http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,996,124
Page Views16,304,524
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ย่ำทรายในสายหมอก ชมดอกไม้ในทัสมาเนีย ตอน4 ไป Bag Sheep Manure

ย่ำทรายในสายหมอก ชมดอกไม้ในทัสมาเนีย ตอน4  ไป Bag Sheep Manure

ย่ำทรายในสายหมอก ชมดอกไม้ในทัสมาเนีย
ตอน4. ไป Bag Sheep Manure

โดยเอื้อยนาง

ใยเข็มที่รัก


         
เคยเล่าแล้วใช่ไหมว่าชาวบ้านถิ่นที่นี่เขาชอบทำสวน อวดกันน่ะ พูดไปแล้วเจ้าอาจไม่เชื่อว่า  คนแก่อายุเจ็ดสิบแปดปีที่นี้นั้นต่างคนต่างอยู่บ้านคนละหลัง  ทำสวนคนละหย่อมสองหย่อม หรือหลายๆหย่อม ปลูกผัก ปลูกมัน ปลูกดอกไม้ไว้ชื่นชมแทนลูกหลาน  ดังนั้นปุ๋ย จึงจำเป็นอันดับสองของชีวิต (อันนี้ข้อยสรุปเอาเอง)  รองลงมาจากข้าวปลาอาหาร  และพวกเขาก็นิยมปุ๋ยคอกมากกว่า  โดยเฉพาะ  Sheep Manure กับ  Cow Manure  เป็นยอดนิยมอันดับหนึ่ง กับ อันดับสองตามลำดับ  บรรจุถุงแล้วราคากันเองถุงละ 3.5 ดอลลาร์  

                            
  

          ถ้าไปซื้อบางแห่งที่เขาบรรจุถุงไว้อาจได้ราคาก็ถูกกว่า  ริมถนนหน้าฟาร์มบางแห่งเขาเอาถุงปุ๋ยมากองตั้งเทินกันไว้  พร้อมป้ายบอกราคา และกล่องเงิน  ใครอยากได้ก็ยกเอาไปแล้วเอาเงินใส่กล่องไว้ง่ายดีจ้ะ  ไม่เสียเวลาถามไถ่ให้ยาก และเอเย่น รายใหญ่ในเมือง เซนต์เฮเลนส์ ที่บรรจุปุ๋ยมาจำหน่ายก็คือ  ชาวโรตารี่คลับของเซนต์เฮเลนส์นี่เอง  เป็นการหาเงินเข้าสโมสรน่ะ  ไม่ใช่เข้ากระเป๋าใครคนใดคนหนึ่งหรอก
   เจ้าก็รู้อยู่ว่าที่ข้อยได้มีโอกาสมานั่งอ่าน นั่งเขียนอยู่ที่นี่นั้นเป็นความอนุเคราะห์จากโรตารีคลับแห่งนี้    ดังนั้นกิจกรรมใด ๆ ของพวกเขาข้อยต้องพยายามเข้าไปแจมละ

   เช้าตรู่วันหนึ่งของเดือน  กรกฎาคม   ข้อยจึงได้ฝ่าความหนาวเย็นของอากาศ  ออกจากบ้าน(อย่างกล้าหาญ)  ติดขบวนรถบรรทุกถุงด้วย   ทั้งหมด 8  คน  จุดหมายปลายทางคือฟาร์มใหญ่แห่งหนึ่งที่เมือง ฟิงกัล(Fingal)  ห่างจากเมืองเซนต์เฮเลนส์ประมาณ  50 กิโลเมตร  เป็นเส้นทางเดิมที่ไปเซนต์เมรี่เมื่อวันก่อนนั่นแหละ 

                         

