ์ของเก่า..น่าสนใจ

                  ที่มาเล่นให้กับเรือนแพตลาดโบราณบางหลวงนี่ เหมือนว่าช่วยกัน ผมเป็นเขยบางหลวงมา 13 ปีแล้ว  เล่นที่นี่เฉพาะวันอาทิตย์ ทางตลาดเขาก็ช่วยเหลือค่าน้ำมันรถวิ่งไปกลับบ้าน แรกๆก็ครั้งละ 500 บาท เดี๋ยวนี้ให้ครั้งละ 1,000 บาท เพลงที่เล่นเน้นเลยครับต้องสุนทราภรณ์   อยากสืบสานเพลงอมตะไว้ให้ได้ฟังกันนานๆ นักท่องเที่ยวที่มาร้อง ฟรีทุกคนครับ แต่ก็มีมากเลยที่ซื้อดอกไม้เสียบแบงค์ยี่สิบมาให้ นักดนตรี ก็ได้กำลังใจ

                    

                                               คุณปิงขับร้องเพลงด้วยตนเอง..อยากฟังเพลงอะไร..ขอได้ฟรี

                  อ๋อ..ที่ว่าผมไม่ได้จบทางดนตรีทำไมมาร้องและเล่นดนตรีได้  เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ช่วงอยู่ธนาคารก็เอ็นเตอร์เทนกันบ่อย มีคอมพิวเตอร์ก็อัดเพลงลงไป ทีนี้ก็เลยเริ่มติดคาราโอเกะ ร้องเล่นกันจนเมื่อลาออกจากธนาคารแล้ว กลับต้องมายึดอาชีพวงดนตรีรับจ้างไปในที่สุด มาเล่นที่นี่ เวลาเห็นนักท่องเที่ยวเขามาร้องกันด้วยท่าทีมีความสุข ผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย เงินใครก็อยากได้ แต่ทุกวันนี้ได้เล่นที่นี่ ทำให้คนอื่นมีความสุขผมแฮปปี้มากกว่าครับ

                      

                                                                  วิถีชีวิตเดิมๆของคนริมแม่น้ำท่าจีน

                   ผมหันไปเห็นคุณผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งร้องเพลงชุดสุนทราภรณ์ได้ไพเราะมาก พอเธอลงจากเวทีก็มีผู้ชายสูงวัยขึ้นไปร้องต่อ ทั้งคู้ร้องเพลงได้ไพเราะเสนาะหูจริงๆ สักครูก็มีนักร้องคนตาบอดมาร่วมแจมด้วยอีก 2 คน ทุกคนร้องเพลงได้เพราะพริ้งไม่แพ้กัน ได้ทิพกันไปคนละหลายสตางค์ เอ้า กลายเป็นว่าเวทีนี้ก็ช่วยเหลือให้คนตาบอดได้มีเวทีแสดงความสามารถและได้ค่าครองชีพไปประทังชีวิตและครอบครัว สาธุๆ 

                                                       คุณจงกล วิศรุตวงศ์ ผู้พิสมัยเสียงเพลงอมตะ

                  ผมหันหลังกลับไปหาคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย สองสามีภรรยานักร้อง เพื่อขอทราบเรื่องราวมาเล่าให้แฟนๆได้อ่านกัน คุณผู้หญิงชื่อว่า คุณจงกล  วิศรุตวงศ์ ส่วนสามีชื่อคุณวิสันต์ สองสามีภรรยาคู่นี้ได้เล่าให้ฟังว่า

                  "ฉันกับสามีเป็นคนกรุงเทพ เกษียนงานแล้ว ลูกสาวสามคนเรียนจบหมดและทำงานกัน “ยุ่งๆ” ทุกคน จนไม่มีเวลาไปไหนด้วยกันแบบครอบครัวเหมือนตอนเด็กๆ อยู่บ้านกันสองคน เครื่องและจอคาราโอเกะก็มี แต่ร้องกันสองคนก็ไม่สนุก ไม่ได้เปลี่ยนบรรยากาศ เซ็ง ๆ ก็เลยออกเที่ยวไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ไปเที่ยววันเดียวกลับค่ะ"                

                    

