http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,000,115
Page Views16,308,782
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าแม่ฟ้าหลวงบนดอยตุง


Many  22        
  เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าแม่ฟ้าหลวงบนดอยตุง      


           
ถ้าไปเที่ยวเชียงราย แล้วไปไม่ถึงดอยตุง ว่ากันว่า นักท่องเที่ยวเหล่านั้นไปไม่ถึงเชียงราย เพราะว่าบนดอยตุงมีเรื่องราวน่าสนใจให้ไปท่องเที่ยวเพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อการศึกษาหาความรู้มากมายหลายสาขา มีทั้งด้านนันทนาการ ด้านวิชาการ การศึกษาวิจัย  การส่งเสริมอาชีพ และได้โอกาสไปเคารพกราบไหว้และบูชาพระธาตุดอยตุงสูงค่า ดูและบันทึกภาพความทรงจำแสนสวยไว้กันลืม           

นักท่องเที่ยวไทยทุกคนรู้ว่าไปเชียงรายไปได้หลายทาง(รถยนต์) และไปทางอากาศก็ได้อย่างรวดเร็ว มีเครื่องบินทุกวันๆละหลายเที่ยว สะดวกสะบายมากจริงๆ  แต่ไปทางไหนก็ไม่สะใจเท่าไปทางรถยนต์ครับ จะขับไปเองหรือจ้างเหมารถตู้ก็ได้ตามใจชอบ ไปทางจังหวัดลำปางแล้วแยกเข้าพะเยาทะลุไปถึงเชียงราย ทางหนึ่ง    อีกทางหนึ่งไปทางเชียงใหม่แล้ววกขวาไปเชียงราย ก็ได้

คราวนี้ทั้งคณะเดินทางตัดสินใจไปทางเชียงใหม่ โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพไปถึงลำปางด้วยถนนพหลโยธินแล้วแยกไปยังเชียงใหม่ระยะทางราวๆ 680 กม. พอถึงเชียงใหม่วกขวาไปเชียงราย ถ้าไปกลางวันก็อาจได้แวะท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆไปด้วย แต่ถ้าไปกลางคืนก็มุ่งดิ่งไปเลยครับ แวะเข้าปั๊มน้ำมันใช้บริการสุขาอนามัยตามชอบ และตามธรรมเนียมปฏิบัติคือแวะรับประทานข้าวต้มรอบดึก หิวหรือไม่หิวก็ต้องแวะ  ถ้าไม่แวะรับประทานซี ผิดธรรมเนียมไปเชียว

จากเชียงใหม่แล้วเลี้ยวขวาแยกไปทางอำเภอดอยสะเก็ดวิ่งยาวไปถึงเชียงรายระยะทางลาดยางอย่างดีราวๆ 180 กม. ทิวทัศน์สองข้างทางสวยงาม พอดีไปครั้งนี้ฝนตกปรอยๆ สลับกับสายหมอกขาวบางลอยระล่องโลมไร้ยอดไม้และทิวเขา มองดูด้วยความรู้สึกดีๆ สดชื่น โรแมนติกดี  นั่งเพลินๆรถชะลอตัวแล้วเลี้ยวเข้าที่จอดรถหน้าเพิงหรือร้านขายของที่ระลึก  ถึงโป่งน้ำร้อนเขตอ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย

ถึงบ่อน้ำร้อนเข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จ  ก็ต้องไปทดลองความร้อนของบ่อน้ำร้อนกันหน่อย เป็นการกระจายรายได้ให้กับคนขายไข่ไก่ ไข่นกกระทา ส่วนไข่เป็ดหาไม่ได้ครับ การเล่นสนุกๆกับการต้มไข่ทั้งหลายนี้ ช่วยให้คนเลี้ยงไก่เลี้ยงนกกระทามีอาชีพมั่นคงยิ่งขึ้น คนขายก็มีรายได้มีงานทำ ในแต่ละวันนักท่องเที่ยวต้มไข่กันไม่ใช่น้อยๆ บางทีอาจเป็นหลายพันฟองต่อเดือน การท่องเที่ยวช่วยอาชีพเกษตรกรรมด้วย จะ ยิ่งดีขึ้นอีกถ้าช่วยกันซื้อของที่ระลึกประเภทไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย 