           
ใยเข็มเอย….  เดือนกรกฏาคมเป็นช่วงกลางฤดูหนาวของที่นี่  ไฟหน้ารถส่องให้เห็นข้างหน้าเพียงระยะใกล้ๆ พอให้รู้ว่าพื้นถนนอยู่ตรงไปไหนเท่านั้นเอง เวลามีรถสวนมาแต่ละที มองเห็นแสงไฟจากรถข้างหน้าที่สวนมาเหมือนดวงตาสัตว์ประหลาดที่พุ่งออกมาจากความมืดไม่มีผิด ดีแต่ว่าชาวคณะในรถคุยกันโฉงเฉงเหมือนไม่รู้สึกรู้สมกับโลกรอบตัวแต่อย่างใด  ทำให้ค่อยหายใจสะดวกหน่อย คิดเสียว่าถึงอย่างไรในโลกนี้ก็มิได้มีเพียงแต่ข้อยเท่านั้นหรอก     ที่ต้องประจันหน้ากับสัตว์ประหลาด     หากว่ามันมีและมาจริง ๆ


           
ฟิงกัล เป็นเมืองเล็กๆบนเชิงเขาที่ร่ำรวยด้วยถ่านหิน  บวนรถไฟที่วิ่งอยู่เป็นประจำ   คือขบวนรถขนไม้ซุงและถ่านหินสู่ลันเชสตันและท่าเรือที่ดาเวน-พอร์ททางเหนือของรัฐ   ใกล้ๆสถานีรถไฟที่ฟิงกัลจะมองเห็นถ่านหินกองเป็นภูเขาเลากา   เป็นถ่านหินที่ขนลงมาจากเหมืองบนภูเขา   ซึ่งมองเห็นลิบๆ ในม่านหมอก

            แล้วพระอาทิตย์ก็ฉายส่องออกมา  เมื่อตอนสาย  โลกของทัสมาเนียเป็นอย่างนี้ตะวันเดินเฉียง ๆ มาสาย ๆ แต่แสงจัดจ้า  แม้จะเป็นแดดเย็นก็มีผลทำให้หญ้ายังเขียวขจีอยู่ได้  ฟาร์มใหญ่ ๆ กว้างสุดลูกหูลูกตาจึงมีอยู่มากมาย

                  

          ลานหญ้าเขียวที่จมอยู่ในเกล็ดน้ำค้างหน้าโรงเรือนริมฝั่งแม่น้ำคือที่ที่
ขบวน รถมาจอด  สมาชิกชาวโรตารี่ทั้งหลายต่างกระโดดลงจากรถขนถุงเปล่า  ขนเครื่องไม่เครื่องมืออันมีพลั่ว  ค้อน  เหล็ก  เข้าไปในโรงเรือน   ซึ่งเป็นโรงงานสำหรับตัดและบรรจุขนแกะ 

   ส่วนข้อยนั้นนะใยเข็ม  สะพายกล้องถ่ายรูปแล้วก็เดินย่องๆ(ก็มันหนาวน่ะ)เข้าสู่ประตูคอกซึ่งอยู่เลยออกไป   ด้วยแลเห็นฝูงแกะมากมายบนเนินดินที่ขาวโพลนอยู่ข้างหน้า  อยากไปดูซิว่าพวกมันหนาวกันบ้างไหม   แต่อย่าหวังเลยว่าจะเข้าใกล้มันได้  เราไปซ้ายมันย้ายไปอยู่ขวา  เราไปข้างหน้ามันก็พากันย้ายขบวนไปอยู่ข้างหลัง  เนื้อที่บริเวณรั้วกั้นก็แสนกว้างใหญ่  ครอบภูเขาเตี้ยๆไว้หลายลูก   สุดปัญญาจะฝ่าความหนาวเข้าไปใกล้มันได้  จึงถอยหลังเข้ามาเดินซอกสำรวจในโรงงานที่กั้นไว้เป็นช่อง ๆ สำหรับต้อนแกะเข้าซอง


                   

