http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,957,290
Page Views16,263,598
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

มุทิตาจิตแด่คุณครูผู้สอนสั่ง ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดกำแพงมณีวิทยา

มุทิตาจิตแด่คุณครูผู้สอนสั่ง  ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดกำแพงมณีวิทยา

มุทิตาจิตแด่คุณครูผู้สอนสั่ง

ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดกำแพงมณีวิทยา

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ครูหนุ่ม-สาวของเราแต่อดีต วันนี้ยังแข็งแรง

            คลองห้วยคันแหลนมีชื่อเรียกขานกันมาด้วยเหตุใดไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน รู้กันแต่ว่า ต้นแม่น้ำไหลมาจากทางเหนือของหมู่บ้าน บ้างก็ว่ามาแต่บึงสามโก้ บ้างก็ว่ามาแต่ศรีประจันต์  บ้างก็ว่ามาจากสามชุก  ผ่านบ้านสามโก้ บ้าน อบทม  สาขาย่อยมาจากบ้านดอนตาล บ้านห้วยโรง  แล้วไหลล่องลงมาถึงบ้านห้วยคันแหลน บรรจบกับคลองอีดูดตรงโค้งห้วยแล้วไหลตรงผ่านหน้าวัดห้วยคันแหลน ทะลุลงไปผ่านบ้านใต้ บ้านหลักขอน แล้วหักศอกไหลไปผ่านบ้านตลาดใหม่ จนไปออกแม่น้ำน้อยที่บ้านคลองขนาก


กราบครูด้วยความเคารพรักเสมอ

ครูวาณี กล่าวแทนครูทั้งหมด

             ยามเมื่อน้ำเต็มตลิ่ง ชาวบ้านเหล่าใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเดินทางไปมาหาสู่กัน ผันผ่านไปจนถึงวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิต  เช่นการทอดกฐินทางเรือ  เล่นเพลงเรือตอนตอนตะวันอ่อนแสงแล้วลอยกระทงในค่ำคืนที่เดือนเต็มดวง เสียงเพลงเดือนสิบสองน้ำนองตลิ่ง ขับขานคำว่าลอยลอยกระทง ลอยลอยกระทง ลำโพงเครื่องขยายเสียงจากวัดห้วยคันแหลนดังลั่นสนั่นคุ้งน้ำ เพื่อนบ้านร่วมสายน้ำขึ้นล่องมาร่วมงานด้วยความเบิกบานสำราญใจ


รุ่นนี้เป็นผู้นำทีม เหลือเยอะที่สุด

             พี่น้องบ้านเหนือถึงบ้านตลาดใหม่ พายเรือค้าขายสารพัดผลิตผลที่หามาได้ เรือขายปลาจะพายขึ้นพายล่อง คนขายจะส่งเสียงเรียกขายว่า “ปลามาแล้ว” ส่วนใหญ่เป็นปลาที่คอมีรอยถลอกด้วยว่าดักมาด้วยตาข่ายตอนค่ำคืนที่ผ่านมา สดๆ ยังเป็นๆอยู่ ปลาที่ขายก็เช่นปลาตะเพียน ปลาหมอกลม ปลาช่อน(ธงเบ็ดมาได้หรือตกมาได้) อีกครู่เรือขายหมูชำแหละก็ตะโกนเสียงดังว่า หมูมาแล้วจ้า คลองห้วยคันแหลนมีชีวิต


รุ่น ป.7 รุ่นเดอะ ก็เหลือเยอะ

มาแค่ 2 คน ปีหน้ามาเยอะๆนะ

            เด็กนักเรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่4 ใครได้ไปเรียนต่อก็ไปที่โรงเรียนในอำเภอวิเศษไชยชาญ(เมื่อก่อนเขียนอย่างนี้) มีโรงเรียนราษฎรชื่อว่าโรงเรียนมูลนิธิวิเศษไชยชาญ ตั้งอยู่ที่วัดวิเศษไชยชาญ ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน้อย ตอนนั้นเรียกว่าชั้นม.1 ส่วนโรงเรียนตันติ......นั้นเปิดสอนตั้งแต่ชั้นม.4-5-6 จบแล้วต่อชั้นม.7-8


เดี่ยวเลยนะ

มาแค่ 2 คน

             ผมจบชั้นประถม4 วัดห้วยคันแหลนแล้วก็ไปอยู่บ้านลุงที่ใต้ตลาดตาฉู่ เพื่อไปเรียนที่โรงเรียนวัดวิเศษไชยชาญมูลนิธิ ชั้นม.1จ มีครูดวงเดือน วุฒิวัย เป็นครูประจำชั้น ห้องเรียนอยู่ใต้ถุนโบสก์ จะไปจะมาบ้านแต่ละครั้งต้องเดินจากตลาดมาถึงบ้าน 7-8 กิโลเมตร ผ่านชายทุ่งนาหน้าแล้งลัดเลาะมาตามคันคลองอีดูด แต่หน้าน้ำเต็มตลิ่งนั่งเรือไอผ่านคลองขนากบ้านตลาดใหม่ บ้านหลักขอน แล้วก็บ้านห้วยคันแหลน

