ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ไม่ไปไม่รู้จริงๆ
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ดอยอินทนนท์ จอมทอง เชียงใหม่ ระหัสการจดจำที่นักท่องเที่ยวควรระลึกถึง ซึ่งเป็นดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นป่าต้นน้ำสำคัญที่สุดของแม่น้ำปิง เป็นแหล่งพันธุกรรมพืชและสัตว์หลากหลายที่สุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวทีมีทรัพยากรท่องเที่ยวมากที่สุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เที่ยวได้ทั้งปีดีที่สุด เป็นแหล่งที่มีดอกไม้เมืองหนาวให้ชมมากที่สุดในประเทศไทย
ไม่ไปไม่รู้จริงๆ รีบเก็บของเครื่องใช้เตรียมรถยนต์ให้ดีๆ ไปเล่นสงกรานต์ที่น้ำตกเดือนเมษายนนี้เลย รับรองไม่ผิดหวังครับ
ถนนลาดยางอย่างดี
บนดอยสูงมีเรื่องเล่ามากมาย มันกลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันมานานแสนนาน เช่นว่า
ตำนานที่ 1. ดอยที่สูงที่สุดชื่อว่าดอยหลวง ซึ่งหมายความว่า ดอยใหญ่(ใหญ่=หลวง) แต่บางตำนานก็เรียกกันว่าดอยอ่างกา ซึ่งในภาษาปะกาเกอญอมีความหมายว่า ดอยใหญ่(ใหญ่=อ่างกา) สรุปความว่า ดอยอินทนนท์นั้นเป็นดอยใหญ่หลวงแน่นอน
ตำนานที่ 2. ดอยอ่างกาหรือดอยหลวงนั้นเป็นดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,565.3341 เมตร อันเป็นเทือกเขาถนนธงชัยทอดตัวจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ไปทางเทือกเขาหิมาลัย
ตำนานที่ 3. ดอยหลวงหรือดอยอ่างกา ณ จุดที่สูงที่สุดนั้นเป็นที่ประดิษฐานสถูปบรรจุอัฐิของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย ซึ่งในสมัยนั้น ป่าไม้เป็นทรัพย์สมบัติของเจ้าผู้ครองนครทั้งสิ้น พระองค์ทรงปรารถนาที่จะให้บุตรธิดาได้นำอัฐิของท่านไปประดิษฐานไว้ยังยอดดอยหลวงดังกล่าว
ตำนานที่ 4. เมื่อประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติขึ้น จึงได้มีการเทิดพระเกียรติแด่เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เปลี่ยนชื่อดอยหลวงให้เป็น ดอยอินทนนท์
รูปและสถูปพระเจ้าอินทรวิชยานนท์
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ประกาศเป็น 1 ในป่าที่ถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ 14 แห่งเมื่อพ.ศ.2505 ต่อมาปีพ.ศ.2515 ประกาศพื้นที่เป็นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 482.4 ตร.กม.(301,500 ไร่) โดยได้กันพื้นที่เป็นชุมชนเก่าแก่ เช่นบ้านม้งแม่กลาง บ้านแม่กลางหลวง (ปะกาเกอญอ) เป็นต้น ออกนอกเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้อยู่อาศัยและทำกินตามปกติของวิถีชีวิตของแต่ละชนเผ่า โดยมีข้อแม้ว่า จะไม่มีการบุกเบิกป่าใหม่ต่อไป มีหน่วยพิทักษ์อุทยานรอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มีเจ้าหน้าที่และงบประมาณดำเนินการ
ป่าสนสามใบปลูกใหม่ กุหลาบพันปีพืชหายากและพืชถิ่นเดียว
ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เคยมีพื้นที่ถูกบุกรุกทำไร่เลื่อนลอย กองอนุรักษ์ต้นน้ำได้ตั้งหน่วยปรับปรุงต้นน้ำ ปลูกป่าฟื้นฟูให้พื้นที่เต็มไปด้วยป่าไม้ใบบังเหมือนเดิม ต่อมามีโครงการตามพระราชดำริเกิดขึ้นมาอีกหน่วยงานหนึ่ง ดำเนินกิจกรรมตามแนวทางของพระราชดำริ นอกจากนี้ยังมีหน่วยราชการอีกหลายแห่งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เช่นกรมทางหลวง ฯลฯ
เป็นอุทยานแห่งชาติผสมผสานอย่างไทยๆหรืออย่างไรไม่แน่ใจนัก
อาคารต่างๆของโครงการตามพระราชดำริ
ข้างถนนรนแคมมีร้านขายของชาวไทยภูเขามากมายหลายจุด เข้าใจว่าอยู่ในเขตทางหลวง แต่ที่แปลกตามากก็ที่หน้าป้ายอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีต้นไม้ต่างถิ่นโตเบ้อเริ่มเทิ่ม ออกดอกสวยเชียวสีเหลือง และที่หน้าศูนย์บริการก็ปลูกดอกพิทูเนียสีสันสวยงาม แต่ก็เป็นพันธุ์ไม้ต่างถิ่นอีกน่ะแหละ ฮ่วย!!
