ย่ำทรายในสายหมอก ชมดอกไม้ในทัสมาเนีย
ตอน4. ไป Bag Sheep Manure
โดยเอื้อยนาง
ใยเข็มที่รัก
เคยเล่าแล้วใช่ไหมว่าชาวบ้านถิ่นที่นี่เขาชอบทำสวน อวดกันน่ะ พูดไปแล้วเจ้าอาจไม่เชื่อว่า คนแก่อายุเจ็ดสิบแปดปีที่นี้นั้นต่างคนต่างอยู่บ้านคนละหลัง ทำสวนคนละหย่อมสองหย่อม หรือหลายๆหย่อม ปลูกผัก ปลูกมัน ปลูกดอกไม้ไว้ชื่นชมแทนลูกหลาน ดังนั้นปุ๋ย จึงจำเป็นอันดับสองของชีวิต (อันนี้ข้อยสรุปเอาเอง) รองลงมาจากข้าวปลาอาหาร และพวกเขาก็นิยมปุ๋ยคอกมากกว่า โดยเฉพาะ Sheep Manure กับ Cow Manure เป็นยอดนิยมอันดับหนึ่ง กับ อันดับสองตามลำดับ บรรจุถุงแล้วราคากันเองถุงละ 3.5 ดอลลาร์
ถ้าไปซื้อบางแห่งที่เขาบรรจุถุงไว้อาจได้ราคาก็ถูกกว่า ริมถนนหน้าฟาร์มบางแห่งเขาเอาถุงปุ๋ยมากองตั้งเทินกันไว้ พร้อมป้ายบอกราคา และกล่องเงิน ใครอยากได้ก็ยกเอาไปแล้วเอาเงินใส่กล่องไว้ง่ายดีจ้ะ ไม่เสียเวลาถามไถ่ให้ยาก และเอเย่น รายใหญ่ในเมือง เซนต์เฮเลนส์ ที่บรรจุปุ๋ยมาจำหน่ายก็คือ ชาวโรตารี่คลับของเซนต์เฮเลนส์นี่เอง เป็นการหาเงินเข้าสโมสรน่ะ ไม่ใช่เข้ากระเป๋าใครคนใดคนหนึ่งหรอก เจ้าก็รู้อยู่ว่าที่ข้อยได้มีโอกาสมานั่งอ่าน นั่งเขียนอยู่ที่นี่นั้นเป็นความอนุเคราะห์จากโรตารีคลับแห่งนี้ ดังนั้นกิจกรรมใด ๆ ของพวกเขาข้อยต้องพยายามเข้าไปแจมละ
เช้าตรู่วันหนึ่งของเดือน กรกฎาคม ข้อยจึงได้ฝ่าความหนาวเย็นของอากาศ ออกจากบ้าน(อย่างกล้าหาญ) ติดขบวนรถบรรทุกถุงด้วย ทั้งหมด 8 คน จุดหมายปลายทางคือฟาร์มใหญ่แห่งหนึ่งที่เมือง ฟิงกัล(Fingal) ห่างจากเมืองเซนต์เฮเลนส์ประมาณ
ใยเข็มเอย…. เดือนกรกฏาคมเป็นช่วงกลางฤดูหนาวของที่นี่ ไฟหน้ารถส่องให้เห็นข้างหน้าเพียงระยะใกล้ๆ พอให้รู้ว่าพื้นถนนอยู่ตรงไปไหนเท่านั้นเอง เวลามีรถสวนมาแต่ละที มองเห็นแสงไฟจากรถข้างหน้าที่สวนมาเหมือนดวงตาสัตว์ประหลาดที่พุ่งออกมาจากความมืดไม่มีผิด ดีแต่ว่าชาวคณะในรถคุยกันโฉงเฉงเหมือนไม่รู้สึกรู้สมกับโลกรอบตัวแต่อย่างใด ทำให้ค่อยหายใจสะดวกหน่อย คิดเสียว่าถึงอย่างไรในโลกนี้ก็มิได้มีเพียงแต่ข้อยเท่านั้นหรอก ที่ต้องประจันหน้ากับสัตว์ประหลาด หากว่ามันมีและมาจริง ๆ
ฟิงกัล เป็นเมืองเล็กๆบนเชิงเขาที่ร่ำรวยด้วยถ่านหิน บวนรถไฟที่วิ่งอยู่เป็นประจำ คือขบวนรถขนไม้ซุงและถ่านหินสู่ลันเชสตันและท่าเรือที่ดาเวน-พอร์ททางเหนือของรัฐ ใกล้ๆสถานีรถไฟที่ฟิงกัลจะมองเห็นถ่านหินกองเป็นภูเขาเลากา เป็นถ่านหินที่ขนลงมาจากเหมืองบนภูเขา ซึ่งมองเห็นลิบๆ ในม่านหมอก
แล้วพระอาทิตย์ก็ฉายส่องออกมา เมื่อตอนสาย โลกของทัสมาเนียเป็นอย่างนี้ตะวันเดินเฉียง ๆ มาสาย ๆ แต่แสงจัดจ้า แม้จะเป็นแดดเย็นก็มีผลทำให้หญ้ายังเขียวขจีอยู่ได้ ฟาร์มใหญ่ ๆ กว้างสุดลูกหูลูกตาจึงมีอยู่มากมาย
