http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,992,541
Page Views16,300,760
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ปักกิ่งหรรษา ตอนที่ 10 พระราชวังฤดูร้อน โดยอึ้งเข่งสุง

ปักกิ่งหรรษา ตอนที่ 10 พระราชวังฤดูร้อน โดยอึ้งเข่งสุง

                      

ตอนที่ 10 พระราชวังฤดูร้อน 

              ดย อึ้งเข่งสุง

 


               ไปท่องเที่ยวปักกิ่งแล้วไม่ได้ไปชมพระราชวังฤดูร้อน ก็เหมือนไม่ได้ไปจนถึงที่สุด ทั้งๆ ที่พระราชวังฤดูร้อนนี้แหละที่ชาวจีนไม่ถือว่าเป็นพระราชวัง หากแต่เป็นเพียงหยวนหรืออุทยาน แต่สำหรับพระนางซูสีไทเฮาแล้วทรงโปรดปรานมากถึงกับตั้งชื่อใหม่ว่า อี๋เหอหยวน  ชื่อนี้จึงติดปากและกลายเป็นชื่อที่เรียกขานกันมาตราบเท่าทุกวันนี้ พระราชวังฤดูร้อน หรือ Summer Palace  กลายเป็นจุดขายหนึ่งในกิจกรรมการท่องเที่ยวนครปักกิ่ง น่าสนใจไหม? หากน่าสนใจกรุณาอ่านต่อนะครับ
              พระราชวังฤดูร้อนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครปักกิ่ง ห่างราวๆ 11 กม. มีรถโดยสารประจำทางสาย 111 จากใจกลางกรุงปักกิ่ง ไปลงรถที่สวนสัตว์  จากนั้นต่อรถโดยสารสาย 332 ไปถึงพระราชวังได้สบายมาก  ส่วนนักท่องเที่ยวเช่นพวกเรา ไปกับรถยนต์ของทัวร์สบายกว่าเยอะเลย

            “เดิมทีเดียวพื้นที่ตั้งพระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้ เป็นแค่ชุมทางน้ำไหลมารวมกันในปริมาณมากกว่าปกติ เพราะพื้นที่เป็นอ่างกระทะ จนถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง  ..1153 ได้มีการตั้งเป็นอุทยานและขุดเป็นทะเลสาป สมัยราชวงศ์หยวน ค..1279-1368 ก็นิยมพักร้อนที่นี้ คุณโจวหยุดหายใจ

                        
                               พ ระเจ้าเฉียนหลง              บัลลังก์มังกร
               “พระราชวังฤดูร้อนได้รับการขยายและพัฒนาอย่างใหญ่หลวงในสมัยราชวงศ์ชิง ช่วงการครองราชย์ของพระเจ้าเฉียนหลงในปี ค..1736  ด้วยความกตัญญูของพระองค์ที่ทรงสร้างและขุดทะเลสาปให้ยิ่งใหญ่เหมือนทะเลสาปตะวันตกในเมืองหังโจว พระราชทานชื่อว่าทะเลสาปคุนหมิง เพื่อถวายเป็นของขวัญวันเกิดพระมารดา ส่วนดินก็ถมเป็นภูเขาสูงตระหง่านริมทะเลสาบ                 
                                                                                                            
              “พระเจ้าเฉียนหลงนี่ครองราชย์นาน 60 ปี แล้วสละราชบัลลังก์ ค.. 1795  ทรงเป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าคังซี หลังครองราชย์นานแล้วเลื่อนตนเองเป็น ไท่ซ่างอ๋วง  ก่อนสวรรคตในปี ค..1799 อายุ 88 พรรษา  ตั้งฉายาตนเองเป็น สือฉวนหล่าวหยิน  (ผู้ชนะสิบทิศ)  และสร้างผลงานระดับมหาราช เชี่ยวชาญทั้งบู๊และบุ๋น ถือว่ายิ่งใหญ่มาก”

