แห่ดาว...(ไม่)หนึ่งเดียวในประเทศไทย
“สาวภูไท”/เรื่อง จำลอง บุญสอง/ภาพ
ช่วงคริสต์มาส เป็นเทศกาลแห่งสีสันดังเอื้อยนางได้กล่าวถึงแล้วในตอน “คริสต์มาส ...สีสันแสนงามในถ้วยแก้วรวมมิตร” (คลิกอ่านทวนได้ค่ะ)
และคริสต์มาสที่ผ่านมา ๒๔-๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๒ มีประเพณียิ่งใหญ่เต็มไปด้วยสีสันแห่งดาว ... แห่ดาว ที่ชุมชนท่าแร่ สกลนคร หลายสำนักข่าว หลายเวบโปรยหัวเร้าใจว่า เป็นขบวนการแห่ดาวหนึ่งเดียวในประเทศไทย
มันช่างน่าน้อยใจ สำหรับชุมชนชาวคริสต์อื่น ๆ ในประเทศไทยที่มีประเพณีแห่ดาวในวันคริสต์มาสอีฟ หลายหมู่บ้าน หลายชุมชนชาวคริสต์ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประเพณีนี้ปฏิบัติสืบเนื่องมาแล้วนานแสนนาน บางชุมชนอาจนานเท่าอายุหมู่บ้าน นานจนจดจำกันไม่ได้ว่าปฏิบัติกันมากี่ปีแล้ว แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ใช้เทคโนโลยีสุดยอดเพื่อประกาศความอลังการ ดังที่เป็นข่าว แต่เขาก็มีประเพณีแห่ดาว ประกวดดาว ประดับประดาดวงดาวตามถิ่นฐานบ้านเรือน ถนนหนทาง วัดวาอารามสวยงามพราวพร่างอยู่เช่นกัน
ชุมชนชาวคริสต์มีกระจายอยู่ทั่วไปในภาคอีสาน โดยเฉพาะตามสายน้ำโขง
น้ำมูล ตั้งแต่อุบลราชธานีขึ้นไปถึงอำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองคาย หลายชุมชนมีประวัติการก่อตั้ง เมื่อครั้งฝรั่งเศสเข้ายึดครองอินโดจีน และอพยพเคลื่อนย้ายข้ามโขงมา หลายชุมชนสร้างความเจริญมั่นคงขยายใหญ่โต ผสมกลมกลืนกับชาวพื้นเมืองเดิมเป็นอันหนึ่งอันเดียว หลายชุมชนตั้งโรงเรียนให้การศึกษาแก่ลูกหลานชาวบ้านชาวเมืองไม่จำกัดชาติ ศาสนา ได้เจริญก้าวหน้า มีชื่อเสียงมีหน้าที่การงานที่ดีช่วยสร้างสาพัฒนาบ้านเมืองมาแล้วหลาย ๆ รุ่น
ประเพณีแห่ดาวก็มีอยู่ในหลาย ๆ ชุมชนทั้งลุ่มน้ำมูล และน้ำโขง อาจมีบ้างในบางปีที่อาจยกไปจัดรวมกันในชุมชนที่เป็นเครือข่าย ใกล้เคียง
คริสต์มาสถือเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองการสมภพของพระเยซูเจ้า โดยถือเอาวันที่ ๒๔ เป็นวันคริสต์มาสอีฟ แม้ไม่ทราบวันประสูติที่แท้จริงของพระองค์ แต่ตามประวัติว่าไว้ว่าวันที่ ๒๕ มีนาคม เป็นวันที่ทูตสวรรค์จากพระผู้เป็นเจ้าได้เสด็จมาปรากฏร่างต่อพระนางมาเรีย แจ้งข่าวว่าพระกุมารจะมาปฏิสนธิ์ในครรภ์ของพระนาง
นับแต่นั้นมาอีก ๙ เดือน ตรงกับวันที่ ๒๕ เดือนธันวาคมพอดี ถือเป็นวันคริสตสมภพ และทูตสวรรค์ได้แจ้งข่าวแก่บุคคลอื่น ๆ อีก ถึงการกำเนิดของพระกุมาร ทุกคนที่ได้ข่าวต่างมุ่งหน้ามา บ้างมาจากแดนไกลได้อาศัยดวงดาวนำทางมาเพื่อนมัสการพระองค์
ดวงดาวจึงเป็นเครื่องหมายแห่งการนำทาง มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตศาสนานิกายโปแตสแตนท์ได้เคยนำเทียนไขปักไว้บนต้นคริสต์มาสเพื่อเป็นเครื่องหมายเล็งถึงดวงดาวบนท้องฟ้าในคืนวันประสูติของพระเยซูเจ้า
ชุมชนชาวคริสต์ในอีสานหลาย ๆ แห่งยังถือเอาดวงดาวเป็นสัญลักษณ์แห่งเทศกาลคริสต์มาส ก่อนหน้าหลายวันจะมีดวงดาวผุดพราย ห้อยแขวน ประดับประดาแพรวพราวตลอดถนนหนทาง บ้านเรือน และประเพณีแห่ดาวก็มีด้วยเช่นกันค่ะ