ลานหญ้าเขียวที่จมอยู่ในเกล็ดน้ำค้างหน้าโรงเรือนริมฝั่งแม่น้ำคือที่ที่ขบวน รถมาจอด สมาชิกชาวโรตารี่ทั้งหลายต่างกระโดดลงจากรถขนถุงเปล่า ขนเครื่องไม่เครื่องมืออันมีพลั่ว ค้อน เหล็ก เข้าไปในโรงเรือน ซึ่งเป็นโรงงานสำหรับตัดและบรรจุขนแกะ
ส่วนข้อยนั้นนะใยเข็ม… สะพายกล้องถ่ายรูปแล้วก็เดินย่องๆ(ก็มันหนาวน่ะ)เข้าสู่ประตูคอกซึ่งอยู่เลยออกไป ด้วยแลเห็นฝูงแกะมากมายบนเนินดินที่ขาวโพลนอยู่ข้างหน้า อยากไปดูซิว่าพวกมันหนาวกันบ้างไหม แต่อย่าหวังเลยว่าจะเข้าใกล้มันได้ เราไปซ้ายมันย้ายไปอยู่ขวา เราไปข้างหน้ามันก็พากันย้ายขบวนไปอยู่ข้างหลัง เนื้อที่บริเวณรั้วกั้นก็แสนกว้างใหญ่ ครอบภูเขาเตี้ยๆไว้หลายลูก สุดปัญญาจะฝ่าความหนาวเข้าไปใกล้มันได้ จึงถอยหลังเข้ามาเดินซอกสำรวจในโรงงานที่กั้นไว้เป็นช่อง ๆ สำหรับต้อนแกะเข้าซอง
เห็นระบบทำฟาร์มของเขาแล้วรู้สึกอิจฉาอยากเป็นเจ้าของฟาร์มอย่างเขาบ้างนะใยเข็ม มีอย่างหรือ เนื้อที่เปล่าเปลี่ยวอย่างนี้ ปล่อยแกะทิ้งไว้เป็นพันๆตัว เครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักรมากมายหาคนเฝ้าสักคนก็ไม่มี ขโมยขโจรไม่รู้หายหัวไปไหนหมด เมื่อชาวคณะของเรามาถึงนั้นเห็นมีเด็กสาวผมสีทองหน้าใสๆคนหนึ่งขี่ม้ามาดู พอให้รู้ว่าใครมาเท่านั้นแหละแล้วจากไป ไม่ลงจากหลังม้าด้วยซ้ำ ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วง
ตัดขนแกะด้วย จึงไม่มีคนงาน
ในโรงงานเลย ชาวคณะของเรามาถึงก็เปิดประตูปึงปัง แล้วทำการงัดไม้พื้นกระดานกันโป็กเป๊ก
ไปงัดไม้พื้นกระดานกันทำไมเหรอ….?
ข้อยจะบอกให้นะใยเข็มที่รัก พื้นไม้กระดานของโรงเรือนนี้ เป็นไม้กว้างประมาณ 3 นิ้วปูไว้ห่างๆกันเป็นร่องๆ เวลาคุณแกะทั้งหลายถูกต้อนเขามารอคิวเข้าไปกล้อนขนหรือฉีดวัคซีนนั้น เธอก็จะพากันถ่ายมูลออกมาไม่เลือกเวลาล่ำเวลา ประสา
สัตว์นั้นแหละ มูลนั้นก็จะตกลงในร่องหรือไม่ก็ถูกกวาดลงไปกองอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง ซึ่งเขาลาดเอียงลงสู่ที่ต่ำริมฝั่งแม่น้ำสะดวกแก่การเก็บกวาดทำ ความสะอาด
และขนย้ายนำไปทำปุ๋ย
อันว่าสัตว์สี่เท้าเขางอๆ ตัวกลมๆ คอสั้นๆ ที่เรียกว่า Sheep หรือแกะนี้ช่างมีคุณอนันต์กับชาวบ้านร้านถิ่นที่นี่เหลือเกิน กินอยู่ก็แสนง่าย มีเพียงหญ้าไว้ให้ก็พอแล้ว ทั่วทั้งตัวนั้นเป็นประโยชน์ทั้งหมด รู้ไหมเนื้อลูกแกะที่เรียกว่า Lamb นั้นเป็นอาหารชั้นหนึ่งเชียวนะ ขนแกะก็เป็นสินค้าส่งออกทำรายได้ให้ทัสมาเนียปีหนึ่งๆ เป็นเงินไม่น้อย ผืนแผ่นดินและภูมิอากาศแห่งทัสมาเนียเป็นที่ผลิตขนแกะได้ดีเยี่ยมแห่งหนึ่งของโลก แกะเป็นสินค้าส่งออกทั้งที่เป็นตัวเป็นๆและเนื้อ ขน ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ผลิตจากขนแกะ เช่น เสื้อ หมวก รองเท้า พรม ฯลฯ