                  "ตลาดน้ำไปมาแทบจะทุกแห่ง  แต่มาที่นี่นานนับปีแล้วนะค่ะ เพราะว่ามาแล้วได้นั่งพักผ่อนริมแม่น้ำ ได้ทานอาหารตามใจชอบ  แต่เสียว่าที่นี่มีอาหารน้อยกว่าที่อื่นๆ ก็เลยต้องซื้อกุ้งเผา ปูเผา ติดมือมากินกันเอง ที่จริงอยากซื้อของแม่ค้าท้องถิ่นนะคะ แต่ตลาดนี้ไม่มีเลย มีเพียงปลาเผา ก็เบื่อแล้ว หมูสะเต๊ะ  ปอเปี๊ยะทอด ปอเปี๊ยะสด ข้าวเกรียบปากหม้อผัก ถ้ามีอาหารหลักๆมากหน่อยก็จะอุดหนุนเต็มที่" 

                       

                                                                คุณวิสันต์ ผู้สามีเสียงดีไม่แพ้กัน

                  ผมเห็นกองกุ้งเผาและเห็นรูปทรงของสองสามีภรรยาแล้วก็เชื่อโดยสนิทใจ  ว่าสิ่งที่เธอจารนัยมานั้น จริง  แล้วก็เชื่อว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่ใช่นักท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นนักท่องเที่ยวสมบูรณ์แบบ ไปที่ไหนกินที่นั่น กินเต็มที่อีกต่างหาก แล้วก็ร่วมแจมด้วยการขึ้นไปร้องเพลงคาราโอเกะอย่างเพลิดเพลิน ร้องได้ไพเราะมากทั้งคู่เสียด้วย

                     

                               ดู ดู กุ้ง หอย ปู ขาดแต่ปลา  นี่แหละลูกค้ามีระดับ...ที่นี่ไม่มีก็เลยซื้อมากินซะเอง

                  "ตอนเด็กชอบร้องเพลงมากค่ะ แต่พ่อแม่ไม่ยอมให้ร้องก็เลยเพิ่งจะมาได้ร้องตอนโตแล้ว  ตอนนี้หมดภาระเรื่องลูกๆด้วยแล้วยิ่งสนุกใหญ่ เป็นแฟนที่นี่ด้วยคู่หนึ่งค่ะ"  

                  ดูๆไปแล้วเรือนแพคาราโอเกะของตลาดโบราณบางหลวงทำท่าจะไปได้ดี มีนักร้องผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปร้องไม่ขาดระยะ เหมือนเป็นแฟนคลับกันไปแล้ว ทุกคนมาถึงเลือกที่นั่งได้ก็รอสั่งอาหาร แล้วก็จดคิวเพลงส่งต่อให้กับนักดนตรี คุณปิง ผู้ยิ้มแย้ม      

                     

                                                          มีเรือแคนูที่มีความปลอดภัยสูงให้หัดพายเล่น

               ผมตั้งใจเชียวนะว่าจะนำเสนอเรื่องการสอนดนตรีจีน  แต่เมื่อผิดคิว ก็ได้เรื่องนี้มาเล่าให้อ่านกัน เผื่อใครมีเวลาท่องเที่ยวได้วันเดียวกลับละก้อ ลองแวะไปตลาดบางหลวงตลาดโบราณ รศ.122   อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ดูนะครับ  การจะไปจะกลับถนนหนทางก็สะดวกมาก 

                   

                                                               บรรยากาศทางลงแพชายน้ำ

                   เส้นทางจากกรุงเทพ-นครปฐม ราวๆ 70 กม. วิ่งจากนครปฐมไปสุพรรณบุรีตามถนนมาลัยแมน ผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อำเภอกำแพงแสน  ถึงบ้านทะเลบก กม.65 เลี้ยวยูเทินกลับ ไปเข้าถนนสาย 3231 ระยะทางราวๆ 20 กม.ก็ถึงตลาดบางหลวง สบายๆ       

                   วันที่ 7 ตุลาคม 2553 มีขบวนแห่พระพุทธเจ้า (เฉียเจฮกโจ้) วันที่ 8-18 ตุลาคม 2553 เข้าเทศกาลกินเจของชาวตลาดบางหลวง ใครที่ชื่นชอบแวะไปร่วม “กินเจ" ได้เลย ผ่างๆ ๆ

                   อยากไปเบียดกันเดินเชิญไปตลาดน้ำดอนหวาย อยากไปแย่งกันกินเชิญไปตลาดค่ำอัมพวา อยากไปเดินสบายๆไปบางหลวงเด้อ.....

 

Tags : วันเดียวเที่ยวที่ไหนดี oneday trip บางหลวงตลาดโบราณ รศ.122

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view