http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,989,442
Page Views16,297,481
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

บ้านทุ่งแสนสุข โดยมณีดิน ตอน3.ใต้ร่มจามจุรีมีชีวิต

บ้านทุ่งแสนสุข โดยมณีดิน ตอน3.ใต้ร่มจามจุรีมีชีวิต

ชุดบ้านทุ่งแสนสุข

โดย มณีดิน

ตอน3. ใต้ร่มจามจุรีมีชีวิต                     

 

             ทุกวันพระใหญ่แม่ชอบชวนลูกๆ ไปทำบุญ เว้นพี่เจนกับพ่อไม่เคยไปเลย แม่จัดอาหารหวานคาวลงปิ่นโตเถากลาง 4 ชั้น  ข้าวพูนขันเงินที่พี่เจนขัดล้างจนเป็นเงาวาววับ ทัพพีด้ามงอนสะอาดเอี่ยม ไออุ่นขันข้าวลามมาถึงอุ้งแขนพี่จันทร์ที่โอบมั่น ผมกับไอ้ทุยเดินตามหลังแค่นั้น แม่หิ้วปิ่นโตเดินนำหน้าไปตามสะพานไม้ที่ทอดข้ามคลองจนถึงวัดห้วยคัน นักบุญหญิงยายเดินตามกันเป็นทิวแถว สาวกว่าพี่จันทร์ก็มีสำลีลูกน้าเชยท้ายหมู่บ้าน พิมพาลูกครูใหญ่ชอบตามแม่มาทำบุญ ทุกวันพระเหมือนกัน

             แม่เดินพยักพเยิดกับเพื่อนบ้านตลอดทาง ผมส่ายสายตามองหาเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่...ไม่มีทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง ไม่มีใครตามแม่มาทำบุญสักคน  

            พอแม่ถอดรองเท้าไว้ตีนบันไดแล้วก้าวขึ้นศาลา โดยมีพี่จันทร์ตามก้นด้วยมาดมั่น ผมกับไอ้ทุยเฉไฉไปหน้าวัด ใต้ร่มจามจุรี  มีศาลาลอยนั่งพักได้หลังหนึ่ง ที่นั่นมีตาลอช่างตัดผมกับตาซ้งช่างตัดกางเกงกำลังโขกหมากรุกกันอยู่   ตาแช่มคนมีที่นาปากคลองอีดูดเป็นกองเชียร์  แก้วกาแฟดำวางอยู่ข้างๆคนละแก้ว          

            ต้นจามจุรีหรือบางทีก็เรียกกันว่าต้นก้ามปู ลำต้นใหญ่ขนาดสามสี่คนโอบ สูงและมีเรือนยอดแผ่กว้างขวางมาก มีเพิงร้านค้าขายของอยู่หลายอย่าง ตาใหญ่ขายกาแฟและโอเลี้ยง ตาลอช่างตัดผม ยายยูงกับยายยอมตั้งกระทะทอดกล้วยแขกและข้าวเม่าขาย ยายฟูผัดไทย ยายค้างขายก๋วยเตี๋ยวหมู ถ้าต้มยำละก้อ รสชาติเข้มแต่กลมกล่อมสะใจ   ยายเยี่ยมขายไข่เหี้ย เอ้ย ไข่หงส์ ขนมถ้วยฟู  ขนมถ้วย รสเยี่ยมสมชื่อแก่จริงๆ  

            แม่ค้าพ่อค้าและนักเลงกาแฟล้วนเป็นคนบ้านห้วยคัน เพียงแต่ว่า ใครอยู่บ้านไหน อย่างตาใหญ่ ยายเยี่ยม ยายค้าง เนี่ยอยู่บ้านห้วยคันเหนือ  ยายยูงกับยายยอมยายฟูและตาซ้ง  นี่มาจากบ้านห้วยคันใต้  ส่วนตาลอช่างตัดผมนี่คนบ้านยี่ล้นแต่มาเป็นเขยบ้านห้วยคันเหนือ ใต้ร่มจามจุรีมีชีวิตที่หลากหลาย ต่างบ้าน ต่างอาชีพ มารวมกันแต่ไก่โห่ จนย่ำค่ำทุกวัน  วันไหนใครไม่มาก็ถามหากันวุ่นวาย

            ส่วนเจ๊กโรงสีทั้งหลายได้แต่มากินกาแฟ แต่ไม่มีใครมาค้าขายสักคน

            เช้านี้ ตาอุ๊ย บ้านห้วยคันกลางหรือเรียกกันว่าพวกเจ๊กโรงสี เดินเตี้ย(ตัวเตี้ย)มาแต่ไกล พอถึงร้านกาแฟตาใหญ่ก็ร้องขึ้นทันที

