นกขุนทอง
Hill myna
นกพูดภาษาคนได้
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ผมได้หมายนกกิ้งโครงคอดำ นกหายากใกล้สูญพันธุ์ จากอาจารย์มนตรี แสวงศักดิ์ เพื่อนเฟสบุ๊ก จึงดิ่งไปสวนหลวง ร.9 กรุงเทพมหานคร ไปถึงเอาบ่ายแก่ๆ เดินไปตามถนนแดดร้อนๆ เพื่อไปยังดงต้นหว้าใหญ่ริมคูน้ำเพราะอาจารย์เล่าว่าเขากินลูกหว้าอยู่ แต่พลาดด้วยว่าตลอด 2 ชั่วโมงที่เดินวนไปมา มีแต่นักท่องเที่ยวขว้างไม้ให้ลูกหว้าหล่น เลยชวด
บ่ายแก่ราวๆ 16.30-17.30 น.ผมเดินวนไปที่ต้นไทรใบแก้วต้นใหญ่ริมสระกลางข้างๆอนุสรณ์สถาน ร.9 พลันได้ยินเสียงนกร้องเกี๊ยว เจี๊ยว เสียงสูงจนผิดปกติ เหลียวตามเสียงจึงได้เห็นนกขุนทองเกาะอยู่ เป็นนกตัวป้อมๆ ขนสีดำเหลือบ มีแผ่นหนังใต้ตาและแผ่นหนังสีเหลืองท้ายทอยเชื่อมติดกัน ปากสีแดงอมส้มสด ยาว ตาเหลืองแดง ตรงกลางดำ มีแต้มขาวใต้คางหว่างอก และปลายปีกสีขาว ขาและเท้าสีเหลือง ขนาดลำตัวจากหัวถึงหางยาว 27-31 ซม.
ผมมั่นใจว่าเป็นนกขุนทองแน่นอน ตัวผู้หรือตัวเมียก็ดูไม่ออกคล้ายๆกัน เขามีชื่อว่า Hill Myna หรือ เอี้ยงคำ ตามภาษาเหนือ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gracula religiosa Linnaeus,1758 อยู่ในวงศ์ นกเอี้ยงหรือนกกิ้งโครง STURNIDAE เป็นนกที่พบในป่าดงดิบ ป่าโปร่ง ชายป่า ที่ราบจนถึงความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,371 เมตร
เป็นนกประจำถิ่น พบบ่อย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 พฤติกรรมของเขาชอบมาเป็นกลุ่ม ลงกินผลไม้หรือแมลงตัวเล็กๆ ระหว่างกินลูกไทรชอบกระโดดไปตามยอดต้นไทรมากกว่าเดิน ไม่ทำรังแต่วางไข่ในโพรงต้นไม้ ไข่ครั้งละ 2-3 ฟอง ปีละ 2-3 ครั้ง ครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม-มกราคม-พฤษภาคม และอีกครั้งตั้งแต่เดือน มิถุนายน-กันยายน ฟักไข่ 14-20 วัน
นกขุนทองสามารถพูดภาษาคนได้ เพราะว่ามีอวัยวะที่เรียกว่า Tracheobronchial syringe เลียนเสียงได้ถึง 13 แบบเลยทีเดียว เช่นเดียวกับนกแก้ว นกกิ้งโครงคอดำ
นกขุนทองที่พบในสวนหลวง ร.9 อาจเป็นนกหลุดกรงมาทั้งคู่ หรืออาจหลบภัยมาอาศัยอยู่ที่นี่ หรืออาจเป็นทั้งแหล่งอาหาร ขยายเผ่าพันธุ์