ปีมหามงคล ปีพุทธศักราช 2558
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
ทรงมีพระชนมายุครบ 5 รอบ และเป็นปีสถาปนาอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
โคตร โคตร
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ธนเดช เปาอินทร์ ภาพ
สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พระชันษา นับเป็นมหามงคลหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2558 และในปีเดียวกัน เป็นปีที่ครบวันสถาปนาอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2558 นับเป็นมหามงคลสอง
ดร.สนิท อักษรแก้ว นำคณะลุกเสือสิ่งแวดล้อมจุดเทียนชัยถวาย
ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานกรรมการบริหารศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ดำริจัดงานวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2558 ด้วยเหตุผลอันเนื่องในวันสถาปนาอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร และมอบโล่เกียรติคุณแด่ผู้มีอุปการคุณสนับสนุนอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร จำนวน 62 ท่าน และโล่เชิดชูเกียรติกลุ่มปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดเพชรบุรีจำนวน 7 ท่าน
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธรในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้สละเวลามาเป็นประธานการมอบโล่ห์ทั้งสองประเภท
หลังจากนั้น ได้กรุณาเล่าถึงความเป็นมาของอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธรด้วยความปลื้มปีติยิ่ง ในพระปรีชาชาญและทรงพระอุตสาหะสละพระวรกายของสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงลงลุยโคลนปลูกต้นโกงกางถึง 202 ต้น จนรองพระบาทของพระองค์ได้หายไปข้างหนึ่ง ตราบถึงวันนี้ ยังไม่มีใครหาพบ เชิญทุกท่านไปตามหากันดูเผื่อจะได้เก็บเอาไว้เป็นวัตถุมงคลเพื่อบูชาต่อไปได้เลย
ดร.สุเมธ ได้เล่าถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องชาวเพชรบุรี พี่น้องจากจังหวัดใกล้เคียง นักเรียน นักศึกษา บริษัทห้างร้านมากมายทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่ได้สละเงินอุปการคุณแก่มูลนิธิ จากจำนวนน้อยจนถึงจำนวนมาก จนถึงจำนวนมหาศาล
ตลอดจนได้ปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นคนเมืองเพชรที่ได้เคยเห็นถึงสภาพป่าชายเลนในอดีตก่อนการถูกทำลาย ได้เห็นหลังถูกทำลาย และหลังสุดได้เห็นว่า เมื่อพระองค์ทรงเริ่มต้นปลูกต้นโกงกางต้นแรกจนสิ้นสุดต้นที่ 202 ด้วยหยาดเหงื่อโทรมพระวรกาย วันนี้ ป่าชายเลนทูลกระหม่อมเจริญเติบโตและมีความอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม
โล่เชิดชูเกียรติที่ได้มอบให้แก่ท่านผู้มีอุปการคุณต่อมูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธรนั้น เป็นเพียงสัญลักษณ์ตอบแทนน้ำใจไมตรีแด่ทุกท่านที่ได้ช่วยกันจนถึงวันนี้ วันที่ป่าชายเลนทูลกระหม่อมหนาแน่นไปด้วยต้นไม้ตามธรรมชาติของเขา เป็นความภาคภูมิใจในหัวใจของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะชาวเพชรบุรี
และวันหนึ่งจะกลายเป็นป่าปกป้องโพยภัยจากธรรมชาติที่อาจจะพิโรธดังที่เคยได้เกิดขึ้น นอกจากนั้นในพื้นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ จะช่วยให้การเพิ่มพูนแหล่งอาหารประเภทสัตว์น้ำจะมีมากขึ้น พวกเราก็จะมีอาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ต่อไป
หลังจากเสร็จสิ้นการมอบรางวัลแด่ผู้มีอุปการคุณทั้งหมด 69 ท่าน แล้ว คณะผู้รับรางวัลและแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย ได้เดินทางไปปลูกป่าในพื้นที่หลังสำนักงานของอุทยานฯ
ดร.สนใจ หะวานนท์ รองผู้อำนวยการอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ได้อำนวยการปลูกอยู่ในพื้นที่ เล่าว่า พรรณไม้ที่นำมาปลูกวันนี้ เป็นพันธุ์ที่ทนดินเค็ม ทนความแห้งแล้ง สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับพื้นที่ดินทรายที่แห้งผากและขาดความอุดมสมบูรณ์ ได้เตรียมดินพร้อมแล้ว พันธุ์ไม้ที่จะปลูกในปีนี้ได้แก่
อินทนิล เสลา ตะแบก มะฮอกกานี ขี้เหล็กบ้าน ปีบ หว้า มะขาม นนทรี พะยอม พะยูง สัก ประดู่ มะรุม สนประดิพัทธ์ ยางนา มะขามป้อม พฤกษ์ ข่อย ราชพฤกษ์ สำโรง มะม่วงป่า เป็นต้น โดยยึดตามแนวทางในพระราชดำริของในหลวง ปลูกต้นไม้ 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง
อย่างแรกก็ปลูกเพื่อใช้ไม้ก่อสร้างบ้านเรือน ปลูกเพื่อใช้กิ่งก้านทำฟืนหุงต้ม เป็นพืชอาหารและสมุนไพร และอำนวยให้เกิดเป็นสิ่งแวดล้อมที่ร่มรื่น นำความชุ่มชื้นมาสู่ดิน รักษาสิ่งแวดล้อม ลดก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ลดสภาวะโลกร้อน หลังจากปลุกแล้วจะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ด้วยความเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธรเต็มกำลังความสามารถ
ในการปลูกวันนี้ มีทั้งผู้รับรางวัล แขกที่มาร่วมงาน สมาชิกองค์กรเอกชนที่บริจาคเงินให้กับมูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูกเสือสิ่งแวดล้อม จาก 7 จังหวัด รวม 800 คน ที่ได้มาเข้าค่ายสิ่งแวดล้อมที่อุทยานฯ ตั้งแต่วันที่ 17-19 กรกฎาคม 2558 ประเมินแล้วคาดว่าผู้ร่วมงานทั้งหมด 1,200 คน
ด้วยปีมหามงคลโคตร โคตร ดังกล่าว ปวงชนชาวไทยรู้สึกยินดี ดีใจได้ปลื้มเปรมปรีดา
กิจกรรมลูกเสือสิ่งแวดล้อม