พระพุทธวิเศษ  วัดทุ่งศรีวิไล    อุบลราชธานี

ตำนานการขอโอรส ธิดา ของกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์  และหม่อมเจียงคำ
                           
                                                                              โดย   “พรหมพร”

            เรื่องราวที่เล่าขานสืบต่อกันมาของชาวพุทธส่วนใหญ่ ที่มักจะได้ยินคุ้นหูอยู่เสมอ  ถึงพุทธานุภาพของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ที่ประดิษฐานอยู่ตามวัดต่างๆ เช่น เดียวกับ   “หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ”   พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวบ้านชีทวน  เมืองอุบลราชธานี  

บ้านชีทวน  เป็นหมู่บ้านเก่าแก่  มีตำนานเล่าขานเรื่องนางเจียงได  แห่งเมือง

เซซ่วน   ภายในหมู่บ้านหลายแห่งมีซากโบราณสถาน  โบราณวัตถุล้ำค่า แสดงหลักฐาน  การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์  สืบเนื่องมาหลายยุคสมัย  ตั้งแต่ยุคขอมโบราณสืบเนื่องถึงคนในวัฒนธรรมลาว  สยาม  และไทยในปัจจุบัน

                        

            มีคำกล่าวเป็นปริศนามาแต่โบราณของชาวบ้านชีทวนที่กล่าวไว้ว่า  หมู่บ้านแห่งนี้เป็น   “ทุ่งสามขา นานกเขียน เงินสามเกวียน อยู่ใต้ลมพลับ”  ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของบริเวณแห่งนี้

            ปัจจุบัน  บ้านชีทวนเป็นแหล่งศึกษาทางโบราณคดีแห่งหนึ่งของอุบลราชธานี  มีซากเรือขุดโบราณ  พระธาตุเก่าแก่  ธรรมมาสสิงห์  และยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์  เป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดทุ่งศรีวิไล ต.ชีทวน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ที่ผู้คนนับถือเลื่อมใสอีกด้วย  นั่นคือ  หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ  


                                 

             เป็นพระพุทธรูปปางสมาธินาคปรก สร้างจากศิลาแลงขนาดหน้าตักกว้าง ๕๕   เซนติเมตร  สูง ๙๐ เซนติเมตร  เป็นศิลปะแบบเขมรในยุคสมัยทวาราวดี มีอายุกว่าพันปี และถูกค้นพบเมื่อกว่า ๒๐๐ ปีก่อนในที่ดินของนางเจียงได  บุตรสาวเจ้าเมืองซีซ่วน(ชีทวน)  บริเวณโนนนกเขียน ไปพบเศียรพระของหลวงพ่อพระพุทธวิเศษโผล่พ้นพื้นดิน จึงร่วมกันทำพิธีอัญเชิญหลวงพ่อขึ้นมา  พร้อมสร้างศาลาไม้ตรงจุดที่พบ นอกจากพบหลวงพ่อพระพุทธวิเศษแล้ว ยังพบพระพุทธรูปในยุคเดียวกัน อีกหลายองค์  และยังพบใบเสมาล้อมรอบบริเวณที่ค้นพบซ้อนกันอยู่หลายชั้น จึงเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวเมื่อกว่าพันปีก่อนอาจเป็นที่ตั้งวัดเก่าที่ถูกทิ้งร้าง

                         
            คำบอกเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อพระพุทธวิเศษ  เมื่อกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์  ข้าหลวงสำเร็จราชการ ในมณฑลอีสาน (เสด็จในกรมของชาวอุบล ต้นตระกูล ชุมพล ) มาได้สาวชาวอุบล  ลูกหลานเชื้อสายเจ้าเมืองเก่า  คือ  หม่อมเจียงคำเป็นชายา แต่ยังไม่มีพระโอรสและพระธิดา

มีอยู่ครั่งหนึ่งทั้งสองท่านได้เสด็จออกไปเยี่ยมประชาชนที่บ้านชีทวน และได้ทราบมาว่าที่บ้านชีทวนนี้มีพระพุทธรูปเก่าแก่  และศักดิ์สิทธิ์ คือ หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ   สามารถที่จะบนบานศาลกล่าว   หรือขอสิ่งที่ปรารถนาได้   จึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบสักการบูชาขอพระโอรสและพระธิดาจากหลวงพ่อ จากนั้นไม่นานหม่อมเจียงคำ พระชายาก็ทรงมีพระครรภ์ พร้อมประสูติพระโอรสและพระธิดา  คือ หม่อมเจ้าอุปลีสาน และหม่อมเจ้ากมลีสาน  ตามที่กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์   ได้บนบานขอไว้

                                 

            นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และปาฏิหาริย์ แล้ว ยังช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้ โดยมีเรื่องเล่าว่า ถ้ามีอาการเจ็บป่วย ก็ให้มากราบไหว้บนบานบอกกล่าวกับหลวงพ่อพระพุทธวิเศษ แล้วนำแผ่นทองคำเปลวไปติดตามส่วนต่างๆ ขององค์พระ เช่น ปวดแขน  ก็ให้นำแผ่นทองคำเปลวไปแปะติดที่แขนขององค์พระ อาการที่ปวดก็จะหายไป ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งข้าหลวง ญาติโยม และ ประชาชนทั่วไป ต่างก็มาสักการบูชาหลวงพ่อพระพุทธวิเศษ

 

                        วัดทุ่งศรีวิไล ได้เปิดให้กราบนมัสการทุกวัน ที่วิหารหลังใหม่ที่ทำครอบวิหารหลังเดิม  โดยมีหลวงพ่อพระพุทธวิเศษ เป็น พระประธานปางนาคปรกศิลปะทวารวดี     และวันเพ็ญเดือน ๕ ของทุกปีทางวัดร่วมกับญาติโยม ได้จัดงานสมโภชปิดทององค์พระเป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน    ประชาชนทั่วประเทศ ที่เลื่อมใสศรัทธาในพุทธานุภาพของท่าน  ต่างหลั่งไหลมากราบไหว้บูชาเพื่อเป็น สิริมงคลให้กับชีวิต และขอในสิ่งที่ปรารถนา

๐๐๐๐๐