อาหารเช้าวันนั้นเป็นไข่ต้มน้ำแร่ร้อนๆจิ้มซอสหอมๆ สั่งกาแฟขนมปังมาประกอบด้วยแจ๋วเลย ได้บรรยากาศไปอีกแบบ แบบง่ายๆสบายๆ ต่อจากนั้นการเดินทางก็มุ่งตรงไปยังจังหวัดเชียงราย แล้วมุ่งหน้าขึ้นเหนือสุดยอดในสยามที่อำเภอแม่สาย  ถึงอำเภอแม่จันเวลาใกล้เที่ยงพอดี แวะหาข้าวซอยเจ้าอร่อยมีทั้งเนื้อวัว เอ็นน่องวัวตุ๋นหรือน่องไก่ เช่นที่ถนนสายเก่าขึ้นดอยตุง มีหลายร้านไปหาเอาเองได้ง่ายๆเช่นร้านป้านาง ร้านหลอย ร้านป้าๆอื่นๆ แล้วก็ล้างปากด้วยลิ้นจี่รสดีหวานอมเปรี้ยวนิดๆ(ยังไม่ลืมต้นแน่ๆ)  หรือสับปะรดนางแลหวานฉ่ำ ระยะทางช่วงนี้ 45 กม.

จากนั้นก็มุ่งตรงขึ้นเขาสูงบนดอยตุง 16 กม ถึงดอยตุง ถ้าเลี้ยวไปพักค้างโรงแรมดอยตุงคืนละ 3-4,000 บาท ก็ต้องจองจริงๆจังๆด้วยถึงจะมีที่พัก แต่ค่าห้องพักเกินกว่าฐานะ ไปนอนฟรีดีกว่าครับ

นั่นคือไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง ตำบลแม่ไร่ กิ่งอำเภอแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่บนภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,600 ฟุต ที่นั่นเป็นสถานีที่ตั้งขึ้นเพื่อเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าทั้งโดยวิธีธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ช่วย  มีห้องฟักไข่อยู่ในกิจกรรมด้วย บ้านพักเลาะรอบเขาสูงเพียงลูกเดียว เนื้อที่สถานีเล็กๆ 140 ไร่ บ้านพักเรียบร้อยดีมาก มีกระทั่งน้ำอุ่นให้อาบ มีกระดาษชำระให้ใช้  มีเตียงนอนสะอาด หลังหนึ่ง 3 ห้อง ระเบียงยาวให้นั่งทานอาหารหรือพักผ่อนได้ บริเวณรอบๆบ้านพักมีนกยูงอินเดียเดินขวักไขว่ 

พูดถึงนกยูงอินเดียที่เห็น มีอยู่ตัวหนึ่งตัวผู้แน่ๆ เพราะว่าแพนหางอวดเหลือเกิน เกาะอยู่บนหลังคาบ้านพัก พอค่ำคิดว่าคงจะลงมานอนข้างล่างหรือตามต้นไม้รอบๆสำนักงาน  แต่จนดึกดื่นก็ยังอยู่บนนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไปอยู่บนนั้น พูดกันเล่นๆว่า สงสัยเขาจะผูกขาไว้ หรือไม่ก็ติดกาวตราช้างแน่ๆเลย   ข้อควรระวัง นกยูงจะดุมากในฤดูผสมพันธุ์ กรุณาระมัดระวัง  เคยมีคนเลี้ยงถูกตีแล้วแทงด้วยเดือยตายมาแล้ว

ส่วนที่พักของสถานีนี้ไม่ได้มีไว้ให้นักท่องเที่ยวเช่าพัก เพราะว่าเป็นบ้านพักเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ต้องทำงานบนที่ห่างไกลบ้าน แต่ได้ใช้ประโยชน์ให้ นักศึกษา นักวิจัย นักวิชาการ ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ใช้เพื่อราชการตามหน้าที่ในบริเวณนี้ แล้วก็อนุญาตให้นักท่องเที่ยวหรือกลุ่มประชุมย่อยๆได้ใช้ประโยชน์ได้ด้วย ฟรีครับฟรี ถ้าต้องการบริการอาหารเช้าเย็นสั่งทำได้เช่นกัน(อาหารเช้าราคาหนึ่ง กลางวัน เย็น อีกราคาหนึ่ง)  ส่วนใหญ่ผู้ใช้ประโยชน์ก็รู้ว่าผ้าปูที่นอนต้องซัก รีด ผงซักฟอกต้องซื้อ แรงงานก็ต้องจ้าง  งบประมาณส่วนนี้ไม่มีให้แต่อย่างใด  หลังพักจึงควรบริจาคค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้กับตู้รับบริจาคด้วย แค่การเสียสละบ้านพักให้พักกันได้ในที่ห่างไกลอย่างนี้ ก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่อย่างเหลือเกินแล้ว

