http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,960,559
Page Views16,266,894
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จากดำเนินสะดวก-อุทยานหุ่นขี้ผึ้งไทย-ภาพเขียนวัดคงคาราม

จากดำเนินสะดวก-อุทยานหุ่นขี้ผึ้งไทย-ภาพเขียนวัดคงคาราม


                 จากดำเนินสะดวก-อุทยานหุ่นขี้ผึ้งไทย-ภาพเขียนวัดคงคาราม

          วันเดียวเที่ยวที่ไหนดี ปีนี้ ปีแห่งภาวะเศรษฐกิจล่มสลาย แต่ทุกคนต้องพักผ่อนหย่อนใจ ดังนั้น จึงต้องใกล้ ใช้เงินน้อย และไปได้หลายที่ จะได้คุ้มค่าการท่องเที่ยวแบบครอบครัว  บนเส้นทางท่องเที่ยวดั้งเดิมอย่างตลาดน้ำดำเนินสะดวกโด่งดังและเก่าแก่ เดี๋ยวนี้ไปทั้งทียังมีอุทยานหุ่นขี้ผึ้งเอย  วัดคงคารามเอย พระราชวังสนามจันทร์เอย  ล้วนอยู่ในเส้นทางเดียวกัน  จนไปสิ้นสุดที่แวะเข้าไปกราบไหว้องค์พระปฐมเจดีย์แล้วตบท้ายด้วยอาหารสารพัดชนิดในบริเวณองค์พระ ก่อนเดินทางกลับบ้านอย่างอิ่มใจ อิ่มบุญและอิ่มสุข


                                    

           ต้องยอมรับว่า ตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นตลาดน้ำที่เก่าแก่และโด่งดังไปทั่วโลก เป็นที่สุดของตลาดน้ำเมืองไทย มีระเบียบ เรียบร้อย สงบ สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ และได้เห็นนักท่องเที่ยวหลากหลายเผ่าพันธุ์มาเดินปะปนกัน ยิ้มให้กัน มองหน้าสบตากันและกัน บางทีก็ร่วมลงเรือท่องเที่ยวแม่น้ำลำคลองด้วยกัน ดูมีสีสันของสะมพันธไมตรีฉันท์มิตรกันทุกคน เม็ดเงินกระจายเต็มไปทุกตารางนิ้ว คนไทยได้ประโยชน์เต็มๆเลยใช่ไหม? 

                                    

           ถ้าย้อนอดีตไปแล้วจะพบว่า ตลาดน้ำดำเนินสะดวกมีตำนานที่เล่าขานกันมายาวนานว่า เดิมทีเดียว การสัญจรทางน้ำมีความสำคัญที่สุด แม่น้ำลำคลองคือเส้นหัวใจสายสำคัญ แต่ว่าในการเดินทางติดต่อระหว่างจังหวัดราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงครามกลับเป็นไปด้วยความยากลำบากมาก ไม่มีแม่น้ำลำคลองตามธรรมชาติเชื่อมต่อกันเลย จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้โปรดกรุณาให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์(ช่วง บุญนาค) เมื่อพ.ศ.2409 ให้ขุดคลองดำเนินสะดวกเพื่อเป็นคลองเชื่อมต่อการสัญขรทางน้ำ พร้อมกับมีการขุดคลองซอยทั้งสองฝั่งคลองดำเนินสะดวกมากมาย ชาวบ้านก็มีน้ำถึงทุกที่ดิน สวนผลหมากรากไม้ก็เต็มไปทุกขนัด ผลผลิตก็ทะยอยออกมามากขึ้นๆ 


                            


           พอมีคลองขุด มีน้ำไหลระหว่างบางนกแขวกกับเมืองราชบุรี ช่วงแรกเรียกกันว่าคลองลัดไปราชบุรี ต่อมาด้วยสำนวนคนราชบุรีชอบพูดสั้นๆ ก็เลยกลายเป็นคลองลัดพลีไปในที่สุด มีคลอง มีน้ำ ก็มีเรือใส่สินค้าจากสวน จากทะเล จากนาข้าว ต่างก็เอามาแลกเปลี่ยนกันในคลองนี้ เป็นตลาดน้ำที่มีแต่ชาวนาชาวสวนใส่เสื้อผ้าสีเข้มๆ สวมงอบงดงามมาก พายเรือแลกเปลี่ยนสินค้ากันควักไขว่ การสัญจรสะดวกก็เลยเรียกกันว่า ตลาดน้ำดำเนินสะดวก  