            เพื่อนๆบ้านริมคลอง ที่ขึ้นล่องผ่านคลองห้วยคันแหลนก็จะทยอยขึ้นท่าน้ำบ้านใครบ้านมัน ระหว่างนั่งเรือมาด้วยกันก็เล่นกันไปตามประสาเด็กๆจอมซน


รุ่นน้องที่ไม่ธรรมดา คนล่างนี่นากยก อบต.ตลาดใหม่นะ

            ผมเรียนได้ปีเดียว แม่ไปรับกลับบ้านแล้วบอกว่า บ้านเรามหาเอิบกับหมอกลึงเปิดโรงเรียนชั้นมัธยมขึ้นที่วัดกำแพงมณี วัดหลวงพ่อแก่นซึ่งศักดิ์สิทธิ์จนโจษขานไปทั่ว แต่ระบบการศึกษาเปลี่ยนการไล่เรียงชั้น ผมจึงต้องมาเรียนต่อชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อร่วมรุ่นก็มี นายกอบต.ชูชีพ  บังอร บ้านห้วยคันแหลน ทองดีบ้านตลาดใหม่   หมูจำชื่อจริงไม่ได้และ ตึ๋งบุญชัยสองพี่น้องจากบ้านหลักแก้ว  อี๊ดมณเฑียรจากบ้านหลักขอน  ครูประทุมบ้านอบทม สนั่น นิพนธิ์จากบ้านหนองบอน


คนเสื้อนำ้ตาล พต.คำรณ ประธานจัดงานนี้ 


หมวดเลิศมาจากสิงห์บุรี

             ช่วงชัยกับเพื่อนยุทธ์ ที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดห้วยคันแหลน  พิง ออด  ชู ฯลฯ จากวัดตลาดใหม่  ส่วนป๊อกพิทักษ์ย้ายมาจากวัดวิเศษฯแต่ ลดชั้นลงมาเรียนชั้นเดียวกับช่วงชัย  ครูสะอาด ครูแหย จากวัดอบทม สำเริงจากวัดอะไรจำไม่ได้  พลเอกบุญเลิศ อะไรจำไม่ได้  วัดห้วยโรง วัดหนองบอน ฯลฯ เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หรือ ม.1 เดิม


               ครูบุญส่ง ครูธำมรงค์ ปั้นงาม ดต.ประสิทธิ์ สุรวัตร  ต๊อดบ้านห้วยคันแหลนเหนือ จำชื่อจริงไม่ได้  เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ถือว่าเป็นรุ่นพี่ใหญ่ที่สุด เพราะว่าตอนนั้นโรงเรียนยังเปิดสอนเพียงนั้น แต่ต่อมาก็ขยายชั้นเรียนเป็นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-5-6 อันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนกำแพงมณีวิทยา



               หน้าน้ำเต็มตลิ่งทุกคนพายเรือมาจากบ้านของตน จอดเรือไว้ที่ศาลาท่าน้ำวัด หิ้วปิ่นโตใส่อาหารกลางวันมากินร่วมกัน เพราะว่าไม่มีร้านอาหารมาขายเลย แต่ถ้าหน้าแล้ง นักเรียนทุกหมู่บ้านเดินเรียงกันมาเป็นทิวแถว ดูท้องทุ่งยามนั้นเต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตเช้า—เย็นจึงได้เห็นเด็กนักเรียนเดินเล่นกันไปบ้าง ไล่กวดเตะก้นกันไปบ้าง มีเรื่องเล่ากันตลอดทาง  เป็นความผูกพันร่วมกันที่ยากจะหานักเรียนที่ไหนเหมือน


               อาคารเรียนของพวกเราเป็นศาลาการเปรียญ วันโกนก็จะต้องช่วยกันเก็บโต๊ะเก้าอี้เพื่อเปิดพื้นที่ศาลาให้กับญาติโยมพุทธศาสนิกชนเข้ามาทำบุญร่วมกัน เช้าวันเปิดเรียนพวกเราก็มีหน้าที่ต้องยกโต๊ะเรียนและเก้าอี้เข้าประจำชั้นใครชั้นมัน ชีวิตที่เรียนร่วมกันนั้นแม้จะไม่กี่ปี แต่พวกเราก็จดจำกันและกันได้แม่น เว้นแต่ผมเรียนได้ปีเดียวก็ถูกพี่สาวมาลาออกพาไปเรียนที่โรงเรียนผักไห่สุทธาประมุข เพื่อไปช่วยเลี้ยงหลาน