วันที่มาพักที่นี่เย็นแล้ว ก่อนหลับด้วยความอ่อนเพลียยังได้ยินเสียงนกร้องกันจ้าละหวั่น ไม่รู้นกอะไรบ้าง ไก่ขันก็มี พอหลับไปได้เต็มอิ่มตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่  โอ้โฮ เสียงนกอะไรกันบ้างหนอ ที่แน่ๆเสียงนกยูงตัวบนหลังคาขันบ้าง เสียงไม่เพราะเหมือนไก่ขันเลย แต่เสียงสัตว์หลายชนิดร้องกันเพรียกไปหมด นั่นเป็นการทักทายยามเช้าของเขาหรืออย่างไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่เพียงแต่นกและไก่ ลิงค่างชะนีก็ร้องกันเป็นระยะๆ  โผล่ไปที่ระเบียงหลังบ้าน มีไอหมอกจางๆปกคลุมตามยอดไม้ พัดผ่านมากระทบผิวหนังจนหนาววูบๆ สวยงามจับใจ ไม่หนาวจนทารุณ

ตัดสินใจเดินออกจากบ้านพักไปตามเสียงนกร้อง เห็นป้ายสื่อความหมายแสดงว่ามีสัตว์ชนิดใดอยู่ทางใด เดินไปตามถนนคอนกรีตเล็กๆผ่านกรงนกนานาชนิด แยกชนิดก็มี ส่วนลิงค่างบ่างชะนีก็มีที่อยู่อย่างสวยงาม มีสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป เดินไปสักระยะได้กลิ่นหอมจรุงใจโชยมา ดอกเล็บมือนางบานเต็มกรงนกไก่ฟ้าหลังเทา สวยและหอม  ภายใต้ร่มเงาไม้ใบหนาและเขียวขจีตลอดปี แสงแดดเริ่มส่องสว่างมากขึ้นๆ นกเงียบเสียงไป ไม่รู้ว่าทำไม บางทีอาจกำลังหากินอยู่

พอตามไปดูโรงเรือนเพาะฟักไข่ ขนาดอาคารชั้นเดียวยาวราวๆ 15 เมตร กว้างราวๆ 8 เมตร มีเฉพาะห้องขนาด 4x4 เมตรเป็นห้องเพาะฟัก เพื่อช่วยให้การสืบพันธุ์พัฒนาไปได้มากขึ้น เร็วขึ้น เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ชะลอการสูญพันธุ์ได้มาก ถ้าถามว่ามากอย่างไร ตอบได้ว่าธรรมชาติของไก่ฟ้าพญาลอไข่ออกมา 6-8 ฟอง ปีหนึ่งๆจะฟักไข่เป็นตัวออกมาได้เฉลี่ย 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแม่ไก่ แต่ในจำนวน 2 ครั้งนี้ผลการฟักไข่มีประสิทธิภาพสูงถึง 70 % อาจอยู่ในป่าเลยถูกอีเห็น งู กิ้งก่า ฯกินเป็นอาหารไปเสียบ้าง เหลือเพาะเป็นตัวออกมาไม่กี่ตัว

ในจำนวนไม่กี่ตัวนั่นแหละ ยังจะถูกเหยี่ยวหรือแมวป่า เสือไฟ คาบไปเป็นอาหารอีก ก็พอดีเหลือบางตัวในแต่ละคอก โดยธรรมชาติของไก่ฟ้าพญาลออีกนั่นแหละที่ไข่เก่ง ปีๆไข่ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคมหรืออาจเลยไปถึงมิถุนายน ก็ราวๆ 4 คอกขึ้นอยู่กับอาหารสมบูรณ์ดีด้วย ดังนั้นในทางวิชาการจึงอาศัยจังหวะการที่ไก่ฟ้าพญาลอไข่เก่ง มาเป็นตัวเชื่อมให้ไข่ตลอดเวลา มีการหลอกให้ไข่แล้วเก็บไข่จริงไปเตรียมเพาะฟัก แล้วใช้ไข่ปลอมวางแทน แม่ไก่เมื่อเห็นว่าไข่ไก่ที่มีอยู่ไม่ครบจำนวน 6-8 ฟองก็จะไข่เพิ่มขึ้นๆ ทำเป้าให้ได้ คนนี่ร้ายจริงๆหลอกแม้กระทั่งไก่