             “ยิ่งใหญ่อย่างไรคุณโจวผมถาม หลายคนแสดงอาการอยากถามเช่นเดียวกัน

             “ตัวอย่างเช่น ผลงานเด่นมากคือการจัดทำตำรา ซื่อคู่ฉวนซู  เขียนกันนาน 9 ปี โดยนักปราชญ์ราชบัณฑิต และขุนนางชั้นผู้ใหญ่ 360 คน แยกเป็นคณะอนุกรรมการ 3,800 คน เป็นตำราที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนและของโลก เพราะว่ารวบรวมรายละเอียดความเป็นชาติจีนอย่างละเอียดยิบถึง 3,475 เล่ม แบ่งเป็น 7,900 ม้วน(บท) ซึ่งหนังสือเล่มนี้แก้ไขมาจากหนังสือจากทุกราชวงค์ 6,700 เล่ม 93,500 ม้วน  กลายเป็นสารานุกรมที่สำคัญที่สุด  ลูกทัวร์เชื่อว่ายิ่งใหญ่จริงตามที่คุณโจวเล่าขาน

                                                                                                                  
                                       ทางเดินชมร่มรื่น     

                 “เอ้า ถึงพระราชวังฤดูร้อนแล้วครับ โปรดลงไปรอผมซื้อตั๋วเข้าชมพระราชวังฤดูร้อนกันตามเคยนะครับ” คุณโจวพูดจบก็หิ้วธงลงนำทางทันที

                มันก็น่าสนุกดีนะครับ การไปท่องเที่ยวกับทัวร์ มีอะไรๆ ให้เห็นขบขันได้เรื่อยๆ อย่างไกด์หยั่งงี้ เดินไปๆ ประเดี๋ยวก็หยุดชูธงขึ้นเหนือหัวเสียทีหนึ่ง แล้วก็ต้องไปยืนตากแดดกลางแจ้งเพื่อให้ลูกทัวร์เห็นธง จะได้ตามมาพบกันง่ายๆ ร้อนแดดก็ต้องทน นี่ถ้าคุณโจวทำอาชีพไกด์ไปนานๆ ผมว่าวันหนึ่งแขนข้างซ้ายที่ใช้ชูธงทุกครั้งคงจะโตกว่าข้างขวาแน่นอน

              “พระตำหนักเหรินโซ่วเตี้ยน เป็นตำหนักที่พระนางซูสีไทเฮาทรงสร้างขึ้นไว้สำหรับพักในยามชรา ภายในตำหนักเก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ งานศิลปะ และม้วนกระดาษขนาดใหญ่ที่มีอักษรคำว่า โซ่ว (อายุยืน) ซึ่งเป็นอักษรที่เป็นลายพระหัตถ์ของพระนางซูสีไทเฮาเขียนด้วยตนเอง น่าเสียดายที่ตำหนักนี้ไม่เปิดในเข้าชม ส่วนภายนอกมีหินไท้หู เตาเผากำยาน 3 ขา และตัวกิเลนที่นำมาจากพระราชวังฤดูร้อนเดิม  พระตำหนักแห่งนี้พระนางซูสีไทเฮาทรงโปรดปรานมาก ทรงทะนุบำรุงมากครับ

                ขบวนเดินตามคุณโจวแล้วก็ฟังไปเรื่อยๆ อย่างสนใจ ทางเดินวกวนไปในสวนที่ตบแต่งด้วยต้นไม้สวยงามอย่างมีศิลปะและลงตัวพอดี

               “พระตำหนักที่เรากำลังเข้าไปนี้ เป็นตำหนักยวู่ลันถังของจักรพรรดิกวางสู พระนางซูสีทรงจับจักรพรรดิกวางสูขังไว้ภายใน ปี ค..1898 ขังอยู่ 10 ปี  ก็เสด็จสวรรคตเมื่อ ค..1908 พระชนมายุได้ 37 พรรษา ก่อนที่พระนางซูสีไทเฮาจะเสด็จสวรรคตตามไป 1 วันเท่านั้น"                
               พิจารณาโดยรอบพระตำหนักเหมือนตำหนักปกติ แต่สังเกตุให้ดีจะเห็นว่า มีการโบกปูนปิดรอบนอกพระตำหนักมิดชิด จักรพรรดิกวางสูเสด็จพระราชดำเนินไปรอบๆได้ แต่ออกข้างนอกไม่ได้ เหมือนกักบริเวณ