เจ้าของฟาร์มแห่งนี้เป็นชาวอังกฤษ นานๆครั้งจึงจะมาสักทีหนึ่ง ทิ้งปราสาทหลังใหญ่เชิงเขาไว้ให้หงอยเหงาว่าเปล่าในโลกกว้าง หากอยู่แถวบ้านเราคงสบายขโมยไปแล้ว
ข้อยดูไป จดไปตามประสาจนได้เวลากินน้ำชาจึงกลับไปที่รถ ชาวคณะต่างละมือจากงานมาทานอาหารว่างกัน เห็นฝรั่งกินข้าวห่อ(ที่จริงขนม นม กาแฟ และเนย) แล้วคิดถึงเด็กน้อยชั้นอนุบาลบ้านเราที่นำข้าวห่อมากินที่โรงเรียนจัง พอเสียงระฆังดังขึ้นแม๊ง ๆ …..เท่านั้นแหละต่างคนต่างเอากล่องเอากระติบของตนออกมาเปิด นั่งกินกันเป็นวง แต่ของใครของมัน ของฉันต่างหาก ไม่เกี่ยวกับใครเด้อ…. อะไรทำนองนั้นนะ ฝรั่งตัวใหญ่ ๆ ที่นี่ก็ทำอย่างนั้น เสร็จสรรพก็กลับไปทำงานต่อจนได้เวลาอาหารเที่ยงก็ทำแบบเก่าอีก… เออก็ดีไปอย่างง่ายๆสบายๆ ดี … หากแต่ว่าในความรู้สึกจริงๆของข้อย ซึ่งเป็นคนไทยอีสานเติบโตมาจากบ้านป่าผาดอน เคยหาบกระดอนคอนตระกร้าใส่กระติบข้าวเหนียว กระปุกปลาร้าไปกินข้าวป่าที่ริมห้วยปลายนา ไ ปกันทั้งหมู่บ้าน ถือจอบ เสียม แห สวิง ไปขุดกบหาปลา คนไม้คนละมือ ใครได้อะไรก็เอามารวมกัน แล้วช่วยกันต้มแกงแบ่งกันกินถ้วนทั่ว มันให้รสชาติที่ดีและอบอุ่นกว่ากันเยอะเลย
ช่วงบ่ายแสงแดดส่องจ้าออกมา ขับไล่หมอกน้ำค้างให้จางหาย
มองจากหน้าต่างโรงเรือนออกไป เห็นภูเขาเขียวครื้ม มีหิมะขาวโพลนปกคลุมยอดเขาสูงๆ มองเหมือนมันสวมหมวกขนแกะ อีกด้านคือเมืองฟิงกัล มองไกลๆเหมือนบ้านขนมตั้งเรียงรายลดหลั่นอยู่บนเนินเขาเกือบบ่าย 3 โมงถุงปุ๋ยที่ได้รับการบรรจุเต็มแล้วกว่า 300 ถุงก็ขึ้นไปกองพะเนินบนรถพ่วงสองคันและรถบรรทุกเล็กอีกหนึ่งคัน เป็นที่เรียบร้อย ทั้งหมดช่วยกันปูพื้นกระดานที่ถูกรื้อออกให้กลับเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาโบกมือลาฝูงแกะ ผู้ผลิตปุ๋ยให้โดยไม่คิดมูลค่า เห็นหน้าซื่อๆที่นิ่งมองตามหลังแล้วข้อยก็เลยหยิบปากกาขึ้นมาเขียน ตามประสาลูกคนช่างเขียนนั้นแหละจ้า
ตัวกลมๆ สีมอๆ คอสั้นๆ หน้าตาเจ้านั้นซื่อๆ ตาใสๆ
ขนหยิกฟูหัวหูนั้นช่างน่าขันกระไร เขานั้นไซร้โค้งงอเป็นขอเคียว
นี่นะหรือที่ชื่อเจ้าเขาเรียกแกะ ตลอดวันเอาแต่และเล็มหญ้าเขียว
ไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรือเปล่าเปลี่ยว ถามหน่อยเชียว…ว่าสุขทุกข์เป็นอย่างไร
…เข้าใจหรือเปล่า
วันนี้ได้แต่ Bag Sheep Manure ทั้งวันเบื่ออ่านไหมจ๊ะใยเข็ม เอาไว้วันหน้าไปขี่ม้าเห็นจะเข้าท่ากว่านะ
รักเจ้าหลาย
จาก ข้อยเอง
“เอื้อยนาง”