ในจำนวนอีก 2 รุ่นนี้นำไปเพาะฟักด้วยวิทยาศาสตร์ที่อุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียส ผลปรากฎว่า วิทยาศาสตร์แพ้ครับ ได้ผลสู้แม่ไก่ฟักตามธรรมชาติไม่ได้เลย ได้ผลแค่ 50%  แม่ไก่ฟักเองได้มากกว่าคือได้ราวๆ 95-100%  พิสูจน์ว่าวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้เก่งกว่าธรรมชาติไปทุกเรื่อง  การเพาะฟักลูกไก่จะขาดแม่ ขาดวิถีธรรมชาติที่แม่สอนให้ใช้ชีวิต เรียกว่าหากินไม่เป็น ปกป้องป้องกันภัยและหาที่หลบภัยไม่เป็น ก็เสร็จอีก แม้เพาะฟักออกมามากแต่ตายตอนเด็กอ่อน จึงต้องมีการเตรียมการเพื่อปล่อยสู่ป่าอีกครั้ง

นั่นคือหาห้องเรียนให้เขาได้ทดลองหากินในบริเวณป่าที่ปลอดภัย จนเก่ง หากินเป็น หลบภัยเป็น พอปล่อยคืนสู่ธรรมชาติก็ไปได้สวยเลย เรียกว่ามีดีก็มีเสียเป็นธรรมดาหรือธรรมชาติ สัตว์อื่นๆก็เช่นกันที่เห็นก็มีเก้ง กวางป่า สมัน ฯ  ตรงนี้แหละช่วยเพิ่มปริมาณไก่ฟ้าพญาลอได้มากกว่าธรรมชาติ   แต่ละชนิดของสัตว์ป่าที่เพาะเลี้ยงได้จึงน่าสนใจ อาจทำเชิงพาณิชย์

ที่นี่ยังเป็นโรงเรียนของเจ้าหน้าที่ได้มาศึกษาหาความรู้และสร้างสรรค์ประสบการณ์ในการเพาะเลี้ยง ถ้าเก่งกล้าพอก็จะได้ไปแนะนำส่งเสริมให้เอกชนหรือชาวบ้านเพาะเลี้ยงจำหน่ายได้ราคาดี เพื่อว่าจะได้ไม่ต้องไปล่าจากในป่าหรือรับซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ยิ่งไปเห็นเขาเก้งกวาง เขี้ยวเสือ หมี หนังเสือไฟสวยๆ ฯลฯ มากมายก่ายกองที่ท่าขี้เหล็กด้วยแล้วยิ่งใจหาย นี่กว่าประเทศเหล่านี้จะรู้เท่าถึงการณ์ก็แทบไม่มีอะไรเหลือแบบประเทศไทยไปแล้ว ในร้านอาหารเมืองชายแดนจึงยังมีเนื้อเก้ง กวาง หมูป่า ฯขายกันมาก  

กว่าจะเดินรอบกรงสัตว์ป่าน่ารักแล้วคิดตามไปด้วย ว่าน่าสนใจที่จะเผยแพร่ให้ประชาชนได้รู้ว่า การเพาะเลี้ยงเป็นวิธีหนึ่งในการอนุรักษ์สัตว์ป่า ลดอัตราเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ในขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มปริมาณเชิงธุรกิจได้ดี ทำได้ไม่ยากอะไร บรรดาไก่หรือนกทั้งหลายก็เหมือนวัวเหมือนควาย เพาะเลี้ยงขยายปริมาณได้ คัดคุณภาพพันธุกรรมให้ดีขึ้นตามที่มนุษย์ต้องการก็ทำได้  ขึ้นอยู่กับการกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้ และการจัดการที่เหมาะสม

วันนั้นเดินจนรอบแล้วกลับมาดื่มกาแฟ ไข่ลวก แถมกินข้าวต้มมื้อละ 50 บาท ที่ร้องขอให้แม่บ้านของเจ้าหน้าที่ช่วยเป็นภาระให้อย่างมีความสุขกายสบายใจ ภายใต้บรรยากาศแสนหวานของร่มเงาศาลาพักน่ารักๆ หมอกยังฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ  การตุนเสบียงไว้เดินทางตามรายการที่ตั้งใจว่าจะย่ำสันดอยตุงให้สนุกและไปให้ครบทุกที่เลย โดยไม่ลืมหยอดสินน้ำใจใส่ตู้บริจาค ไม่มากมายอะไร หัวละประมาณ 100 บาท