    

            ต่อมาราวๆ ปีพ.ศ.2510 เริ่มมีการหลบจากคลองใหญ่เข้าไปค้าขายกันในคลองซอย และมีนักธุรกิจหัวใส ได้นำพาเอาฝรั่งมังค่ามาเที่ยวตลาดน้ำ จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก กลายเป็นแม่ค้าแม่ขายพายเรือกันเพื่อค้าขายของกินจำพวกผลไม้ไทยๆ ขนมไทยๆ อาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยวเรือ ผัดไทย เป็นสรรพนานาอาหารและของฝากมากมายหลายหลาก เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดนักธุรกิจนำเที่ยว เกิดนักธุรกิจการค้าขาย มีกระทั่งแม่ค้าเดินขายของตั้งของที่ระลึกจนถึงยาสมุนไพรเช่นน้ำมันเหลือง ฯลฯ 


          

             ผมเองเคยพาครอบครัวเดินทางไปท่องเที่ยวมานานนับสิบๆปีแล้ว ลูกๆและแม่บ้านล้วนชื่นชอบที่ได้ไปเห็นการค้าขายบนฝั่ง ในน้ำ นั่งเรือเที่ยวไปใต้ร่มไม้ในคลองที่น้ำใสแจ๋ว ลมเย็นมีเกร็ดน้ำกระเด็นใส่ไปตลอดทาง ได้เปลี่ยนบรรยากาศจำเจในบ้าน ได้คลายครียดจากการงานและการเรียน ได้กินอาหารหวานคาวแล้วยังซื้อของติดมือกลับไปกินที่บ้านต่ออีก เป็นความสุขสรรค์ที่ยังจดจำกันได้ดี 

                      

             แต่วันนี้ ผมอายุ 61 ปีแล้ว หมดภาระหน้าที่การงาน มีเวลาเหลือก่อนตายอีกหลายปี แก้เหงาด้วยการเปิดเว็บไซท์แก้เหงา กลายเป็นหน้าที่ที่ต้องออกล่าหาข้อมูลและรูปถ่ายมาเขียนมาโพสท์ ขืนขี้เกียจเหมือนหมูเอาแต่นอนละก้อ เว็บล่ม ผมก็เลยต้องลุกขึ้นมาแล้วออกเดินทางไปท่องเที่ยวๆๆๆ เพื่อที่จะได้เรื่องและรูปมาเขียนรับใช้คุณท่านทั้งหลายด้วยหัวใจจดจ่อ ตายไม่ได้!!


                         
    
              ผมตัดสินใจขับรถยนต์คันเก่าออกจากบ้านที่กรุงเทพตั้งแต่ไก่โห่ 06.00 น.เลย ขับช้าๆไปตามเส้นทางท่องเที่ยว จากกรุงเทพผมเลี้ยวออกถนนสายปิ่นเกล้าพุทธมณฑล มุ่งสู่นครชัยศรี ผ่านนครปฐมไปลงจนใกล้สี่แยกบางแพ อำเภอโพธาราม ผมเลี้ยวซ้ายเข้าไปในถนนสาย บางแพ-อัมพวา(325) ระยะทางช่วงนี้ราวๆ 28 กม.ผ่านตลาดดำเนินสะดวก ข้ามสะพานไปนิดเดียวก็เลี้ยวขวาเข้าซอยที่มีป้ายใหญ่ว่า ตลาดน้ำดำเนินสะดวก 1 กม.ก็ถึงจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมลงไปเดินชมและซื้อหาของกินและของฝาก


                        