ผู้ตรวจการวีรยุทธ์ พิทักษ์วงศ์

              ครูใหญ่ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว ใครจำได้ช่วยเติมมาให้ด้วยก็แล้วกัน แม้แต่ครูที่สอนมาทุกคนก็จำนามสกุลท่านไม่ได้ เรียกกันแต่ชื่อหน้าบ้าง ชื่อเล่นบ้าง แต่ก็รักและเคารพครูทุกคนเสมอมา เช่นครูระวิง ครูประสิทธิ์ตอนหลังเปลี่ยนชื่อเป็นครูวาณี ครูละอองรูปหล่อ ครูสนั่น(อู๋) ครู..............ทุกท่านถ่ายทอดวิชาความรู้ตามหน้าที่อย่างตั้งใจ เวลาหวดก้นก็ตั้งใจเช่นกัน ไม่เคยแรงลงเลย


              ชีวิตนักเรียนบ้านนอกเยี่ยงโรงเรียนวัดกำแพงมณีวิทยานั้น  เรียบง่าย ไม่ค่อยมีใครเกเร แบบตีหัวหมาปาหัวเจ๊ก หรือเป็นอันธพาล แต่ก็มีการประมวยกันบ้าง พอเป็นกับแกล้ม หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไปเรียนต่อจนเป็นใหญ่เป็นโต  เล็กบ้างใหญ่บ้าง ครั้นมาพบกันฉันเพื่อนก็มึงมาพาโวยเหมือนเดิม ไม่มีใครยกตนข่มท่าน ไม่มีใครยโสโอหัง แต่ก็มีบางคนไปแล้วไม่เหลียวหลัง ก็ช่างเขา พวกเรามีเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมาด้วยกันนับร้อยๆคน

                ขาดตนเดียว ก็ตอบกันแค่ว่า ช่างแม่งมัน


                เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปเรียนต่อ ทำงานไปตามวิถีแห่งชีวิต วันหนึ่ง ก็มีใครสักคนชวนเพื่อนๆให้กลับมาเยี่ยมโรงเรียนเก่าของเรา แต่ตอนหลังได้ย้ายมาตั้งที่ศาลาการเปรียญวัดห้วยคันแหลน ได้พบเพื่อนเก่าสมัยเด็กๆ ผมเห็นภาพความผูกพัน ไม่มีมารยา ไม่มีจริต ไม่มีท่าทางวางใหญ่วางโต ทุกคนก็ยังเรียกกันขึ้นต้นด้วยคำว่า “ไอ้....แต่ผู้หญิงก็ เธอ...” ความรักช่างงดงาม


               ในบรรดานักเรียนเก่าวัดกำแพงมณีวิทยาแล้ว รุ่นของพิทักษ์ ป๊อก ช่วงชัย ยุทธ์ สะอาด เหนียวแน่นที่สุด เขาพบปะสังสรรค์กันบ่อยครั้ง เขาไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจร่วมกันหลายแห่งหลายที่ โดยวิธีการเล่นแชร์กินเที่ยวและพักผ่อน ผมเองก็เคยไปเป็นแขกประผมดอยหลายครั้ง  ชุ่มชื้นหัวใจดี


               วันที่มีการโทรบอกต่อให้ไปร่วมงานรำลึกถึงครูและเพื่อนๆที่จากไป พร้อมทั้งกราบอำนวยพรให้ครูเก่าของเรามีความสุข  ได้รับการกราบไหว้จากลูกศิษย์ที่เคยเป็นเด็กๆไร้เดียงสาในอดีต แต่วันนี้ แก่ หงอก ล้าน หลังงอ กันไปหลายคน ได้มาร่วมทำบุญ กินข้าวด้วยกัน ผมเดินถ่ายรูปเพื่อบันทึกไว้ให้จดจำ น้ำตาซึมตลอดงาน แต่ถึงเวลากิน โอ้โฮ


               กับข้าววันนั้น แต่ละคนก็สั่งปรุงอย่างที่ตนชอบ เช่น พะโล้ไข่กับหมูสามชั้น  พล่ากบไก่นอกหม้อ ขนมจีนน้ำยาของแท้ดั้งเดิม  หมี่กรอบ  แกงเป็ดใส่หน่อไม้  ผมกินปลาดุกทอดกรอบผัดพริกแกงที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่านี้จริงๆ  กินแล้วยังขอของเหลือกลับมากินต่อที่บ้านอีก เป็นความสุขที่ได้กราบไหว้ครูเก่าที่เคารพรัก ได้พบเพื่อนเก่าๆแม้จะจำได้มั่งจำไม่ได้มั่ง


              ไอ้ตึ๋งนี้ ถ้าไปเจอที่อื่นจะจำมันได้หรือ มันเคยรูปหล่อก็กลายเป็นแก่แก้มตอบ หัวล้าน ฟันหลอ มันเปลี่ยนไป ไอ้ป๊อกนี่ไปเจอที่ไหนก็จำได้ มาดเนี๊ยบผมเรียบแปล้เหมือนเดิม 555555

               เป็นวันทบทวนความทรงจำแสนงาม 


พล่ากบแสนอร่อย

Tags : ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย ต้น 40.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view