            “ใหญ่ บุหรี่มวน” แล้วเดินเมียงเข้าไปในกลุ่มพรรคพวกคอกาแฟ  ตาใหญ่หยิบซองบุหรี่ตราพระจันทร์ออกมาจากเหนือตู้โชว์หน้าร้าน ส่งให้ตาอุ๊ยมวนหนึ่งพร้อมไม้ขีดไฟ แล้วเก็บซองบุหรี่เข้าที่เดิม

            “โอวยั้วแก้ว” ตาอุ๊ยสั่งต่อ ตาใหญ่พยักหน้าเป็นอันว่ารู้กัน

             “รุกฆาต” เสียงตาซ้งดังลั่นร้าน ตาลอเอนหลังหงายผึ่ง

             “ไอ้ห่า มันกินกูอีกแล้ว” ตาลอร้องลั่นแล้วล้วงกระเป๋ากางเกงขายาวสีซีดๆ ปากสั่นระริก ยื่นแบ็งค์สิบบาทให้  ตาซ้งรับพลางหัวเราะร่า ทุกสายตาเหลียวมามองอย่างขำขัน

              “เฮ้ย อุ๊ย บุหรี่มวนซิ” ตาลอเบิกตาแลไปทางตาอุ๊ย

             “หมด มีมวนเดียวนี่แหละ” ตาอุ๊ยตอบหน้าตาย แล้วก้มลงซดโอวยั้ว ตาใหญ่กำลังชงกาแฟยิ้ม ไอ้ดำกับไอ้ทุยยืนมุงดูด้วยความสนใจ

             “กูก็หมดตูด เสียค่าโง่เลี้ยงกาแฟไอ้ซ้งฟรีอีกแล้ว” ตาลอเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย ๆ ตาซ้งยืด

              “มันอยู่ที่ฝีมือและมันสมอง กูกินมึงทั้งปี” ตาซ้งเน้นเสียง ปี ดังเข้ม

              “นี่ตาซ้ง แกกินกาแฟกับโขกหมากรุกทุกเช้านี่ กางกุ้งกางเกงแกไม่ตัดหรือไง” ยายค้างถามขึ้นด้วยท่าทีล้อๆ

              “เฮ่ยยย..เดี๋ยวเดียวก็ตัดเสร็จน่า ขี้ปะติ๋ว” ตาซ้งสำราญใจใคร่ตอบโต้

              “กางเกงแกนี่มันทรงอะไรฮึ ตาซ้ง” ยายยูงกับยายยอมถามพร้อมกัน แล้วหัวเราะระริกระรี้

              “ทรงมะรืน” ตาอุ๊ยตอบแทน เรียกเสียงหัวเราะได้ครืนใหญ่พร้อมรอยยิ้ม ยายฟูเคาะกระทะดังฉั่งๆๆๆ เหมือนเป็นเสียงฉาบลิเกเสริม ตาซ้งยิ้มเรี่ยราด

              “มันมัวแต่โขกหมากรุก แล้วก็กินกาแฟแก้วเดียว หมดเที่ยงเลย” ตาใหญ่ช่วยเสริม เพิ่มรอยยิ้มพิมพ์ใจ

              “โน่น  มาแล้ว เดินหน้าเป็นม้าหมากรุกมาเลย ยายเฮียง” ยายฟูตะโกนเสียงดัง  ตาซ้งทำไขสือเมื่อเห็นเมียเดินมาเป็นขบวน  ก็จะไม่เป็นขบวนได้อย่างไร มาไม่มาเปล่าลูกๆเดินเกาะแข้งเกาะขามาเป็นพวง ไอ้ดำกับไอ้ทุยปรีเข้าไปเล่นกับน้องๆ

              “เฮีย   ไอ้แป๊วมาเอากางเกง มันจะไปกรุงเทพ” ยายเฮียงเดินเข้าไปกระซิบค่อยๆ ใกล้หูตาซ้ง ผมฉายาไอ้ดำจรกาสอด เดินรี่เข้าไปใกล้ อยากได้ยิน

               “ยังไม่เสร็จ บอกมันมะรืนได้” ตาซ้งกระซิบตอบ แล้วบุ้ยบ้ายให้ยายเฮียงกลับไป  ขบวนแม่เป็ดน้อยคล้อยหลัง ผมนึกสนุกก็เลยร้องเป็นเพลง ไอ้ทุยผสมโรง เต้นแร้งเต้นกาตาม      

                “ ตาซ้งทรงมะรืน ตาซ้งทรงมะรืน ตาซ้งทรงมะรืน.................” ตาซ้งคว้าแก้วกาแฟที่มีแต่น้ำชาชืดๆสาดใส่ผมๆหลบแล้วก็ร้องยั่วพลางหนีขึ้นศาลาวัดไปหาแม่   

                 “ตาซ้งทรงมะรืน ๆๆๆๆ”  