              สองฝั่งถนนในซอยนี้ วันนี้ไม่ได้เป็นสวนเปลี่ยวมีแต่สวนมะพร้าว มะม่วงอย่างแต่ก่อนที่ไหนกันเล่า แต่มีสถานีให้รถตู้ รถยนต์ปรับอากาศ รถเก๋ง ฯลฯ จอดเพื่อส่งนักท่องเที่ยวลงไปใช้โอกาสอันแสนสุขให้เต็มอิ่ม มีโรงรถใหญ่โต มีร้านค้าของฝากมากมายหลายหลากชนิดจนพรรณาไม่ไหว เรียกว่าเป็นตลาดน้ำที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ริมถนนรนแคมมีทั้งนักท่องเที่ยวและนักขาย ไกด์ เดินปะปนกันไป บ้างก็กำลังเสนอสินค้า บ้างก็กำลังจ่ายเงิน บ้างกถ่ายรูปให้กับพรรคพวก กิจกรรมการท่องเที่ยวมีมากมายและมีสีสันอย่างน่าทึ่งและน่าอัศจรรย์ 


                          
                 

               ในคลองลัดพลี มีเรือพาย(ห้ามติดเครื่องยนต์)พานักท่องเที่ยวล่องไปล่อมา ส่วนเรือยนต์ก็ห้ามติดเครื่องต้องใช้พายเหมือนกัน ควันจากท่อไอเสียมันคือมลภาวะเป็นพิษอย่างใหญ่หลวง จึงต้องมีการตกลงกันว่า ห้ามติดเครื่องยนต์ตลอดคลอง เว้นแต่เมื่อพ้นเขตที่ห้ามไปแล้ว แต่เสียงพูดคุยกันบ้าง โทรศัพท์ดังบ้าง มีคนรับและพูดคุยเสียงขะโหมงโฉงเฉงก็มี ต่อรองสินค้ากันก็มี ตะโกนเรียกเพื่อจะขายสินค้าก็มี จนเพรียกไปทั้งคลอง 


                        

               ผมเดินถ่ายรูปไปเรื่องๆ แวะลงไปนั่งริมคลองแล้วสั่ง แห้งหนึ่งต้มยำหนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าแก่หง่อมเลย(คนขาย) อิ่มจนแทบลุกไม่ขึ้น ผมเดินโซเซไปนั่งร้านกาแฟสดเก๋ๆ ต่อ 1 แก้ว ผมนั่งนึกดูว่าได้เรื่องและได้รูปพอเพียงแล้วผมก็เดินทางต่อ 
               ผมขับรถกลับไปทางเดิมที่มาเมื่อเช้า ผมแวะไปชมอุทยานหุ่นขี้ผึ้ง ผู้สูงอายุยกเว้นค่าเข้าชมเฉพาะเทศกาลเท่านั้น ผมก็เลยจ่ายไปตามระเบียบ แฮะๆ บริเวณที่เดินเข้าไปยังอาคารโชว์หุ่นสวยงามมากอย่างกับรีสอร์ทหรู ร่มเงาแมกไม้ใบบังช่วยให้ไม่ร้อน มีเด็กนักเรียนจากกรุงเทพกลุ่มใหญ่เดินกันเต็มไปทั้งบริเวณ หุ่นขี้ผึ้งปั้นได้เหมือนจริงมาก การตกแต่งห้องหับสวยงามและสมจริง เหมือนอย่างกับว่า ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ 

          



         

               เมื่อผมได้เรื่องและรูปแล้ว ผมก็ออกเดินทางต่อไปยังวัดคงคาราม วัดกลางชุมชนชาวมอญ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งมีเรื่องเล่าย่อๆว่า อพยพมาพึ่งบรมโพธิสมภารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1  เดิมทีวัดนี้ชื่อ “วัดกลาง” ภาษามอญเรียกว่า “เภียโต้” มีความหมายอยู่สองนัยด้วยกัน คือ เป็นศูนย์กลางของชุมชนและเภียโต้เป็นชื่อวัด ต่อมาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดพระราชทานผ้ากฐินหลวงที่วัดนี้หลายปี และได้พระราชทานนามใหม่เป็น “วัดคงคาราม” 

   
              