             
เห็นระบบทำฟาร์มของเขาแล้วรู้สึกอิจฉาอยากเป็นเจ้าของฟาร์มอย่างเขาบ้างนะใยเข็ม  มีอย่างหรือ  เนื้อที่เปล่าเปลี่ยวอย่างนี้  ปล่อยแกะทิ้งไว้เป็นพันๆตัว  เครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักรมากมายหาคนเฝ้าสักคนก็ไม่มี  ขโมยขโจรไม่รู้หายหัวไปไหนหมด เมื่อชาวคณะของเรามาถึงนั้นเห็นมีเด็กสาวผมสีทองหน้าใสๆคนหนึ่งขี่ม้ามาดู   พอให้รู้ว่าใครมาเท่านั้นแหละแล้วจากไป   ไม่ลงจากหลังม้าด้วยซ้ำ    ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วง

ตัดขนแกะด้วย   จึงไม่มีคนงาน

ในโรงงานเลย   ชาวคณะของเรามาถึงก็เปิดประตูปึงปัง   แล้วทำการงัดไม้พื้นกระดานกันโป็กเป๊ก 

ไปงัดไม้พื้นกระดานกันทำไมเหรอ….?

                        ข้อยจะบอกให้นะใยเข็มที่รัก พื้นไม้กระดานของโรงเรือนนี้ เป็นไม้กว้างประมาณ 3 นิ้วปูไว้ห่างๆกันเป็นร่องๆ เวลาคุณแกะทั้งหลายถูกต้อนเขามารอคิวเข้าไปกล้อนขนหรือฉีดวัคซีนนั้น  เธอก็จะพากันถ่ายมูลออกมาไม่เลือกเวลาล่ำเวลา ประสา

สัตว์นั้นแหละ  มูลนั้นก็จะตกลงในร่องหรือไม่ก็ถูกกวาดลงไปกองอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง  ซึ่งเขาลาดเอียงลงสู่ที่ต่ำริมฝั่งแม่น้ำสะดวกแก่การเก็บกวาดทำ  ความสะอาด 

และขนย้ายนำไปทำปุ๋ย

            อันว่าสัตว์สี่เท้าเขางอๆ ตัวกลมๆ คอสั้นๆ ที่เรียกว่า Sheep หรือแกะนี้ช่างมีคุณอนันต์กับชาวบ้านร้านถิ่นที่นี่เหลือเกิน  กินอยู่ก็แสนง่าย  มีเพียงหญ้าไว้ให้ก็พอแล้ว  ทั่วทั้งตัวนั้นเป็นประโยชน์ทั้งหมด  รู้ไหมเนื้อลูกแกะที่เรียกว่า Lamb นั้นเป็นอาหารชั้นหนึ่งเชียวนะ  ขนแกะก็เป็นสินค้าส่งออกทำรายได้ให้ทัสมาเนียปีหนึ่งๆ เป็นเงินไม่น้อย   ผืนแผ่นดินและภูมิอากาศแห่งทัสมาเนียเป็นที่ผลิตขนแกะได้ดีเยี่ยมแห่งหนึ่งของโลก  แกะเป็นสินค้าส่งออกทั้งที่เป็นตัวเป็นๆและเนื้อ  ขน ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ผลิตจากขนแกะ  เช่น เสื้อ  หมวก  รองเท้า  พรม  ฯลฯ 

            เจ้าของฟาร์มแห่งนี้เป็นชาวอังกฤษ  นานๆครั้งจึงจะมาสักทีหนึ่ง  ทิ้งปราสาทหลังใหญ่เชิงเขาไว้ให้หงอยเหงาว่าเปล่าในโลกกว้าง  หากอยู่แถวบ้านเราคงสบายขโมยไปแล้ว

                  