                  ใต้ร่มจามจุรีมีชีวิตที่มาสถิตร่วมกัน มีเรื่องราวเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสนุกสนานชวนหัว แต่บางทีวันร้ายมาเยือน ก็เป็นเรื่องได้อย่างคาดไม่ถึง

                  เช้าสายบ่ายเย็น มีคนเดินมาซื้อหาของกินที่วัด บ้านห้วยคันใต้ก็มา บ้านห้วยคันเหนือก็มา พวกเจ๊กโรงสีว่างงานก็มา อยากกินก็มา เวียนไปแล้วก็เวียนมาอีก แม้จะมากหน้าหลายตาก็รู้จัก ทักทายกัน หยิกแกมหยอกกันบ้างพอได้หัวเราะ แต่บางทีหยอกกันแรงไป จี้ใจดำเกินไป ก็เป็นเรื่อง  หมดหน้างานผ่านไปก็เดินย่องๆมาหน้าวัด มันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชุมชน บางคนไม่เคยเข้าวัดทำบุญเลย แต่ก็มานั่งกินผัดไทยหน้าวัด บางคนมากินบ่อยจนเป็นขาประจำ ถึงขนาดได้ขึ้นป้ายใส่ชื่อลูกหนี้วันนี้  แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เงินก้อนใหญ่ สบายๆ ผ่อนคลายใจได้ทุกวันฉันเพื่อนบ้านลานวัดเดียวกัน

                   “พี่น้องทั้งหลาย 15 ค่ำ เดือนห้า ปีนี้ ไอ้จ้อลูกชายฉันจะบวช อย่าลืมไปร่วมงานทำขวัญนาคที่บ้านกันนะจ๊ะ”

                    ยายอิ้งหมอตำแยของหมู่บ้านเดินมาถึงกลางวง แล้วพูดด้วยเสียงดัง เป็นการแจกบัตรเชิญกลางอากาศแบบปากต่อปาก  ผู้ที่อยู่และได้ยินก็พยักหน้า  เป็นอันรู้กัน งานแม่อิ้งบอกงานทั้งที  ไม่ไปได้อย่างไรกัน ที่ออกมาลืมตาดูโลกกันได้จนเติบใหญ่ปานนี้ ก็มีแม่อิ้งหมอตำแยทำคลอดให้เกือบทั้งหมู่บ้าน

                   “อีก 15 วันซี ไอ้จ้อมันโตเป็นหนุ่มแล้วนี่นะ เห็นมันอยู่หลัดๆ ได้บวชแล้ว” ตาใหญ่พูดไปยิ้มไป

                    “เราน่ะแก่กันลงไปทุกวันแล้ว เห็นมันแต่เล็กๆ เผลอหน่อยเดียวมันบวชได้แล้ว “ ยายเยี่ยมพูดขึ้นบ้าง

                     “มีใครบ้างไหม ที่ยายอิ้งไม่ได้ทำคลอด” ยายค้างถาม

                     “อั้วซี อั้วมาจากแผ่นดินใหญ่นะคร๊าบ” ตาซ้งโพล่งออกมาทันที ทำทีโก้ๆ

                     “เออใช่ มันเจ๊กนอก” ตาอุ๊ยเสริมแล้วหัวเราะตีนกาเกาะเต็มหางตา

                     “กูก็อีกคน กูคนยี่ล้นนะเฟ้ย” ตาลอเฮฮาตามประสาคนชอบสนุก “แต่ผิวเมียกูมันคงไปแทนอยู่แล้ว”

                      “มันมาแล้ว”  เสียงตาใหญ่พูดขึ้น พลางพยักพเยิดให้หันไปมองทางสะพานหน้าวัด ตาชิดศิษย์สุรากำลังเดินส่ายอาดๆมาอย่างเต็มกำลังลาก

                      “แต่เช้าเลยฮิ” ตาอุ๊ยเสริมพร้อมกับส่ายหน้า แล้วรีบเดินไปทางศาลาวัดที่พระกำลังสวดชยันโต สัพพีตีโย อยู่พอดี

                       ตาชิด ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์สุราคนดังในบ้านห้วยคันเหนือ เช้าสายบ่ายค่ำเมาหยำเป งานการไม่เคยออกไปทำ นาไร่ที่พ่อแม่ทำอยู่ก็ต้องทำกันไป พี่น้องเอือมระอากับท่าทีเมาทั้งปี นัยน์ตาเชื่อมเยิ้มด้วยกลิ่นเหงื่อไคลอย่างกับไหเหล้าเคลื่อนที่ เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็มีเพียงกางเกงหูรูดสีน้ำเงินคร่ำ ขาดกะรุ่งกะริ่งอยู่ตัวเดียว เป็นภาพของชายผู้ล้มเหลวในชีวิตอย่างไร้รูปธรรม เป็นคราบไคลของชุมชนที่ไม่พึงประสงค์ เป็นความพะอืดพะอมขมไหม้ของเหล่าพระและสามเณร  คอกาแฟวงแตกสลายในทันที

