http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,961,155
Page Views16,267,519
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย ต้น 83.ดาวเรือง

ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย  ต้น 83.ดาวเรือง

ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย

ต้น 83.ดาวเรือง

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ชื่อสามัญ  คำปู้จู้หลวง  พอทู  African marigold

ชื่อวิทยาศาสตร์   Tagetes  erecta  L.                                     

ชื่อวงศ์  ASTERACEAE


ดอกดาวเรือง

ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์   

             ในต่างประเทศ  พบที่ประเทศเม็กซิโก  อเมริกาเขตร้อน  แอฟริกา

             ในประเทศไทย  พบทั่วไปในเขตร้อน

             การกระจายพันธุ์  ปัจจุบันนี้ปลูกทั่วไปทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เอเชียกลาง   มีการผสมพันธุ์ได้หลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งดอกใหญ่และดอกเล็ก สีเดียวและหลายสี ต้นสูงและต้นเตี้ย  

สถานภาพ  เป็นพืชอายุปีเดียว  นำเข้ามาปลูกประดับ


ลักษณะประจำพันธ์     

            ต้น  เดี่ยว  แตกกิ่งก้านจนเป็นพุ่ม สูง 15-60 ซม. ผิวลำต้นเกลี้ยง  เป็นสัน 

            ใบ  เป็นช่อแบบขนนก ออกตรงข้ามเป็นคู่ๆ ใบบนๆออกสลับกัน  กว้าง 5-7 ซม. ยาว 5.5-12 ซม. ใบย่อยมี 11-17 ใบ รูปรีหรือรูปหอกแกมขอบขนาน  กว้าง 0.5-1.5 ซม. ยาว 1.5-5 ซม. ปลายใบแคบ โคนใบสอบแคบ ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ใบบนๆจักเป็นหนามแหลม มีต่อมรูปกลมหรือค่อนข้างกลม สีเหลือง มักอยู่ที่โคนซี่ฟัน หลังใบเขียวเข้ม เกลี้ยง ท้องใบสีอ่อนกว่า  เกลี้ยง


            ดอก  ออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอด มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน กลีบดอกวงนอกโคนกลีบเป็นหลอดปลายแผ่ ขอบกลีบหยัก กลีบดอกมีสีขาว เหลือง ทอง และส้ม ดอกวงในมีกลีบดอกรูปลอดกระจกกลางดอก บางชนิดมีกลิ่นหอม ขนาดดอก 5-15 ซม. ก้านดอกยาว 4-16 ซม.ปลายก้านบวมพอง  ริ้วประดับเชื่อมติดกันเป็นรูประฆังทรงกระบอก กว้าง 7-20 มม. ยาว 1.5-2.5 ซม. มีสันตามยาว 8-13 เส้น ทางตอนล่างเห็นไม่ชัด ปลายจักเป็นซี่ฟันแหลม 5-10 ซี่ มีต่อมรูปรีแคบ กลีบดอกวงนอกรูปรางน้ำ กว้าง 6-15 มม.ยาว 1.5-2.5 มม. โคนเป็นท่อเล็ก ยาว 7-15 มม. ปลายเป็นรูปไข่กลับ กลีบดอกวงในรูปท่อ  ยาว 1.3-1.5 มม. ปลายจักเป็นซี่ฟัน 5 ซี่ ยาว 4 มม. มีขนนุ่มด้านใน บางพันธุ์กลีบดอกทั้งหมดเป็นรูปรางน้ำ  กลีบดอกวงนอกพันธุ์นี้มักฟูจนแทบมองไม่เห็นกลีบดอกวงใน ออกดอกตลอดปี

            ผล  แห้ง สีดำ ยาว 8-9 มม. รยางค์เป็นเกล็ดสั้นอันหนึ่ง ยาว 9-10 มม.  โคนกว้างเรียวสอบไปทางปลาย  นอกนั้นยาว 3-4 มม.  ปลายมน  เมล็ดขนาดใหญ่ 250-350 เมล็ด/กรัม


สภาพที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์   

             ดินอุดมสมบูรณ์  ร่วน ระบายน้ำดี  แสงแดดเต็มวันอุณหภูมิระหว่าง 15-35 องศาเซลเซียส ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 100-1,000 ม.

