หนาวนี้ไปอาบหมอกที่ไหนดี
โดยป่าน ศรฯรายณ์
ผ่านปลายฝนก็เข้าต้นหนาว เป็นเงาที่ทอดเรียงไปตามยาวทุกปีมา เป็นเงื่อนเวลาที่ใครๆในบ้านเมืองของเราชอบและวางแผนกันทุกหย่อมหญ้า หนาวนี้จะไปอาบหมอกที่ไหนดี แน่นอนว่า ต้องเป็นภาคเหนืออันดับหนึ่ง ส่วนจะเป็นภาคเหนือตอนบนหรือคอนล่างก็ขึ้นอยู่กับว่า มีแรงกายและแรงทรัพยากรพร้อมไหม แต่ถ้าเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือเล่า ได้แค่ไหน หรือว่าภาคกลางระหว่างพื้นราบกับขุนเขา ต้องเลือกตามความชอบของใครของมัน หรือไม่ใช่
บ้านป่าเมืองร้อนเช่นเมืองไทยนี้ดี มีอากาศที่แตกต่างกันชัดเจน และมีมากฤดูกาลกว่าเขาด้วย ฝนฉ่ำฟ้าก็เดินป่าหาดอกไม้สวยถ่ายรูปเล่นได้ ร้อนแทบตับแตก แต่แฝงเร้นความสวยงามของใบไม้ที่เปลี่ยนสี ลีลากิ่งก้านที่ปราศจากใบที่รกรุงรัง ส่วนหนาวเข้าใจได้ว่า ใครๆก็ชื่นชอบ แม้ว่าจะไม่หนาวจนหิมะตกอย่างต่างประเทศเขตอบอุ่นหรือเขตหนาว เข้าทำนองสำนวนโวหารไทยๆ "ยามไร้เด็ดดอกหญ้าแซมผม" ก็บ้านเมืองเรามีแค่นี้ หรูแล้วครับ
ผมถึงอยากจะเชิญชวนให้พี่น้องได้มองดูสักนิด เงื่อนไขปีนี้แตกต่างจากทุกปีด้วยเหตผลหลายประการคือ เศรษฐกิจชำรุดหนักมากๆรายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายมากกว่าเดิม น้ำมันเชื้อเพลิงก็ขึ้นเอาๆ แพงจริงๆ ค่าเช่ารถราก็ราคาเปลี่ยนขึ้นไปอีก อันเป็นยานพาหนะที่สิ้นเปลืองสูง อารมณ์ความรู้สึกไม่ปกติกันนัก แต่ด้วยภาระจำเป็น หรือหากำไรชีวิตมากขึ้น จึงจำเป็นต้องไป เพื่อสนองใครบางคนในครอบครัว
ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินกว่า 300 กม. ผมขอแนะนำให้ไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิตย์ จังหวัดชัยภูมิ จะติดต่อขอเช่าบ้านพักอุทยานก็รีบๆจองล่วงหน้า ถ้าจะนอนเต็นท์ก็มีให้จอง ช้าไม่ทันแน่ครับ ที่นี่อากาศหนาวเย็นจับใจในหน้าหนาว ระหว่าง 8-14 องศาเซลเซียส ลมแรงด้วย แต่ว่าหมอกลงคละคลุ้งไปทั้งดอย แม้ว่าจะพ้นฤดูดอกกระเจียวบานไปแล้วก็ตาม ความสวยงามจากต้นไม้ป่าอาบไล้ด้วยสายหมอกละออตาอยู่มากๆ
เบี่ยงไปทางภาคเหนือตอนล่าง ถ้าใครเคยได้ยินคำว่า ช่องเย็น ละก้อ เย็นจับจิตจับใจเลยทีเดียว เพราะว่าพื้นที่ป่าบนเขาสูงกว่า 800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง หากแต่เป็นช่องเขาขาดที่ลมพาดผ่านทุกวินาที ชนิดที่เรียกว่า โหมกระหน่ำ บ้านพักไม่สมบูรณ์นัก แต่ลานกางเต็นท์สะใจ ได้ทั้งอาบไอหมอกและเดินไปชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างเปรมปรีย์ ถึงจะถ่ายรูปออกมาไม่สวยเท่าป่าหินงามก็ตามที ที่นี่อุทยานแห่งชาติแม่วงศ์ครับ
ขยับออกไปทางภาคตะวันตก เข้าเขตห้วยขาแข้ง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ไม่เลวเลย ป่าดงดอนที่อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้ สายหมอก สัตว์ป่าเยื้องย่างให้ชมมากมาย ยิ่งนกสีสวยงามด้วยแล้ว มีมากจนถ่ายรูปกันสนุกก็แล้วกัน วนซ้ายต่อไปอีกเป็นเขตกาญจนบุรีที่มีเทือกเขาและทะเลหมอกไม่แพ้ทางภาคเหนือ อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามากมายหลายแห่ง มีศักยภาพการอาบหมอกเหนือชั้น บางทีก็เป็นด้วยระยะทางที่อยู่ไม่ไกลเกินกำลังเช่น อุทยานแห่งชาติเชื่อนเขาแหลม น้ำตกเอราวัณ ทองผาภูมิ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
ล่องลงไปทางใต้นิดหนึ่งซึ่งได้แก่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทะเลหมอกเหนือผืนป่าดงดิบชื้นมองแล้วประทับใจ ได้อากาศที่หนาวจนเจ็บกระดูก นกไน่ดอกไม้ป่ามีให้เห็นตลอดเส้นทางขึ้นไปหน่อวยพิทักษ์ป่าพะเนินทุ่ง หรือจะกางเต็นท์นอนริมอ่างเก็บน้ำ ก็ได้บรรยากาศไม่เลว อย่างไรก็ตามหากลงใต้ไปอีกหน่อยก็ถึงชายทะเล ว้า หนาว อาบน้ำไม่ไหวเลย
แต่ถ้าจะอาบไอหมอกกันจริงๆจังๆ ต้องขยับขึ้นไปให้เหนือขึ้นไปจนสิ้นสุดที่ชายแดน ภาคอีสานก็เหมือนกัน ไปเคาดาวน์ที่อุทยานแห่งชติผาแต้ม ซึ่งว่ากันว่าเห็นพระอาทิตย์ก่อนใครในประเทศไทย เลาะเรียบโขงขึ้นไปก็ต้องภูหลวง ภูกระดึง นาแห้ว ภูหินร่องกล้า ทุ่งแสลงหลวง ศรีสัชนาลัย ดอยอินทนนท์ ดอยสุเทพ แม่สุริน หรือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ศรีน่าน ดอยภูคา แม่จริม ฯลฯ
ปีนี้มีเงินน้อย เที่ยวแต่ที่ใกล้ๆหน่อยก็แล้วกัน จะได้ไม่เปลืองเงินทองมากนัก มันหายากมากขึ้นๆทุกวัน