ส่วนโครงการพระราชดำริก็เต็มไปด้วยไม้ประดับต่างถิ่น(Exotic species) ถ้าเป็นพื้นที่ส่วนที่กันออกจากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ก็แล้วไป แต่ถ้าอยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ประเภทอุทยานแห่งชาติแล้วละก้อ น่าจะไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน
หอมหมื่นปี และดอกไม้เมืองหนาว ต่างถิ่นรอบๆที่ทำการโครงการ
ด้วยความไม่รู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตรงหน้าด่านตรวจจุดที่ 2 ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยังปลูกด้วยกุหลาบแดงของประเทศจีน จำพวก อาซาเลียเสียอีกด้วย โคตรห่วยเลยเฟ้ย แต่ถ้าคุณไปอุทยานแห่งชาติในอเมริกา ถ้ามีชุมชนอยู่เขาจะอพยพออกจากพื้นที่ทั้งหมดเพื่อให้ป่าทำหน้าที่เป็นป่าต้นน้ำ ป่าอนุรักษ์ ป่าป้องกัน ที่ไม่เสี่ยงต่อการทำลายทรัพยากรธรรมชาติใดๆเลย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เมื่อแรกตั้ง นายไพโรจน์ สุวรรณากร หัวหน้ากองอุทยานแห่งชาติ ได้เสนอให้อพยพชาวไทยภูเขาทั้งหมดลงมาอยู่ที่ชายขอบ เช่นเดียวกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และห้วยขาแข้ง
แต่ด้วยอุบัติเหตุบางประการ มีคำสั่งให้ชาวไทยภูเขาอยู่ต่อไป จึงเต็มไปทั้งดอยดั่งวันนี้แหละครับ
ไม้ต่างประเทศต้นนี้ดอกสวยนะ ต้นไม้ห่มผ้าเขียว
ในหลักการจัดการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีบ้านพักแรมและลานกางเต็นท์ ถูกต้องตามหลักการ เดิมก็เป็นบ้านพักเรียบๆ เล็กๆ แต่ต่อมามีการพัฒนาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้น จึงได้มีการสร้างสิ่งก่อสร้างมากมายหลายรูปแบบเพื่อหลายวัตถุประสงค์ ข้อสำคัญ คุณใช้สีทาบ้านพักและอาคารทั่วไปถูกต้องตามกติกาของการจัดการอุทยานแห่งชาติหรือไม่
ลานกางเต็นท์ก็กว้างขวางมากขึ้น
บ้านพักเดิมๆของอุทยาน สิ่งก่อสร้างใหม่ๆใส่สีแปลกๆ
ขณะเดียวกัน โครงการตามพระราชดำริก็สร้างบ้านพักแรมรูปแบบแปลกๆ มองดูก็เก๋ดี เป็นอุโมงค์หินหลากหลายสไตล์ ก็ไม่เลว เพียงแต่ถ้าโครงการนี้ยังอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ก็ไม่น่าที่จะสร้างบ้านพักแรมเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
แต่เมื่อสร้างตามใจผู้บริหารโครงการเสียแล้ว จึงกลายเป็นการบริหารบ้านพักทับซ้อนกัน เช่นเดียวกับกรณีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มีบ้านพักของอุทยานและยังมีบ้านพักของกองฝึกอบรม มีผู้บริหารอีกคนหนึ่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ การจัดการอุทยานแห่งชาติก็น่าจะขาดเอกภาพในการบริหารจัดการใช่หรือไม่
นักท่องเที่ยวต่างชาติแวะกินอาหาร แปลงปลูกดอกไม้เมืองหนาวชาวไทยม้ง
แต่อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์แบบคนไม่รู้เสียได้ก็คงจะเกิดผลดีต่ออารมณ์และความรู้สึก เพราะว่าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีทรัพยากรท่องเที่ยวมากมายหลายอย่าง น้ำตกเอย วิถีชีวิตชาวชนเผ่าเอย ดอกไม้เมืองหนาวเอย ปลาเทราจากเมืองหนาวเอย (นี่ก็Exotic species) นอกจากนี้ก็ยังมีวัวนม วัวเนื้อ กล้วยไม้ ดอกไม้ ฯลฯ (เละตุ้มเป๊ะจริงๆ) อากาศก็เย็นสบายตลอดปี เว้นแต่ช่วงหนาวจะหนาวมากเป็นพิเศษ
หน้าร้อน หรือหน้าฝน น่าเที่ยวเสมอ เย็นสบายจริงๆ
ผมถ่ายรูปมาจากบอร์ดโชว์ของเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอ่างกา
จะอย่างไรก็ตาม ร้อนๆอย่างนี้ไปเที่ยวบนดอยสูงๆ อากาศยังเย็นสบายทุกแห่งครับ เช่น
ในเชียงใหม่ก็เช่น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ดอยสุเทพ ออบขาน ขุนขาน ฝาง ผ้าห่มปก
ที่จังหวัดเชียงรายก็เช่น วนอุทยานภูชี้ฟ้า ดอยช้าง ดอยตุง ดอยหลวง
ที่จังหวัดน่านก็เช่น ดอยภูคา นันทบุรี ขุนสถาน
ที่จังหวัดพิษณุโลก-เพชรบูรณ์ก็เช่น ภูหินร่องกล้า ภูทับเบิก
ที่จังหวัดเลยก็เช่น ภูหลวง ภูกระดึง นาแห้ว
แต่ถ้าเป็นฝั่งตะวันตกก็เช่น ทองผาภูมิ ห้วยขมิ้น เขื่อนเขาแหลม
ที่จังหวัดเพชรบุรีก็เช่น พะเนินทุ่ง แก่งกระจาน
ซึ่งจะยังมีอากาศที่เย็นสบายหายห่วง เพราะว่าอยู่บนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 900 เมตรขึ้นไป
พันธุ์ไม้ต่างถิ่นหน้าที่ทำการ
ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวควรจองที่พักของอุทยานแห่งชาติเสียก่อน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หรือที่ใดๆ ติดต่อที่ แผนกบริการบ้านพัก กรมอุทยานแห่งชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร.02-5610777 หรือ จองออนไลน์ www.dnp.go.th