              นิยมเพาะกล้าจากเมล็ด โดยกลบเมล็ดบาง ๆ เมล็ดงอกภายใน 5-7 วัน ย้ายปลูกอายุ 10-15 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 60-90 วัน  แต่ก็ปักชำกิ่งได้ แตกรากง่าย 

บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่ายรูป

           ตั้งแต่เด็กๆ แม่จะไปทำบุญที่วัดทีไร ก็ใช้ผมไปเด็ดดอกดาวเรืองจากกระถางตั้งเรียงบนระเบียงหน้าบ้าน เด็ดมาถ้าก้านสั้นไปแม่ก็จะบอกว่าต้องไว้ก้านให้ยาวพอที่จะมัดติดกับธูปและเทียน เพื่อถวายพระท่านได้ แม้จะผูกพันกันมานานแต่ผมก็ไม่เคยชอบกลิ่นดอกดาวเรืองเลย ผมว่าเหม็นเขียว แต่อีกหลายคนอาจว่ามันหอม เมื่อโตมานี่แหละถึงได้รู้ว่าดอกดาวเรืองนั้นมีคุณค่ามหาศาล กล่าวคือ   

          

            1.ปลูกเป็นไม้ประดับ  นิยมปลูกลงแปลง  ลงกระถาง หรือ ใส่ถุงดินขนาดกลางวางตั้ง 

            2.ปลูกเป็นไม้ตัดดอก   เนื่องจากความเชื่อเรื่องดาวเรืองจะช่วยให้ชีวิตรุ่งเรือง จึงนิยมนำดอกดาวเรืองมาใช้ร้อยเป็นพวงมาลัยคล้องคอในงานมงคล การปลูกเพื่อตัดดอกขายจึงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง 

           3.ปลูกเป็นพืชอาหาร 

               สำหรับคน นิยมใช้ดอกอ่อนจิ้มน้ำพริกกินได้  ดอกทำแห้งแล้วเก็บไว้ต้มทำน้ำซุปหรือทำสตูหรือนำไปหมักน้ำส้ม น้ำมันมะกอก  น้ำหวาน  เป็นต้น มีกลิ่นเครื่องเทศ รสขม

              สำหรับสัตว์  อันได้แก่ ไก่และเป็ด ได้มีการใช้ดอกดาวเรืองซึ่งมีสาร Xanthophyll  ผสมอาหารสัตว์เพื่อให้ไข่ไก่หรือเป็ดมีสีแดงและมากขึ้น 

           4.ปลูกเป็นพืชให้สี  ดอกดาวเรืองใช้ทำสีย้อมผ้าและสีผสมในอาหารได้


           5.ปลูกเป็นพืชสมุนไพร  สรรพคุณ

             ทั้งต้น  ใช้เป็นยาแก้ฝีลม  ปวดในท้องขนาดหนักคล้ายไส้ติ่งหรือลำไส้อักเสบ 

             ใบ       รสชุ่มเย็น กลิ่นฉุน  ใช้ทาแผลเปื่อยเน่า  ฝีต่างๆ  น้ำคั้นหยอดแก้หูเจ็บ 

             ดอก     แก้โรคริดสีดวงทวาร  เป็นยาฟอกเลือด  แก้ตาเจ็บ  ใช้กล่อมตับ  ขับร้อน  ขับลม  ละลายเสมหะ  แก้เวียนหัว  ไอหวัด  ไอกรน  เต้านมอักเสบ  คามทูม  เรียกเนื้อทำให้แผลหายเร็ว  แก้หลอดลมอักเสบ  ปรุงกับตับไก่เป็นยาบำรุงสายตา  ลดความดันโลหิต  ขยายหลอดลม   


             สารเคมีสำคัญที่พบ  flavonoid glycoside,  tagetiin,  ß-ferthienyl(สารเรืองแสง),  betacarotine,  flavoxanthin,  ส่วนในใบพบว่ามี kaempfertrin  นอกจากนี้ยังพบว่า ในเมล็ดมีน้ำมัน    

Tags : นกก้านตองหน้าผากสีทอง

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view