             
ข้อยดูไป  จดไปตามประสาจนได้เวลากินน้ำชาจึงกลับไปที่รถ  ชาวคณะต่างละมือจากงานมาทานอาหารว่างกัน  เห็นฝรั่งกินข้าวห่อ(ที่จริงขนม นม กาแฟ และเนย)  แล้วคิดถึงเด็กน้อยชั้นอนุบาลบ้านเราที่นำข้าวห่อมากินที่โรงเรียนจัง  พอเสียงระฆังดังขึ้นแม๊ง ๆ …..เท่านั้นแหละต่างคนต่างเอากล่องเอากระติบของตนออกมาเปิด  นั่งกินกันเป็นวง  แต่ของใครของมัน  ของฉันต่างหาก  ไม่เกี่ยวกับใครเด้อ….  อะไรทำนองนั้นนะ  ฝรั่งตัวใหญ่ ๆ ที่นี่ก็ทำอย่างนั้น เสร็จสรรพก็กลับไปทำงานต่อจนได้เวลาอาหารเที่ยงก็ทำแบบเก่าอีกเออก็ดีไปอย่างง่ายๆสบายๆ ดี   หากแต่ว่าในความรู้สึกจริงๆของข้อย  ซึ่งเป็นคนไทยอีสานเติบโตมาจากบ้านป่าผาดอน  เคยหาบกระดอนคอนตระกร้าใส่กระติบข้าวเหนียว  กระปุกปลาร้าไปกินข้าวป่าที่ริมห้วยปลายนา  ไ ปกันทั้งหมู่บ้าน ถือจอบ  เสียม  แห  สวิง  ไปขุดกบหาปลา คนไม้คนละมือ  ใครได้อะไรก็เอามารวมกัน  แล้วช่วยกันต้มแกงแบ่งกันกินถ้วนทั่ว  มันให้รสชาติที่ดีและอบอุ่นกว่ากันเยอะเลย


                    

                       
ช่วงบ่ายแสงแดดส่องจ้าออกมา  ขับไล่หมอกน้ำค้างให้จางหาย 

มองจากหน้าต่างโรงเรือนออกไป เห็นภูเขาเขียวครื้ม  มีหิมะขาวโพลนปกคลุมยอดเขาสูงๆ มองเหมือนมันสวมหมวกขนแกะ อีกด้านคือเมืองฟิงกัล  มองไกลๆเหมือนบ้านขนมตั้งเรียงรายลดหลั่นอยู่บนเนินเขาเกือบบ่าย 3 โมงถุงปุ๋ยที่ได้รับการบรรจุเต็มแล้วกว่า 300 ถุงก็ขึ้นไปกองพะเนินบนรถพ่วงสองคันและรถบรรทุกเล็กอีกหนึ่งคัน เป็นที่เรียบร้อย  ทั้งหมดช่วยกันปูพื้นกระดานที่ถูกรื้อออกให้กลับเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาโบกมือลาฝูงแกะ ผู้ผลิตปุ๋ยให้โดยไม่คิดมูลค่า  เห็นหน้าซื่อๆที่นิ่งมองตามหลังแล้วข้อยก็เลยหยิบปากกาขึ้นมาเขียน  ตามประสาลูกคนช่างเขียนนั้นแหละจ้า

 

            ตัวกลมๆ   สีมอๆ   คอสั้นๆ              หน้าตาเจ้านั้นซื่อๆ  ตาใสๆ

ขนหยิกฟูหัวหูนั้นช่างน่าขันกระไร                 เขานั้นไซร้โค้งงอเป็นขอเคียว

นี่นะหรือที่ชื่อเจ้าเขาเรียกแกะ           ตลอดวันเอาแต่และเล็มหญ้าเขียว

ไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรือเปล่าเปลี่ยว                  ถามหน่อยเชียวว่าสุขทุกข์เป็นอย่างไร

เข้าใจหรือเปล่า

 

            วันนี้ได้แต่  Bag Sheep Manure ทั้งวันเบื่ออ่านไหมจ๊ะใยเข็ม เอาไว้วันหน้าไปขี่ม้าเห็นจะเข้าท่ากว่านะ

รักเจ้าหลาย

จาก ข้อยเอง

เอื้อยนาง

Tags : OUYNANG เอื้อยนาง ทัสมาเนีย ออสเตรเลีย

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view