แบกเงินไปเที่ยวนอก สนุกสุดๆ
ดนยารายา เรื่อง-ภาพ
เบื่อเมืองไทย อากาศเดือนมีนาคมก็ร้อน แล้วเมษายนจะร้อนแค่ไหน แค่อากาศร้อนก็พอทน แต่คนเสื้อสารพัดสีออกมาราวีกันนี่ซี น่าเบื่อหน่าย ไม่ประเทืองปัญญา และเครียดสุดๆ
ฉันก็เลยเกิดความคิดเบี่ยงเบนไปจากเดิมที่ชอบเที่ยวแต่เมืองไทย ไม่ไปไม่รู้นั่นละค่ะ สถานการณ์บ้านเมืองทำให้ฉันตัดสินใจ แบกเงินไปเที่ยวนอก สนุกสุดๆกันไปเลย
ศิลปะการตกแต่งด้วยไม้ประดับ สุดหรู
ก็อย่างว่านะคะ จะไปต่างประเทศแบบแบกเป้แล้วยังไปคนเดียวด้วยแล้ว ไม่ง่ายเลย ฉันจึงต้องพึ่งพาบริษัทนำเที่ยว สะดวก ปลอดภัย มั่นใจ ได้สนุกตามรายการ ก็สมควรแล้วค่ะ
บริษัทที่ฉันไปกับเขานี่ไม่ได้ลดหย่อนอะไรให้กับฉันสักบาท ฉันจึงไม่ขอเอ่ยชื่อถึงนะคะ แต่ถ้าโทรมาถามก็จะแอบบอกให้ได้อยู่ค่ะ
พระราชวังแวร์ซายน์
ไฮท์ไลท์ครั้งนี้เริ่มต้นที่พระราชวังแวร์ซายน์ (Chateau de Versailles) อยู่กลางใจเมืองมหานครปารีสค่ะ มันช่างยิ่งใหญ่อลังการตั้งแต่ทางที่เดินเข้าไปเชียวนะคะ การตกแต่งวิจิตรบรรจงสุดพรรณาค่ะ ไปยืนเทียบหน้าพระราชวังแล้ว เราจึงดูเล็กเหลือกำลัง ไกด์เล่าว่า พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 อายุ 23พรรษา โปรดการล่าสัตว์มาก และเห็นว่า ณ ตรงนี้เหมาะสมที่จะสร้างวังสำหรับล่าสัตว์ จึงโปรดให้สร้างเมื่อ พ.ศ.2167 พอปีพ.ศ.2204 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ครองราชย์ทรงโปรดให้สร้างพระราชวังแวร์ซายน์ ด้วยเงินทั้งสิ้น 5 แสนฟรังส์ ใช้คนทำงาน 3 หมื่นคน ในเวลาที่สร้าง 30 ปี จึงแล้วเสร็จเมื่อพ.ศ.2234 วัสดุใช้หินอ่อนสีขาว มีห้องทรงสำราญทุกอย่างมากมายสุดๆ บรรเทิงเต็มที่ก็ว่าได้
ภายในหรูเริดอลังการ
ด้วยความฟุ้งเฟ้อของราชสำนัก ประชาชนคนฝรั่งเศสทนต่อความโหดร้ายของพระเจ้าแผ่นดินไม่ได้ จึงเกิดการปฏิวัติประชาชนขึ้น พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 และพระนางมารี อองตัวเนต ถูกประหารชีวิตด้วย "กิโยติน" (6ตค.2332) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พระราชวังแห่งนี้ก็ถูกเปิดให้ประชาชนได้เข้าไปชมได้ และกลายเป็นจุดขายการท่องเที่ยวที่สำคัญ เพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวให้อย่างมากมาย ฉันก็คนหนึ่งละค่ะที่ยอมเสียเงินมาชม
ผู้เขียนแอคท่า หอไอเฟล
ออกจากพระราชวังแวร์ซายน์ได้ไปรอขึ้นลิฟท์ที่หอไอเฟล รอนานตั้ง 2 ชั่วโมง โคตรเซ็งเลย หนาวก็หนาวสุดๆ แต่ก็มาแล้ว ต้องทนรอ เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์เต็มออฟชั่น อะไรไม่ว่าสิคะ รอนานน้านนาน ขึ้นไปได้ชมบรรยากาศแค่ 15 นาทีต้องรีบลง เพราะว่าต้องไปล่องเรือ บาตองบูซน์ ชมแม่น้ำแซนแสนงาม สองฝั่งแม่น้ำบ้านเรือนเขาดูช่างวิจิตรงามตาเหลือหลาย คุ้มค่าน่ามาค่ะ
ขึ้นกระเช้าไฟฟ้า ทิวทัศน์สวยมาก
รายการต่อมาได้ไปเทือกเขาทิตลิส(Titlis) เป็นเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี ด้วยว่ามันสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,200 เมตรทีเดียว เขาไปเล่นสกีน้ำแข็งกันค่ะ แต่สำหรับฉันแล้ว ไปถ่ายรูป ไปเยือนว่าได้มาถึงแล้ว สวิสเซอร์แลนด์แดนมหัศจรรย์ที่ฉันฝันถึง
ประเทศในเขตอากาศหนาวนั้นมักมีต้นไม้เปลี่ยนสีตามฤดูกาล สีสันสดใส แปลกตา ชวนหลงไหล บ้านเรามันร้อนแล้งแล้วก็มีสีแดงสีเหลืองสีเขียวขี้ม้า เดือดปุดๆ หนีดีกว่าค่ะ
หิมะปกคลุมตลอดปี เท่.........ระเบิดมั้ย
คราวนี้ลงไปในถ้ำน้ำแข็งพันปี หนาวสุดๆ แต่ก็อยากเข้าไปเยี่ยมชมสักนิด ถ่ายรูปก่อนเข้าไปได้ 1 รูป เผื่อว่าเข้าไปแล้วกลายเป็นน้ำแข็งอยู่ในนั้นจะได้ส่งรูปให้คนข้างหลังเก็บไว้ระลึกถึง โว๊ว !! อย่างไรก็ตาม ในการไปท่องแดนดินถิ่นแปลกตานั้นอะไรก็ดูดี ดูสวยไปหมด มันเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกด้วยนะ ได้ไปไกลบ้านต่างเมืองก็สดชื่น
แต่พอว่าจะต้องกลับเมืองไทย ได้แต่ภาวนาว่า ขอให้บ้านเมืองสงบสุขเสียทีเถอะ
หิมะนะหิมะ ทำเอาดำไปเลย..ฮึฮึ
ความรู้ประกอบโดยสรุป
- พ.ศ. 2167 (ค.ศ. 1624) - พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ทรงมีรับสั่งให้สร้างพระตำหนักที่แวร์ซายส์ขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับในขณะล่าสัตว์
- พ.ศ. 2204-2208 (ค.ศ. 1661-1665) - พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงจ้างสถาปนิก หลุยส์ เลอ โว (Louis Le Vau) ให้มาสร้างพระราชวัง
- พ.ศ. 2210-2213 (ค.ศ. 1667-1670) - การก่อสร้างสวนโดย อองเดร เลอ โนเทรอ(André Le Nôtre)
- พ.ศ. 2211 (ค.ศ. 1668) - เลอ โว เริ่มสร้างพระราชวังต่อ
- พ.ศ. 2218-2225 (ค.ศ. 1675-1682) - สร้างเขื่อนที่แม่น้ำเซน เพื่อผันน้ำเข้าสู่พระราชวัง
- พ.ศ. 2221-2230 (ค.ศ. 1678-1688) - สร้างห้องกระจกโดย Monsieur