                “พูดถึงจักรพรรดิกวางสูแล้ว ก็ช่างน่าสงสารมาก พระองค์ทรงประสูติเมื่อ ค..1871 อายุ 4 พรรษาเท่านั้นก็ถูกเชิดให้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แทนจักรพรรดิองค์ก่อน แล้วพระนางซูสีฯ ก็ว่าราชการหลังม่านไม้ไผ่ที่น่าสะพรึงกลัว ทุกอย่างอยู่ภายใต้พระราชอำนาจของพระนางซูสีไทเฮาแบบเบ็ดเสร็จ แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของจักรพรรดิกวางสู พระองค์ได้ทรงบีบบังคับให้ประเทศอังกฤษผู้บุกรุกยินยอมลงนามในหนังสือสัญญาเช่าเกาะฮ่องกง 99 ปี หนังสือสัญญาฉบับนี้ก็เลยช่วยให้อังกฤษคืนเกาะฮ่องกงในวันที่ 1 กรกฎาคม ค..1997 แก่จีนคุณโจวเล่าต่อ

                                
                                                    พระเจ้าปูยี                                       
                 “
ช่วงหนึ่ง จักรพรรดิกวางสูเติบใหญ่และมีความคิดก้าวหน้า ถึงกับกะจะปลดแอกจากพระนางซูสี โดยร่วมกับข้าราชบริพาร ก็เลยถูกจับขังไว้ในตำหนักนี้ จนสิ้นพระชนในที่สุด  ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าความโลภเห็นแก่อำนาจเยี่ยงพระนางซูสีไทเฮานี่เอง หลังจากจักรพรรดิกวางสูเสด็จสวรรคตแล้ว พระนางซูสีฯก็ได้สถาปนาจักรพรรดิผู่หยี หรือปูยี ซึ่งประสูติปี
..1906 ขึ้นครองราชย์ปี ค..1908 อายุแค่ 2 ขวบ พระนางซูสีฯก็เสด็จสวรรคตหลังจักรพรรดิกวางสู 1 วัน ต่อมาในปี ค.. 1911 ราชวงค์ชิงถูกล้มล้างลงไป จักรพรรดิผู่หยีก็เลยกลายเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้าย  ผู่หยีกลายเป็นสามัญชนและเขียนนิยาย จากจักรพรรดิสู่สามัญชน(The Last bEmperor)”  ทุกคนเคยดูหนังเรื่องนี้ พยักหน้าหงึกๆ

              “อ้าว แล้วตรงโน้นเป็นตำหนักอะไรครับ  คนหนึ่งถามแล้วชี้มือ

              “อ้อ เตอเหอหยวน เป็นโรงละคร 3 ชั้น สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองพระชนพรรษาครบ 60 ปี โรงละครหลังนี้มี 3 เวทีเชื่อมต่อกันโดยประตูกลเพื่อให้นักแสดงหายตัวไปลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ได้ มีถังเก็บน้ำไว้ทำเทคนิคพิเศษในการแสดง ปัจจุบันเป็นที่เก็บเครื่องใช้พระนางซูสีฯ และภาพประวัติศาสตร์ ถัดไปก็ตำหนักเลอโซ่วถัง ซึ่งมีไฟฟ้าใช้เป็นบุคคลแรกในประเทศจีน  ไกด์ท่าทางเหนื่อย

