http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,006,296
Page Views16,315,309
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ต้นฝนหน้าจะปลูกป่า เตรียมความพร้อมอย่างไร

ต้นฝนหน้าจะปลูกป่า เตรียมความพร้อมอย่างไร

            เมื่อคิดจะปลูกป่าไม่ว่าไม้สักหรือไม้ยูคาลิปตัส การกำหนดแผนงานที่เหมาะเจาะ ตรงตามหลักการปลูกต้นไม้ ไม่ต้องถึงกับตรงหลักวิชาการป่าไม้นักก็ได้ ใครที่ปลูกมะม่วงมะขามได้เป็นต้นจนออกผล ก็ปลูกป่าไม้ได้ง่ายๆ แต่ถ้าวางแผนงานดีผลของงานจะสัมฤทธิ์ผลตามวัตถุประสงค์ และมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมด้วยการคิดถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจัยหลายๆปัจจัยซึ่งมีความสำคัญต่อการปลูกป่าสำเร็จได้แก่ การเตรียมพื้นที่ การเตรียมกล้าไม้ การปรับปรุงดิน การปลูกต้นไม้ลงดิน และการบำรุงภายหลังการปลูก และมีเงิน

           ขั้นตอนแรกทีเดียว จะต้องคัดเลือกชนิดไม้ที่จะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ดินนั้นๆ เช่นดินลูกรัง ดินเป็นทราย ดินเสื่อมโทรมมาก ก็ควรจะปลูกไม้ยูคาลิปตัสหรือไม้โตเร็วอื่นๆ แต่ถ้าดินดีเป็นดินร่วนปนทราย ดินเหนียวปนดินร่วน อยู่ในถิ่นที่ควรปลูกไม้สักได้ก็ต้องปลูกไม้สัก ไปปลูกไม้ยูคาลิปตัสแทนก็จะได้ประโชน์น้อยกว่า ซึ่งจะต้องคำนึงถึงตลาดไม้ ราคาไม้ ความต้องการของตลาดประกอบด้วย เป็นต้น

             การเตรียมกล้าไม้ภายหลังการตัดสินใจว่าจะปลูกไม้อะไรแน่แล้ว กล้าไม้ที่เตรียมได้คัดเลือกพันธุ์ดีจากไหน ผ่านการตรวจสอบหรือรับรองคุณภาพจากหน่วยงานใด จะเตรียมกล้าไม้จากเมล็ดที่คัดพันธุ์ หรือจะทำกล้าไม้จากการปักชำ แต่มีข้อเตือนใจผู้ปลูกป่าว่า ต้นไม้ปลูกไปแล้วใช้เวลานานหลายปี(๕-๑๕ ปี)ปลูกไปแล้วด้วยพันธุ์ไม่ดีก็แก้ไขยาก การเติบโตไม่ดี ผลผลิตต่ำ ผลตอบแทนก็ต่ำ ใช้พันธุ์ดีเสียค่ากล้าไม้แพงหน่อย แต่ได้ผลมากกว่ามาก ก็น่าจะคิดนะครับ

              เช่นปลูกด้วยกล้าไม้ยูคาลิปตัสซื้อกล้าราคาถูก ปลูกไปแล้วเติบโตไม่ดี ได้เนื้อไม้ต่ำ ตัดครั้งแรกปีที่ ๕ ได้ผลผลิตต่ำ ถ้าต้องปล่อยให้แตกหน่อเพื่อตัดรอบที่ ๒-๓-๔ รอบละ ๔ ปี แต่ผลผลิตต่ำ ก็เสียรายได้ไปไม่น้อย ถ้าไถทิ้งแล้วเปลี่ยนพันธุ์ใหม่ก็เสียโอกาสและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงควรยอมเสียมากตั้งแต่แรกเลยดักว่า ในบั้นปลายไม้ที่ได้มาก ขายรอบต่อๆไปก็เกินคุ้มเสียอีก

              ประสิทธิ์ เกิดโต หัวหน้าสวนป่าคลองตะเกรา องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กล่าวว่า ปีพ.ศ.๒๕๓๖ ได้ปลูกป่าไม้ยูคาลิปตัสพันธุ์ดีจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เรียกว่าพันธุ์ T.5 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดีที่ได้ต้นแม่มาจากตะกั่วทุ่ง โดยดร.สมคิด ศิริพัฒนดิลก คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(ลำต้นสีขาว)จำนวน ๒๐๐ ไร่ หลังการปลูกบำรุงสวนป่าด้วยการดายวัชพืช(รถไถ) ๓ ครั้ง ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร ๑๕-๑๕-๑๕ ปีละ ๒ ครั้งๆละ ๒๐และ๔๐ กรัม

               ตรวจวัดเมื่ออายุ ๒ ปี ๖ เดือน ได้ความเจริญเติบโตทางเส้นรอบวงระดับอก ๒๕.๘๓ ซม. ความสูงสุดยอด ๑๐.๓๑ เมตร เปรียบเทียบกับไม้ยูคาลิปตัสที่ปลูกด้วยการเพาะเมล็ดธรรมดา อายุ ๒ ปี ๖ เดือน ความเจริญเติบโตทางเส้นรอบวง ๑๘.๙๘ ซม. ความสูงสุดยอด ๗.๕ เมตร เมื่อเทียบกันเห็นได้ชัดเจนว่าอัตราการเจริญเติบโตจากกล้าที่เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อดีกว่ามาก เมื่อเทียบกลับเป็นน้ำหนักพบว่า สวนป่าไม้ยูคาลิปตัสจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออายุ ๒ ปี ๖ เดือนมีน้ำหนักถึงต้นละ ๖๖ กก. เฉลี่ยเติบโตปีละ ๒๖ กก/ต้น มีความสม่ำเสมอของขนาดต้นมากกว่า ๘๐ % แปรเป็นน้ำหนักเมื่อครบ ๕ ปี จำนวน ๑๖๐ ต้น/ไร่ จะได้น้ำหนักรวม ๒๐,๘๐๐ กก/ไร่(๒๐.๘ ตัน/ไร่) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยผลผลิตไม้ยูคาลิปตัสจากการประเมินของ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งประเมินไว้ ๑๔,๒๔๐ กก/ไร่(๑๔.๒๔ ตันไร่) ตัดสินใจเองได้นะครับ

             ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมพื้นที่ปลูก เริ่มตั้งแต่การแผ้วถางพื้นที่ด้วยแรงคนหรือเครื่องจักรก็ตาม จะต้องไม่ก่อนเวลาปลูกมากนัก เพราะว่าหากเตรียมการล่วงหน้านานเกินไปวัชพืชก็จะรกเร็ว ต้องดายใหม่ก่อนปลูกอีกครั้งเสียเงินสองต่อ หรือถ้าเตรียมที่ดินล่าช้าเกินไป ฝนตกดีแล้วแต่ยังเตรียมพื้นที่ไม่เสร็จ ก็กลายเป็นปลูกปลายฝน สูญเสียโอกาสที่ดีเพราะต้นไม้จะเริ่มเจริญเติบโตปลายฤดูร้อน(เมย.) เรียกว่า ต้องปลูกให้ทันให้ได้ในต้นฝน เป็นดีที่สุด

              แต่ก็มีการปลูกป่าก่อนฤดูฝนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาวัชพืชแรง แรงงานหายากเพราะว่าตรงกับฤดูกาลเพาะปลูกทั่วไป ด้วยการใช้สารอุ้มความชื้นเข้าช่วย หรือใช้การรดน้ำช่วยด้วย ขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ปลูกป่าเป็นอาชีพแถวสนามชัยเขต และท่าตะเกียบมากเป็นพิเศษ ก็มีผู้ยืนยันว่าได้ผล

            ต่อมาลงมือปลูกด้วยการเตรียมหลุมปลูก ซึ่งจะต้องพิถีพิถันหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้กล้าไม้อย่างไร หรือความปราณีตในการปลูก ถ้าปลูกอย่างปราณีตก็ต้องเตรียมหลุมปลูกดี ผสมดินรองก้นหลุมพร้อมด้วยสารกันปลวก สารอุ้มความชื้น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมี เว้นแต่จะปลูกเอาง่ายๆถูกๆก็ปลูกกันไปเลย ฟันจอบเดียวแล้วปลูกซึ่งวิธีการนี้กรมป่าไม้ปลูกกันมานาน ก็ได้ผลสำเร็จพอควร

             พอปลูกไปแล้ว การบำรุงสวนป่าหลังการปลูกจะมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ปลูก หวังผลได้เต็มที่ก็ต้องบำรุงทุกระยะอย่างใกล้ชิด เช่น ดายวัชพืชด้วยแรงคนหรือเครื่องจักร ๒-๓ ครั้ง ใส่ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยคอก ๒-๓ ครั้งตามหลังการดายวัชพืช การปลูกซ่อมต้นที่ตาย ถ้าเป็นไม้สักก็ต้องมีการตัดแต่งต้นในช่วงแรกๆ แต่ถ้าเป็นไม้ยูคาลิปตัสก็ไม่จำเป็น เป็นต้น เพื่อให้ได้ต้นไม้ที่เติบโตเร็ว คุณภาพดี

              ประการสำคัญ งบประมาณที่จะทำงานต้องพร้อมและตรงกับช่วงเวลาที่จำเป็นต้องใช้ หากไม่มีเงินในช่วงดายวัชพืช และใส่ปุ๋ย ต้นไม้ก็อาจจะถูกครอบงำจนแกร็นไปได้ หากปฏิบัติได้ดังที่ได้กล่าวมาพอสังเขป ผู้ปลูกป่าก็น่าจะเป็นผู้ที่พร้อม และหวังผลการปลูกป่าได้ใสๆ
             มีนักวิชาการป่าไม้คนหนึ่ง ศึกษาจบปริญญาตรีจากคณะวนศาสตร์ รุ่นที่ ๕๖ ไม่รับราชการแต่กลับไป ยังบ้านเกิดที่อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบอาชีพตามที่ได้ร่ำเรียนมา คือปลูกป่าไม้ยูคาลิปตัส คามาลดูเลนซิส คุณบุญเรือน สาธุชาติ อยู่บ้านเลขที่ ๑๓ ม.๓ ต.ท่าตะเกียบ ติดต่อได้ที่โทร ๐๑-๓๒๑-๑๙๑๙ ปลูกป่าไม้ยูคาลิปจากกล้าไม้ที่ผ่านการปักชำจากพันธุ์ดี เนื้อที่ ๕๐๐ ไร่

             คำยืนยันจากผู้ปลูกในท้องถิ่น ผู้ประสบผลสำเร็จในวิชาชีพ ความมั่นใจในผลผลิตและการตลาด มีความหนักแน่นพอเพียงหรือไม่ที่จะพิจารณาได้ว่า หากจะปลูกป่าเป็นอาชีพอย่างจิรังยั่งยืน ก็ควรเริ่มต้นได้ด้วยความพร้อมทั้งประสบการณ์และวิชาการป่าไม้ โดยเฉพาะ คุณประสิทธิ์ เกิดโต และคุณบุญเรือน สาธุชาติ น่าจะเป็นผู้ที่ช่วยให้การกระจายความรู้ มีความเป็นไปได้สูง ในสวนป่าภาคเอกชน ช่วยกันนะครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Tags : Eucalyptus

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view