ร่ำลากับสถานีด้วยความอาลัยอาวรณ์ ถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึก ส่วนใหญ่บ่นว่าอยากพักค้างต่ออีกสักคืนสองคืน มีความสุขกับบรรยากาศและส่ำสำเนียงเสียงสัตว์ป่านานาชนิด รถตู้นำคณะเดินทางต่อไปอีก 17 กม.  ถึงระดับความสูงจากน้ำทะเลปานกลาง 5,000 ฟุต สูงสุดในย่านนี้ ตลอดระยะทางที่ขึ้นเขาไปผ่านเมฆหมอกทุกระยะ หนาบ้างจางบ้าง การขับรถจึงต้องเปิดไฟหน้าและระมัดระวังให้มาก มิเช่นนั้นจะไปไม่ถึงยอดดอย มีถนนไปถึงยอดสุดได้ ชันไปหน่อย ถนนก็แคบไปหน่อย 

ดังนั้น เพื่อให้ได้บรรยากาศ และประหยัดกำลังรถยนต์ คณะจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปตามบันไดนาค 153 ขั้น ไม่เหนื่อยและสดชื่นอีกต่างหาก ระหว่างที่เดินไปก็เคาะระฆังที่แขวนเป็นราวไปด้วยสนุกดี พอไหว้พระธาตุดอยตุงอันเป็นพระธาตุคู่ที่แปลกกว่าที่ไหนๆในประเทศไทย เดินเวียนรอบองค์พระธาตุเอามงคลใส่หัว 3 รอบ แล้วกราบพระสังค์กระจายองค์โต ลืมความทุกข์หมดสิ้น ลาก่อนความเศร้าหมองทั้งปวง ลาก่อนความทุกข์กังวลใจทั้งมวล  วันนี้มีแต่ความดีงาม ความสวยงาม และธรรมชาติสวยงามบรรจุเข้าในคลื่นสมองและถ่ายเทความรู้สึกอื่นๆทิ้งไปเสียสิ้น

เดินกลับลงมาอีก 153 ขั้น สบายมาก พอดีมีกลุ่มเมฆฝนโปรยลงมาอีก ชื่นใจกันทั่วหน้า ผ่านช่วงสุดท้ายของบันไดนาคมีชาวเขาเผ่าอีก้อหรืออาข่า วางแผงลอยขายสินค้าพื้นเมือง ประเภทของที่ระลึกจากชาวเขา สัญลักษณ์ของเชียงราย มีกระทั่งผลไม้ท้องถิ่นลิ้นจี่พันยังไม่ลืมต้น นี่คือผลเสียของการเร่งเก็บเกี่ยวเพราะว่าอยากได้เงินดีเร็วๆ  จึงทำให้ได้รับความไม่ประทับใจกับรสชาดของลิ้นจี่เชียงรายไปอีกนาน บางทีต้นฤดูกาลลิ้นจี่อาจไม่มีใครรักเชียงรายก็เพราะเหตุนี้ โลละ ยี่สิบะๆถูกแต่เปรี้ยวนะจ๊ะ

ก่อนจากก็ตามธรรมเนียม ต้องทำตัวเชยๆหน่อย ถ่ายภาพบันทึกความทรงจำไว้ดูเวลาไปไม่ไหวหรือเมื่อว่างเว้นจากภาระกิจ หรืออวดพรรคพวกให้ได้รู้ว่าที่ไปนั้นสวย สงบ ได้ความรู้นานาชนิด และน่าสนใจเพียงใด ที่แน่ๆไม่มีใครหวังจะอวดความหล่อหรือสวยอีกเลย ก็จะไปอวดได้ยังไงครับ ไม่อ้วนก็แก่กันเกือบทุกคนเลย ทัวร์คณะพันปีก็ยังงี้แหละครับ 

(สนใจพักค้างที่สถานีฯติดต่อส่วนวิจัยสัตว์ป่า ล่วงหน้าเพื่อขอใช้บ้านพักรับรอง โทร. 9407159 และ5614292-3  ต่อ 719 กลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า )

Tags : wildlife

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view