                คณะเดินกันแบบระโหยเต็มที พลันก็หลุดพ้นตำหนักต่างๆ เข้าสู่ระเบียงยาวฉางหลิง ซึ่งทอดยาวไปตามริมฝั่งด้านเหนือของทะเลสาป เป็นทางเดินภายใต้หลังคาที่ยาวที่สุดถึง 728 เมตร ประดับภาพเทพนิยาย ตำนาน และนวนิยายหลายเรื่องเช่น ความฝันในหอแดง มุ่งสู่ตะวันตก และมีภาพชีวิตจริงของบุคคลสำคัญ รวมแล้วกว่า 8,000 ภาพ ๆ วาดตามเพดานและจันทันไม้

              บางคู่นั่งพักเหนื่อยรับสายลมจากทะเลสาป บางคณะถ่ายรูปกันไม่รู้จักเหนื่อย แต่บางกลุ่มรุมล้อมตู้ไอติมและของว่าง เป็นการพักผ่อนกลางพระราชวังฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่และมีอายุยาวนาน  ความสุขฉาบบนใบหน้าของทุกคน และความสุขได้ช่วยให้จิตใจสงบ มีความยินดีและกระชุ่มกระชวย

                “ประตูไผโหลว เป็นประตูที่เริ่มต้นขึ้นสู่เขาอายุวัฒนะ หรือเรียกง่ายๆว่า เขาอายุยืนหมื่นปี ระหว่างทางเดินขึ้นเขามีตำหนักไพหยุนเตี้ยนเป็นที่จัดงานฉลองพระชนพรรษาของพระนางซูสีฯ ปัจจุบันนี้เป็นแค่ที่เก็บบอนไซที่พระนางซูสีฯ เคยได้รับการถวายจากบรรดาขุนนาง  ทางเดินชันมากขึ้นจนถึงตำหนักส่วนบนสุดบนยอดเขา เรียกว่า ตำหนักฟอเชียงเก๋อ มีความสูง 41 เมตร ทรงแปดเหลี่ยม บางทีก็เรียกว่าเป็นเจดีย์ มีรูปพระโพธิสัตย์สถิตอยู่ด้วย มองจากตรงนี้เห็นทะเลสาปสวยมาก

              

                                                   เรือหินอ่อน                           
                 “โน่นๆ เรือหินอ่อนแน่ๆ เลย เร็วหน่อยจ้ะ มาทางนี้ ขึ้นสะพานไปถ่ายรูปกันหน่อยผมชี้ให้ครอบครัวดู แล้วก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหามุมถ่ายภาพสวยๆ “เรือหินอ่อนนี่สร้างยื่นไปในทะเลสาป เป็นเรือที่พระเจาเฉียนหลงทรงสร้างไว้ก่อนแล้ว พระนางซูสีไทเฮาสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสมบูรณ์ โดยการดึงงบประมาณจากกองทัพมาทำในสิ่งที่ถูกวิพากษ์ว่าเหลวไหล จีนจึงแพ้สงคราม
 
                 ในช่วงสมัยหนึ่งจึงมีการประนามพระนางซูสีไทเฮากันมากที่สุด แต่ถึงวันนี้ ไม่แน่ใจว่า ความคิดจะคิดกันอย่างไร เพราะว่าที่มีการนำเที่ยวและทำเงินมากมายก็เป็น พระราชวังซึ่งครั้งหนึ่งพระนางซูสีไทเฮาทรงสร้างไว้ เหมือนสมบัติที่ลูกหลานได้รับการชดใช้กรรมของเธอ

                  ผมเล่าตามที่ทราบจากเอกสารที่เคยอ่านความจริงแล้ว พระราชวังฤดูร้อนยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมาแต่เนื่องจากท่องเที่ยวกันมาทั้งวัน แค่นี้ก็เดินกันจนเหนื่อยอ่อนแล้ว ก็เห็นทีจะต้องสิ้นสุดการเดินทางด้วยเท้า แต่ลงเรือกลับไปอีกฝั่งจ้ะ

           
                
                                  เรือล่องทะเลสาบคุนหมิง                                                 
                                                             

Tags : china tour

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view