               มีพระรามัญจากเมืองหลวงซึ่งมีความรู้ความสามารถและมีคุณวุฒิมาเป็นสมภาร ฝ่ายคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะใหญ่ได้ปกครองวัดตามฝั่งแม่น้ำแม่กลองทั้งสองฝั่ง วัดนี้จึงได้เป็นวัดเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายรามัญนิกาย แขวงเมืองราชบุรี และเจ้าคณะได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูรามัญธิบดีถึง 6  
               บริเวณวัดช่วงริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองปลูกต้นจันไว้นานนับอายุไขและเล่าเรื่องได้ว่า เก่าแก่ กุฏิเป็นอาคารใต้ถุนสูงเรือนไทยใหญ่ยาวเก้าห้อง ฝาเฟี้ยมไม้สักทอง และยังมีพิพิธภัณฑ์เรือนไทยอีกหมู่หนึ่งซึ่งมีของเก่ามากมายหลายอย่าง อยากรู้ต้องไปดูเลยว่ามีอะไรบ้าง อ้อ..วัดเปิดพิพิธภัณฑ์เฉพาะเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีค่าบำรุงพิพิธภัณฑ์นิดหน่อย ทำบุญครับ
           

               ส่วนอุโบสถทรงมอญโบราณ ภายในมีภาพเขียนสีโบราณสวยงามมาก แต่ก็อย่างว่า อายุมากอะไรก็ไม่ดีไปเสียหมด ภาพเขียนสีจึงเลอะเลือนไปบ้าง ที่ดีๆก็ยังมีอยู่ มีเรื่องเล่าได้มากมายหลายสมัย บานหน้าต่างประตูไม้สักแกะลายดอกพุดตาน ผมกราบพระประธานในอุโบสถแล้วก็ต้องตัดใจจรลี ผมขับรถกลับเส้นทางไปนครปฐม 
               แวะเข้าไปเที่ยวนั่งเล่นในพระราชวังสนามจันทร์ อันพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ขณะนั้นยังทรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ทรงโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2450 โดยพระยาศรีศิลป์ประดิษฐ์ สร้างเสร็จปีพ.ศ.2455 เดิมชื่อสถานที่แห่งนี้คือหนองน้ำจันทร์ จึงโปรดให้ชื่อว่า พระราชวังสนามจันทร์ เดิมีอาคาร 2 หลัง พระที่นั่งพิมานปฐมก่อิฐถือปูน 2 ชั้นแบบตะวันตก ฉลุสลักลวดลายด้วยศิลปะไทย พระที่นั่งอภิรมย์ฤดีอาคาร  2 ชั้น อยู่ด้านใต้พิมานปฐม ต่อมาทรงให้สร้างพระที่นั่งวัชรีรมยา  และอื่นๆอีกมากมายหลายหลัง 
               ออกจากพระราชวังสนามจันทร์ 2 กม. ก็เข้าไปจอดรถในบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.350-1000  เดิมเป็นสถูปรูปโอคว่ำ สูง 19 วา 2 ศอก พ.ศ.2396 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่หุ้มองค์เดิมไว้ภายใน เจดีย์ใหม่สูง 3 เส้น 1 คืบ 10 นิ้ว ฐานเจดีย์วัดโดยรอบ 5 เส้น 17 วา 3 ศอก แล้วเสร็จในสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ส่วนพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับมาจากศรีสัชนาลัยในสภาพเหลือแต่เศียร แขน เท้า จึงได้ทรงให้หล่อใหม่สูง 12 ศอก 4 นิ้ว นำไปประดิษฐานเมื่อ 2 พย.พ.ศ.2458 ที่ซุ้มประตู    
                ผมเดินขึ้นไปกราบไหว้ร่วงพระโรจนฤทธิ์ เดินวนจนครบสามรอบ นับพระพุทธรูปปางต่างๆ ได้ 66 ปาง แล้วเดินลงไปหาของกินตามร้านอาหารที่มีอยู่อย่างมากมายหลายอย่าง ผมกินข้าวหมูแดงกับหมูกรอบ ผลิตภัณฑ์ดังของนครปฐม ล้างปากด้วยขนมหวานที่เลือกได้หลายอย่าง 1 ถ้วย อิ่มแล้วก็นั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆ อีกครู่หนึ่ง ลุกขึ้นเดินให้อาหารย่อยจนพ้นสภาพหนังท้องตึงหนังตาหย่อน นั่นคือพอให้ข้าวเรียงเม็ด ก็ออกเดินทางกลับกรุงเทพด้วยความสบายใจ วันเดียวเที่ยวซะหลายแห่งเลยแหละครับ คุ้มไหมเอ่ย?     

Tags : One day trip

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view