ตลาดเก้าห้อง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

                                  ตลาดเก้าห้อง

         ด้วยเงื่อนไขของวันเดียวเที่ยวที่ไหนดี ระยะทางไม่ไกลนัก ใช้เวลาเดินทางไม่ยาวนาน ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง มีอาหารรองรับ ซื้อหาของฝากคนทางบ้านได้ และได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา  วิถีชีวิตชุมชนอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปแล้ววันนี้ 
         ตลาดเก้าห้อง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 เทศบาลตำบลบางปลาม้า อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี 72150 เป็นเป้าหมายใหม่ในการเดินทางวันนี้ ก็เลยอยากเสนอแนะให้รู้จักก่อนว่า อำเภอบางปลาม้าตั้งอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำท่าจีน หรือบางทีก็เรียกกันว่าแม่น้ำสุพรรณบุรี 

                  

         จะด้วยเพราะว่าแม่น้ำช่วงอำเภอนี้หรือไม่ไม่แน่ชัด คงจะมีปลาม้ามากจนถึงกับเรียกว่าบางปลาม้า ไอ้เจ้าปลาม้าวันนี้หายาก ราคาแพงมาก รสชาติอร่อย เนื้อนิ่ม และมีรูปหน้าส่วนหัวคล้ายหน้าม้า จึงเรียกว่าปลาม้า ผมเคยกินเพราะว่าแม่ผมนึ่งให้เตี่ยกินบ่อยๆ เหมือนกินปลากะพงขาว รูปร่างก็ใกล้เคียงกัน 
          ส่วนที่เรียกกันว่าตลาดเก้าห้อง เห็นจะเป็นการเรียกชื่อตามบ้านเก้าห้องของขุนกำแหงฤทธิ์ ตั้งอยู่ข้างวัดลานคา ริมน้ำฝั่งซ้ายแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็นเรือนไทย ฝาประกันหรือฝาเฟี้ยม ใต้ถุนสูง ภายในบ้านหลังดังกล่าวแบ่งห้องเป็นเก้าห้อง 

                  

           แปะฮง(บุญรอด เหลียงพานิช) ได้แต่งงานกับหลานสาวขุนกำแหงฤทธิ์ ลงหลักปักฐานอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านขุนกำแหงฤทธิ์ ประกอบอาชีพโรงสีข้าว พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างตลาดที่ต่อมาเรียกชื่อว่า ตลาดเก้าห้อง เมื่อปีพ.ศ.2465  แบ่งออกเป็นตลาดบน ตลาดล่าง และตลาดกลาง ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีอยู่มากมาย 

                
           ก็อย่างว่า เมื่อครั้งในอดีต เขตเมืองสุพรรณบุรีได้ชื่อว่าเป็นเมืองเสือปล้นฆ่าจนคนรวยทรัพย์เกรงกลัวกันไปทั่ว พ.ศ.2477 แปะฮงจึงได้สร้างหอดูโจร เอาไว้ส่องดูโจร โดยอาคารหลังนี้เป็นการก่ออิฐถือปูน  กว้าง 3x3 เมตร สี่เหลี่ยมด้านเท่า ความสูงเท่ากับตึก 4 ชั้น แต่ละชั้นเจาะรูขนาด 3 นิ้ว เอาไว้แหย่ปากกระบอกปืนเข้าไปได้ด้วย 

                 

           ในอดีตตลาดเก้าห้องเป็นชุมชนที่เจริญด้านการค้าขายมาก มีร้านค้าตั้งแต่เย็บปักถักร้อย ร้านขายของชำหรือโชวห่วย ร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ร้านขนมหวาน ร้านกาแฟ ร้านขายอะหลั่ยเรือ ร้านแหอวนตาข่ายดักปลา ไปจนถึงร้านขายเครื่องจันอับ ขนมเปี๊ยะ ขนมกง ขนมถ้วยฟู กระหรี่ปั๊บ เพียบ  ชาวตลาดจึงกลายเป็นผู้มีอันจะกินเป็นส่วนใหญ่ และพิสูขน์ได้แล้วว่า ความรวยไม่ได้ช่วยความเหงาเอาเสียเลย 

                   

            วันนี้ ยังมีเจ้าของห้องเช่าเซ้งอยู่อาศัยกันหนาแน่น เพียงแต่ความเจริญของตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เรือพายเรือยนต์แทบไม่มีแล่นผ่านเหมือนในอดีต แต่กลายเป็นรถยนต์และมอเตอร์ไวด์ อย่างไรก็ดี ชาวตลาดยังรำลึกถึงวันวานกันอยู่ และอยากเห็นผู้คนมาเดินตลาดอีกครั้ง จึงได้เกิดสำนึกรักบ้านเกิด ช่วยกันฟื้นชีวิตตลาดอีกครั้ง
             ผมเดินวนเวียนไปยืนดูอาซิ้มขายข้าวเกรียบว่าว ทั้งๆที่รูปกาลแล้วอดีตท่าจะขายทอง อาซิ้มยังนุ่งผ้าถุง ใส่เสื้อยุคสมัยในอดีต เดินไปอีกมุมมีกาแฟโบราณ โต๊ะเก้าอี้และการตกแต่งร้านเก๋เชียว ผมเลือกที่นั่งในมุมที่จะได้เห็นผู้คนและแม่ค้ายุคใหม่แต่ฝีมือยังเก่า "โอวยั้วแก้วเจ๊" 

                  
  
             ผมได้กาแฟสีดำปี๋ นมข้นหวานสีนวลอยู่ก้นแก้ว ผมนั่งถือช้อนกาแฟเล็กๆ "คน"อย่างเร็วด้วยนิ้วมือ ตามแบบฉบับเดิมๆ เสียงช้อนกระทบแก้วดังกริ๋งๆๆๆ สีของกาแฟเปลี่ยนไป พอยกซดโฮกหือ ขมอมหวานมันอีกต่างหาก สะใจโก๋แก่ๆ จริงๆ

                                          
                                                                       
 
             เดินวนไปอีกที่เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเล็กๆ มีของใช้ไม่สอยเก่าๆหลายหลากชนิด ชวนให้รู้ว่า อดีตเป็นอย่างไร วันนี้เป็นอย่างไร อีกร้านเป็นของชำร่วยกระจุ๋มกระจิ๋ม น่ารัก ตกแต่งร้านเท่เลย ต้องยอมรับว่าเป็นตลาดที่เก่าเก็บมานาน น่ามาเดินชมเล่น และแวะกินอาหารหวานคาวได้อย่างเบาๆ ขากลับซื้อของไปฟากทางบ้านได้อีกด้วย เยี่ยม 
                   

             การเดินทางไปตลาดเก้าห้อง ถ้าไปจากกรุงเทพ-นครปฐม-อู่ทอง-สวนแตง-ตลาดเก้าห้องมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ส่วนระยะทางก็ทางประมาณ  180 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.เศษๆ แต่ถ้ามาจากกรุงเทพ-บางบัวทอง-บางปลาม้า-ตลาดเก้าห้อง  ระยะทางประมาณ 150 กม. เวลาเดินทาง 1.40-2.30 ชม ถึงปลาปลาม้าละก้อ ดูป้ายบอกทางได้เลย ไม่ยาก