                        “ใหญ่ โอวยั้วแก้ว” ตาชิดเดินมาจนชิดขอบโต๊ะชงกาแฟ ตาใหญ่พยักหน้า แล้วก้มหน้าก้มตาชงให้ด้วยความเอ็นดู นึกในใจ “ยังไงก็เพื่อนกันมาแต่เล็กแต่น้อย” ตาชิดมองหาเพื่อนๆ แต่ได้เห็นเพียงหลังของแต่ละคนที่เดินจากไป

                         “กูมา วงแตกเลย ฮิฮิ” ตาชิดพูดพลางหัวเราะตาหยี

                         “ขนาดไอ้ซ้งทรงมะรืนยังเผ่น มึงมันผู้ยิ่งใหญ่นี่หว่า” ตาใหญ่หยอกแกมประชด ตาชิดหัวเราะอารมณ์ดี

                          “จะไปไหนต่อวะ มาแต่เช้า มีงานหรือไง” ตาใหญ่เสวนาพลางก็ชงโอเลี้ยงใส่กระป๋องนมส่งให้ตาชิดลูกค้าเจ้าใหญ่

                          “เปล่า หิวข้าว ไส้แทบขาด ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานซืน” ตาชิดร่ายยาว

                          “แดกแต่เหล้าซิมึง” ตาใหญ่ต่อ “โน่น พระลงแล้ว ไปกินข้าวซะมึง” 

                          “ค่ากาแฟขึ้นบัญชีไว้ก่อนนะใหญ่ เพื่อน..” ตาชิดเอ่ยขึ้น ตาใหญ่และเพื่อนผู้ร่วมค้าหัวเราะครืน

                          “น้ำหน้าอย่างมึง กูไม่ขึ้นบัญชีให้เปลืองช็อคหรอก มึงมันกินฟรีทั้งปีอยู่แล้ว” ตาใหญ่เอ่ยแล้วหัวเราะดัง ตาชิดยิ้ม หัวเราะฮึฮึในลำคอ

                           “กูก็เหลือแต่มึงเท่านั้นแหละที่ยังเป็นเพื่อน” ตาชิดพูดเสียงสำนึกในน้ำใจ “ขอบใจนะใหญ่” แล้วลุกเดินขึ้นบนศาลาวัด หญิงยายชายเฒ่ากำลังตั้งวงกินข้าวก้นบาตรกันอยู่ เด็กวัดกับผม และไอ้ท้วมร่วมวงกันอีกวง ตาชิดเซเข้าไปนั่งด้วย

                            “ไอ้แก้ว ตักให้ลุงจาน” ตาชิดสั่ง ไอ้แก้วลูกศิษย์อาจารย์ตั๋น เจ้าอาวาสปฏิบัติตามสั่ง แล้ววงข้าวเช้าก็บรรเลงกันไปอย่างปกติ

                            วัด พระ เด็กวัด และตาชิด เป็นเหมือนของขายควบ ทุกเช้าวันพระจะได้พบเห็นภาพเช่นวันนี้ ใต้ร่มเงาต้นจามจุรีมีชีวิตที่แตกต่าง คนมีงานทำ คนไม่มีงานทำ คนขี้เมา คนมาซื้อหาของกิน คนเดินผ่านไปผ่านมา คนมานั่งบ่นระบายทุกข์ คนมาตามคน แม้กระทั่งตามมาด่าผัวที่ไถลไปวัด   

                            ไก่แจ้วัดสีสวยโก่งคอขัน ตัวเมียเรียกลูกๆมาคุ้ยดินหาเศษอาหารที่ตกหล่นกิน เสียงวงไก่แจ้แตกฮือ เมื่อเด็กวัดเหวี่ยงข้าวสุกก้นบาตรลงไปกลางลาน ไก่แจ้วิ่งกรูกันเข้าไปจิกกินด้วยความอร่อย ตาชิดเดินหายไปหน้าโบสก์ นิวาสสถานอันร่มเย็นที่แกแอบไปนอนทุกวัน หญิงยายบ่ายหน้ากลับบ้าน เป็นอีกเช้าหนึ่งที่มีผู้คนเข้ามาวัดมากเป็นพิเศษ  บ้างก็แวะซื้อขนมถ้วยฟู โอวเลี้ยงใส่กระป๋องนมหิ้วกลับบ้าน ลมเย็นๆพัดผ่านใบจามจุรีแก่ๆ สีเหลืองๆร่วงพรูลงมาหย็อยๆ แม่ซื้อกล้วยแขกให้ไปกินที่บ้านถุงหนึ่ง ใต้ร่มจามจุรี

Tags : บ้านทุ่งแสนสุกตอน2.ตำนานเจ๊กโรงสี

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view