กวาวเครือ
ชื่อพื้นเมือง จานเครือ ตานจอมทอง ทองเครือ โพ้ตะกุ โพมือ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Butea superba Roxb
ชื่อวงศ์ LEGUMINOSAE-PAPILIONOIDEAE
นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์
ในประเทศ พบทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ ระดับความสูง 50-450 เมตร จากน้ำทะเล
ในต่างประเทศ พม่า อินเดีย ลาว กัมพูชา
ลักษณะทั่วไป
ต้นไม้ เป็นไม้เลื้อยขนาดใหญ่ ยาวได้กว่า 20 เมตร ผลัดใบ ลำต้นใหญ่ ไต่พันไปตามต้นไม้ใหญ่หรือทอดราบไปกับพื้นดิน เปลือกนอกสีน้ำตาลเทา เปลือกในสีชมพู มีน้ำยางแดงไหลซึม ๆ
ใบ ใบเป็นไป ประกอบ ปลายคี่ 2 รวม 3 ใบ เนื้อใบบาง ใบคล้ายทองกวาวต้น โคนใบสอบเข้า ปลายใบมนหรือสอบเข้าเล็กน้อย ก้านใบบาว 10-15 ซม. ก้านใบย่อยแต่ละใบยาว 5-10 ซม.
ดอก ดอกออกเป็นกระจุกแบบช่อแน่นที่ปลายกิ่ง เป็นช่อยาว 20-30 ซม. ฐานดอกรูปถ้วยสีเขียวทหาร ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกสีแสดหรือสีส้ม รูปดอกคล้ายเรือ หรือครึ่งวงกลม เวลาออกดอกมักทิ้งใบหมด เกสรตัวเมียยาวโค้งงอ 7-15 ซม. เกสรตัวผู้สั้น แนบเกสรตัวเมีย
ผล เป็นฝัก เปลือกแข็ง
ระยะเวลาการออกดอกและเป็นผล ออกดอกเดือนกุมภาพันธุ์
การขยายพันธุ์ เพาะกล้าจากเมล็ด
การใช้ประโยชน์
ด้านเป็นไม้ประดับ ยังไม่ค่อยมีใครนำไปปลูกประดับ เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ มีดอกสดใส มองดูแล้วเพิ่มสีสันให้กับป่าได้อย่างสวยงาม เพิ่มความสวยงามของป่าอนุนักษ์หรือบ้านหรือสถานที่ราชการ หรือสวนพฤกษศาสตร์
ด้านสมุนไพร สรรพคุณ
หัว เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงเนื้อให้งอกงามเต่งตึงขึ้น บำรุงเนื้อหนังให้เต่งตึง บำรุงสุขภาพให้สำบูรณ์ บำรุงความกำหนัด รับประทานมากอาจเป็นอันตรายได้
เปลือกเถา แก้พิษงู
ไม่ระบุส่วนที่ใช้ บำรุงกำลังให้แข็งแรง แก้อ่อนเพลีย บำรุงธาตุ เป็นยาอายุวัฒนะ
ข้อมูลการวิจัยที่สำคัญ
สารเคมี (สมุนไพรไม้พื้นบ้าน)
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ทำให้แท้ง คุมกำเนิด ยับยั้งการฝังตัวของตัวอ่อน ยับยั้งการสร้างอสุจิ ยับยั้งการหลังน้ำนม ฆ่าอสุจิ ผลต่อระบบสืบพันธุ์ ผลต่อตับ ผลต่อเม็ดเลือด ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ผลต่อการเจริญเติบโตของไก่ ผลต่อโคเลสเตอรอลและโปรตีนในเลือด ทำให้เกิดการจับตัวของแคลเซียมที่เนื้อเยื่อ ทำให้ปริมาณแคลเซียมในเลือดสูง ผลต่อยุงก้นปล่อง เป็นพิษต่อนกกระทา ยับยั้งการไข่ของนกกระทา เร่งการโตของนกกระทา ทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง